21 ธ.ค.63 - เ​ว​ลา 11.30น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ กระทวงสาธารณสุข  ให้เตรียมเกณฑ์ขึ้นมา ก่อนหน้านี้มีการประกาศล็อกพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อพบผู้ติดเชื้อเกินกว่า 500 คน ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงสั่งล็อกดาวน์ใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ  แต่ถ้าจะเป็นการล็อกดาวน์ในหลายจังหวัด จะต้องบังคับใช้กฎหมายฉบับใด และปิดอย่างไร ซึ่งนายกฯ ให้สั่งการให้ สธ.ไปทบทวนหลักเกณฑ์มานำเสนอใหม่อีกรอบ พร้อมสั่งให้เตรียมหลักเกณฑ์ กรณีต้องล็อกดาวน์หลายจังหวัดหรือทั้งประเทศไว้ให้พร้อมด้วย

“นายกฯ ยังได้กำชับให้สถานศึกษาขอให้ดูแลเด็กนักเรียน และเตือนถึงการชุมนุมสถานการณ์ในช่วงนี้ไม่เหมาะสมให้มารวมตัวกัน ในพื้นที่ระบาดอาจให้มีการทำงานที่บ้าน เมื่อออกนอกบ้านขอให้คนไทยเตือนกันสวมหน้ากาก เมื่อออกมาพบกันในที่ชุมชน อย่าไปโกรธกัน เป็นการเตือนกันด้วยความหวังดี” โฆษก ศบค.ระบุ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่าโรงงานที่ใช้แรงงานต่างด้าวกระจายอยู่มากมาย ขอให้ผู้ประกอบการทุกโรงงานที่มีแรงงานเสี่ยงหาชุดตรวจแรพพิตเทส หรือชุด ตรวจหาเชื้อโควิดแบบแปรผลเร็ว ซึ่งมีขายทั่วไปในท้องตลาดไปใช้ตรวจเบื้องต้น เพราะหากรอการตรวจของภาครัฐอาจล่าช้า และต้องพ่นยาฆ่าเชื้อสม่ำเสมอ บังคับคนงานให้สแกนไทยชนะทุกโรงงาน ขอให้ลงทุนกันบ้างเพื่อช่วยกัน หากต้องการคำแนะนำ สำนักงานสาธารณสุขทุกแห่งพร้อมให้คำปรึกษา

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การตื่นตูม ตื่นตระหนก ทำให้บรรยากาศยากลำบาก เข้าใจทุกคนที่ต้องเครียด เมื่อเห็นตัวเลขทุกคนต้องช็อก แต่เครียดอย่างไรพอเหมาะสม การกระวนกระวายเกินไป อาจทำให้คุมตัวเองไม่ได้ ขอให้ตื่นตัวให้ตระหนักเพื่อมีสติคุมสถานการณ์ ว่าจังหวัดที้เหลือจะก้าวเดินอย่างไรต่อไป การกล่าวโทษกันจะสร้างบรรยากาศแง่ลบ เมื่อปัญหาเกิดขึ้นมาแล้วควรหาทางแก้ก่อนแล้วค่อยมาปิดช่องโหว่ ซึ่งฝ่ายปกครองก็ช่วยกันเต็มที่ และถือเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องร่วมมือกัน จึงต้องขอความร่วมมือจากทุกคน 100 %

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงประเด็นการจัดงานรื่นเริงเคานต์ดาวน์ปีใหม่ว่าสามารถจัดได้หรือไม่ ว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินสถานการณ์ได้ ซึ่งประเด็นนี้ นายกฯ ได้พูดคุยและสอบถามกันว่าจะแจ้งไปอย่างเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งภาครัฐและเอกชน หากจะขอให้รออีก 7 วัน อาจกระชั้นเกินไปสำหรับภาคเอกชน จึงบอกได้ยากว่าจะจัดงานรื่นเริงได้หรือไม่ ตอนนี้ไม่มีใครบอกได้ว่าตัวเลขวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของพี่น้องแรงงาน ประชาชนคนไทย และสถานประกอบการ ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อลงมาเหลือเพียงหลักสิบ ก็จัดได้ แต่ถ้าตัวเลขพุ่งขึ้นต่อเนื่องมาตรการก็ต้องเข้มข้นขึ้น ผู้จัดงานต้องใช้ตัวเลขที่ ศบค.รายงานไปพิจารณาความเสี่ยง ถ้างานจัดแล้วคนมาเป็นหลักร้อย หลักพันก็เสี่ยงที่จัดไปแล้วติดโรค หรือจัดแล้วคนไม่มางาน ก็ต้องประเมินและแชร์ความเสี่ยงกัน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงกรณีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการระบาดระลอก 2 หรือระบาดใหม่ ว่า ยอมรับว่าตนไม่ใช่นักระบาดวิทยา เป็นแค่ทีมวิชาการ ก็จำคำของเขามาพูดว่าเป็นการระบาดใหม่ ยืนยันว่าการแถลงข่าวไม่มีการปกปิด เมื่อมีข้อมูลเข้ามารายงานทันที ย้ำว่าตื่นตัวได้แต่ไม่ตื่นตูม วัคซีนรอปีหน้า หน้ากากผ้าวันนี้เลย

ด้านนพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กล่าวว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจ.สมุทรสาคร สะสมอยู่ที่ 821 ราย โดยจำแนกเป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง 33 ราย เป็นผู้ป่วยที่ค้นหาในชุมชน 788 ราย ซึ่งผลตรวจออกแล้ว 1,861 ราย โดยมีการตรวจทั้งหมด 4,688 ราย

อย่างไรก็ตามข้อมูลการแพร่ระบาดจุดเริ่มต้นมาจากตลาดกลางกุ้ง ซึ่งเป็นตลาดกุ้งเลี้ยง ไม่ใช่อาหารทะเลทั้งหมด โดยมีสมมติฐานสาเหตุของการแพร่ระบาดมาจากแรงงานเมียนมา เนื่องจากการค้นหาเชิงรุกพบว่ามีการติดเชื้อกว่าร้อยละ 90 ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการเคลื่อนย้ายของแรงงานเมียนมาจากต่างประเทศในช่วงของการระบาด นำไปสู่การแพร่สู่ชุมชนแรงงานเมียนมาเดิมที่อยู่ในสมุทรสาคร และมีการแพร่ประปรายไปยังพื้นที่อื่น ทั้งนี้จุดที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากคือตลาดกลางกุ้ง และหอพักใกล้เคียง ซึ่งขณะนี้ฝ่ายปกครองได้มีการล็อกดาวน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามจะมีการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อ เพื่อให้แน่ชัดว่ามีความเชื่อมโยงกับพื้นที่ไหนกรณีใดบ้าง สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นจำนวนมาก และเป็นวงกว้างมาจากพฤติกรรมของแรงงานเมียนมาที่อยู่ร่วมกันอย่างแออัดในพื้นที่พักอาศัย โดยไม่มีมาตรการป้องกันตัวเอง 

นพ.วิชาญ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะพบแรงงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอยู่ตลอด เป็นรายวัน หรือรายชั่วโมง ซึ่งไม่ต้องตื่นตระหนกเกินไป ตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณที่ดี แสดงว่าระบบการเฝ้าระวังเชิงรุกกำลังทำงาน และ เจ้าหน้าที่ทำงานเข้มแข็ง ขอให้ทุกคนร่วมมือสวมหน้ากาก ล้างมือ ไม่เข้าไปในสถานที่แออัด สังเกตอาการตัวเอง หากมีอาการป่วยต้องไปพบแพทย์ และสามารถเข้าไปใช้บริการแอปพลิเคชัน “ราชวิถีมีหมอ”  ทำแบบประเมินเบื้องต้นได้ว่าเราเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหรือไม่ และแพทย์ตรวจผ่านระบบออนไลน์ ไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับผู้มีประวัติในกลุ่มเสี่ยงสูง เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง สามารถเข้ารับการตรวจได้ทุกที่ ผู้ประกอบการต่างๆ ต้องคัดกรองและบังคับสแกนไทยชนะ ถ้าเราช่วยกันจะสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้