เปิดใจ 'จตุพร' หลังพา 'บุญเลิศ' พ่ายเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงใหม่


เพิ่มเพื่อน    

21 ธ.ค.63 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊กไลฟ์ peace talk ถึงผลการเลือกตั้ง นายก อบจ. เชียงใหม่ว่า ตนยังเป็นนายจตุพรตามเดิม และได้ตัดสินใจถูกต้องแล้วที่มาช่วยนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายก อบจ.

“ผมถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาแล้ว ส่วนผลแพ้-ชนะนั้น ผมยืนยันเสมอว่า การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีเรื่องการว่า แพ้หรือชนะมาเป็นสาระหลัก แต่เป็นการสู้เพื่อความถูกต้อง เพราะถ้าสังคมละเลยหรือไม่สนใจความยุติธรรมของคนจน หรือทางกลับกัน หากสังคมรู้สึกไม่สนใจความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น เพราะไม่ได้เกิดกับตัวเอง เช่นกรณีดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ดังนั้น ผมจึงเชื่อว่า ผลการเลือกตั้งแพ้หรือชนะก็ไม่นำไปชำระล้างความชั่วร้ายการทำลายความยุติธรรมได้ เนื่องจากการเลือกตั้งก็ส่วนการเลือกตั้ง และเลือกตั้งเสร็จก็ยังไม่เป็นที่ยุติต้องเป็นหน้าที่ของ กกต.ต่อไป”

นายจตุพร กล่าวถึงภาพรวมประชาชนใช้สิทธิ์ลงคะแนนว่า คะแนนเสียงทั้งของผู้ชนะและฝ่ายแพ้ ก็ไม่สูญเปล่า แต่ผลเลือกตั้งคือ เข้มทิศที่ทรงพลังให้คนหนุ่มสาว เช่น คนกลุ่มคณะก้าวหน้า จะเดินอย่างมั่นใจไปสู่อนาคต เพราะแม้จะแพ้การเลือกตั้งนายก อบจ. แต่นั่นก็เป็นชัยชนะที่ได้สำแดงพลังออกมาแล้ว

“ผมไม่ใช่พวกขี้แพ้แล้วโจมตี แต่เป็นประเภทนักกีฬา แพ้คือแพ้ ชนะก็ชนะ แต่เชื่อในชีวิตของคนๆหนึ่ง ว่า มีทั้งแพ้และชนะหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามเงื่อนไขเวลาเท่านั้น เพียงรอดูแพ้จะมาช่วงไหน และชัยชนะจะมาอย่างไร”

นายจตุพร ย้ำโดยส่วนตัวว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ได้สำแดงมุมมองอะไรออกมาหลายอย่าง ทั้งอธิบายถึงตัวตนและเป้าหมายต่างๆของคน จึงทำให้รู้ทุกสิ่งทุกอย่างมากขึ้น จึงถือเป็นเรื่องปกติ และยืนยันว่า การหาเสียง แม้มีกระทบกระทั่งกัน แต่ไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวใดๆ เพราะทั้งหมดประกาศอย่างชัดเจนถึงความเชื่อและกำหนดหลักการในการต่อสู้ ซึ่งตนทนเห็นคนที่ถูกรังแกไม่ได้ จึงยืนหยัดเคียงข้างนายบุญเลิศ แม้จะมีศัตรูกับคนจำนวนมาก แต่หลายคนมองเป็นศัตรูก็เคยเป็นมิตรกันมาก่อน

“ผมมีหลักคิดไม่ได้เป็นทาส หรือการแสวงหาประโยชน์จากการเป็นทาส แล้วละเลยความรับผิดชอบชั่วดีนั้น ผมไม่สามารถเดินบนเส้นทางนั้นได้”

อีกอย่าง หลายคนตั้งคำถามว่า หลังจากนี้เป็นอย่างไรต่อ ตนก็บอกว่า ยังเป็นนายจตุพรอย่างนี้ต่อไป ยังเป็นคนไม่อยากได้ใคร่ดี มนุษย์ช่วงชีวิตสุดท้ายเห็นคนดีคนชั่วมากมาย และไม่อีนังขังขอบกับตำแหน่งประธาน นปช. อีกอย่างตนรู้ว่าต้องกำหนดชะตากรรมอย่างไร เพราะสู้มาทั้งชีวิต

นอกจากนี้ กล่าวว่า นักต่อสู้ต่างจากนักการเมือง เพราะนักต่อสู้ภารกิจยังไม่จบลง วันชนะ-วันแพ้ หรือวันต้องตัดสินใจบางอย่าง จึงเชื่อว่าต่อจากนี้จะตัดสินใจง่ายขึ้น ส่วนชีวิตในพรรคการเมือง ตนทำได้แค่การสนับสนุนคนดีในทางการเมือง 

“คนที่ได้ชัยชนะจากประชาชน แต่ไม่รู้ชัยชนะที่ประชาชนมอบให้ ดังนั้น เมื่อทุกคนพร้อมออกจากเรือนจำแล้ว คงได้ปรึกษาหารือกัน และไม่รู้สึกว่าต้องเป็นประธาน นปช.เลย”

นาจตุพร ย้ำว่า บนเส้นทางต่อสู้รอบต่อไป มีเพียงครั้งเดียว ตนจึงไม่เลือกทำตามใจใคร เพราะผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่เหมือนกัน และยังเป็นจตุพรเหมือนเดิม จะเหลือมิตรอีกกี่คน หรือไม่เหลือสักคนก็ตาม ใครอยากกระทืบโชว์ ก็เชิญตามสบาย

ส่วนสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดรอบที่ 2 นั้น นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งที่หนักกว่าคือ สถานการณ์เศรษฐกิจจะเกิดภาวะยุ่งยากลำบาก หนทางที่แก้ปัญหากันได้คงร่วมแรงร่วมใจกัน ถ้าเป็นการเมืองแบบประหัตประหารกันอย่างเดียว เราก็จะเสียบ้านเมือง 

“ผมอยากหวังว่า ให้เป็นเรื่องฝันฝ่าให้ประเทศรอด แม้เป็นการพูดที่สวยงาม แต่ไม่มีทางเลือกอย่างอื่น เพื่อพาประเทศให้พ้นโควิด เอาปัญหาบ้านเมืองก่อน ถ้าเอาการเมืองมาเป็นตัวตั้งเราก็คงไม่มีชาติ”


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"