"พท." ขู่! ซักฟอกรัฐบาลประมาททำโควิดระบาดรอบใหม่ ซัดเลินเล่อปล่อยแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศ "เจ๊หน่อย" จี้รัฐเร่ง 3 มาตรการด่วนป้องกันแพร่กระจาย "ส.ส.ก้าวไกล จ.สมุทรสาคร" ขออย่าหาแพะรับบาป "แรมโบ้" แจงนายกฯ ทำงานหนักเพื่อประชาชน วอนอย่าตำหนิอย่างเดียวให้ช่วยกันแก้ปัญหา "ธนาธร" ประกาศกักตัวโควิด 14 วัน หลังลงหาเสียงพื้นที่เสี่ยง
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ว่า เรื่องนี้ตนเห็นว่าเป็นความประมาทเลินเล่อและสะเพร่าของฝ่ายรัฐบาลที่ปล่อยปละละเลย ทั้งที่จริงๆ แล้วทางสาธารณสุขมีมาตรการจัดการที่ชัดเจน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเราเห็นได้ว่ามีการนำเข้ามาจากชายแดนโดยเฉพาะด่านธรรมชาติ ฟ้องได้ชัดเจนว่าแทนที่จะเข้มงวดกับการเข้าสู่ประเทศของเรา แต่กลับปล่อยปละละเลยจนกระทั่งเกิดเหตุนี้ขึ้น
"รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ อยากฝากไว้ว่าถ้าเรามีรัฐบาลอย่างนี้เราก็ต้องช่วยเหลือตัวเองเป็นหลัก มาตรการต่างๆ ที่จะป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือ ประชาชนต้องระมัดระวังช่วยตัวเองเป็นหลัก" นพ.ชลน่านกล่าว
ถามว่าจะนำการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ครั้งนี้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในปีหน้าหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นประเด็นที่ถือว่าประเทศเสียหายมาก ทีมงานต้องนำมาพิจารณาว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะผลกระทบมันเยอะมาก ถ้ามีการล็อกดาวน์อีกรอบคงจะเสียหายหนัก
"ในวันที่ 22 ธ.ค. คณะทำงานของพรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมว่าจะกำหนดประเด็นอะไรในการอภิปรายที่จะถึง" ส.ส.เพื่อไทยรายนี้ระบุ
ขณะที่ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค พท.กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดโควิด-19 รอบที่สอง พรรคมีความกังวลในการคัดกรองแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาอย่างผิดกฎหมาย มีความห่วงใยในการดูแลสถานการณ์ของ ผอ.ศบค.ที่ไร้ประสิทธิภาพในการจัดการปัญหา ทั้งมิติด้านความมั่นคงและหลักสุขภาพ การมีอยู่ของ ศบค.สะท้อนการรวมศูนย์อำนาจ แต่ยังหาผู้รับผิดชอบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ แรงงานต่างด้าวที่หลบหนีจากประเทศเพื่อนบ้านมีผู้ติดเชื้อสูงสุด การเฝ้าระวังตามแนวชายแดนเป็นสิ่งสำคัญ
"พรรคเข้าใจในสถานการณ์เป็นอย่างดี ขอให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์, อสม. และอยากให้ประชาชนตระหนักในมาตรการป้องกัน แม้รัฐบาลจะการ์ดตกไปบ้าง แต่ประชาชนอย่าการ์ดตก ส่วนการล็อกดาวน์เราเป็นห่วงว่าจะกระทบกับเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ควรจำกัดวงในการล็อกดาวน์ เพื่อให้ผลกระทบทางเศรษฐกิจเกิดน้อยที่สุด" โฆษกพรรค พท.ระบุ
ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สมาชิกกลุ่มสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "เราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว 3 มาตรการที่ต้องรวดเร็ว เร่งด่วน รัดกุม เพื่อรับมือการ ระบาดโควิด-19 รอบใหม่" โดยสรุประบุว่า "ขอบอกอย่างตรงไปตรงมาเราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว จึงขอเสนอ 3 มาตรการเร่งด่วนที่ต้องทำทันที ทำให้เร็วอย่างเข้มข้นและรัดกุมมากที่สุด คือ 1.ล็อกดาวน์จริงจังป้องกันการแพร่ข้ามอำเภอ ข้ามจังหวัด 2.เข้มข้นตรวจตรา เฝ้าระวังชายแดน และ 3.ปูพรมตรวจเชื้อทุกจังหวัด"
ด้านนายทองแดง เบ็ญจะปัก ส.ส.จังหวัดสมุทรสาคร เขต 1 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อในจังหวัดสมุทรสาครแล้วหลายร้อยคน และมีทีท่าว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอัตราเร่ง จึงสร้างความกังวลให้ประชาชนอย่างสูง เพราะเพิ่งฟื้นตัวจากผลกระทบที่ผ่านมาระลอกแรก หากเศรษฐกิจฟุบอีกการสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาคงไม่สามารถทำได้ง่าย เว้นแต่ครั้งนี้จะมีแนวทางบริหารจัดการที่ดีขึ้นกว่าเดิม และเป็นการจัดการปัญหาอย่างเข้าใจ
นายทองแดงกล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องทำอย่างเร่งด่วนคือ สร้างการรับรู้ของประชาชนทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ ไม่สร้างแพะรับบาปเพราะไม่มีใคร อยากที่จะป่วยเป็นโรค ต้องไม่สร้างความเกลียดชังระหว่างเชื้อชาติ รวมทั้งต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าจะมีระบบการดูแลประชาชน หากมีการล็อกดาวน์เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ ไม่ให้ประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่สมุทรสาครแห่กักตุนสินค้าอุปโภคบริโภค หน้ากาก เจลล้างมือ จนกลายเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์เข้าไปอีกเหมือนที่เคยเกิดมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีพรรคเพื่อไทยตำหนิการแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่ของรัฐบาลว่า การทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างหนัก มีมาตรการต่างๆ ที่เข้มงวดออกมาดูแลตามแนวชายแดนมาโดยตลอด เจ้าหน้าที่มีการตรวจเข้มทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ด้วยพื้นที่ตามแนวชายแดนมีระยะทางที่ไกลจึงอาจทำให้มีการเล็ดลอดเข้ามาได้
"สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ นายกฯ หรือรัฐบาล แม้แต่ประชาชนทุกคนและคนในพรรคเพื่อไทยเองไม่อยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นคนในพรรคเพื่อไทยที่เป็นตัวแทนของประชาชนก็ต้องให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาด้วย ดีกว่าจะออกมาตำหนิรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว ทั้งที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำงานหนักในการแก้ไขปัญหานี้ และได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถทำได้เป็นอย่างดี เป็นที่ยอมรับ และในครั้งนี้ตนเองเชื่อว่ารัฐบาลยังจะสามารถบริหารจัดการได้เช่นเดียวกัน" นายสุภรณ์กล่าว
น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐได้หารือและแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นในหลายจังหวัด โดยเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความร่วมมือของภาคประชาชน ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นและร่วมมือกับรัฐบาล ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้างและเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
"เวลานี้ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกับรัฐบาล มากกว่าที่จะมาโทษกันไปมาว่าใครผิดใครถูก ซึ่งไม่ได้ก่อประโยชน์ให้กับประชาชน พร้อมเรียกร้องถึงการแสดงความคิดเห็นและข้อมูลที่ควรเป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา ไม่ใช่การสื่อสารข้อมูลที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริงที่จะนำไปสู่การเข้าใจผิดได้" โฆษกพรรค พปชร.กล่าว
วันเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ผมและทีมหาเสียงคณะก้าวหน้าขอกักตัวเพื่อเฝ้าสังเกตอาการโรคติดเชื้อโควิด-19 สืบเนื่องจากการที่เดินทางไปยังสมุทรสาครและหลายพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เป็นบุคคลที่เสี่ยงติดเชื้อ"
"ขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบว่าผมได้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลทันทีที่ทราบข่าวการแพร่ระบาดครั้งใหม่ที่สมุทรสาคร และผลออกมาว่าผมไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 โดยผมได้แนบเอกสารยืนยันผลการตรวจมาในโพสต์นี้แล้ว อย่างไรก็ตาม ผมและทีมหาเสียงที่เดินทางไปยังพื้นที่ที่พบการระบาดของโรค จะกักตัวและเฝ้าสังเกตอาการตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขเป็นระยะเวลา 14 วัน โดยนับจากวันนี้เป็นต้นไป เพื่อให้ครบระยะฟักตัวของเชื้อโรค จึงเรียนมาเพื่อความสบายใจของประชาชนทุกท่าน เราจะผ่านพ้นการระบาดระลอกใหม่นี้ไปด้วยกัน" นายธนาธรระบุ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |