21ธ.ค.63- นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ของประเทศไทย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นกว่า 600 รายภายในชั่วข้ามคืน จนนำไปสู่การประกาศมาตรการต่างๆ ในพื้นที่เสี่ยงที่พบผู้ติดเชื้อ ตนจึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด อว. ติดตามสถานการณ์และดำเนินการเชิงรุกตั้งแต่ทราบสถานการณ์ ทั้งการดูแลบุคลากร การให้บริการทางการแพทย์และสนับสนุนศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ และมหาวิทยาลัยทุกแห่งติดตามตรวจสอบบุคลากรในสังกัด นิสิตนักศึกษาที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวเฝ้าระวังสังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 14 วัน และให้ปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from home) ให้มหาวิทยาลัยและหน่วยงานหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ไม่จำเป็น และให้เรียนผ่านระบบออนไลน์ (Online) ซึ่งทุกมหาวิทยาลัยในสังกัด อว. ได้เตรียมการรองรับการเรียนออนไลน์ควบคู่กับการเรียนในชั้นเรียน (Onsite) มาตั้งแต่การระบาดในช่วงที่แล้ว และได้ดำเนินการต่อเนื่องมาโดยตลอด ยังไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใด

 สำหรับหน่วยงานในสังกัดทุกแห่งก็ได้มีระบบรองรับการทำงานที่บ้านซึ่งพร้อมปฏิบัติได้ทันที โดยกระทรวงได้มีแนวปฏิบัติแก่อธิการบดีและหัวหน้าหน่วยงาน ซึ่งขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ได้สั่งการให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยงปฏิบัติงานที่บ้านแล้ว ตนอยากจะให้ความเชื่อมั่นกับผู้ปกครองของนิสิตนักศึกษา ว่าทุกหน่วยงาน ทุกมหาวิทยาลัยในสังกัด อว. ได้เตรียมการรองรับสถานการณ์ทั้งในส่วนของแนวปฏิบัติ แผนพร้อมรับเหตุฉุกเฉิน และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศพร้อมใช้ และจะมีระบบเฝ้าระวังและคัดกรองอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการดูแลสุขอนามัยในพื้นที่ การจัดจุดคัดกรองคนเข้า-ออกพื้นที่ และจุดล้างมือ ตลอดจนการดูแลพื้นที่สัมผัสร่วมเป็นพิเศษเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย ให้กับนิสิต นักศึกษา และบุคลากรทุกคน ทั้งนี้จะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจะประกาศมาตรการที่เข้มข้นต่อเนื่องตามสถานการณ์

นายเอนก กล่าวต่อว่า ที่สำคัญในส่วนของโรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยในสังกัด อว. ทุกแห่งได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์มาตั้งแต่การระบาดช่วงที่แล้วและต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ทั้งในส่วนของบุคลากร เจ้าหน้าที่ แพทย์และพยาบาล อุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อพร้อมปฏิบัติหน้าที่รองรับผู้ป่วยอย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งที่ผ่านมาโรงพยาบาลของ อว. ได้มีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้ติดเชื้อทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ รวมทั้งสนับสนุนการวิจัยด้านยา ชุดตรวจ และวัคซีนมาโดยตลอด วันนี้ตนจึงอยากให้กำลังใจทุกฝ่ายและให้ความมั่นใจว่า อว. พร้อมทำหน้าที่ดูแลประเทศไทยให้ผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤติในครั้งนี้ไปได้ด้วยกันแบบ "รวดเร็ว ฉับพลัน ไม่ประมาท แต่ก็ไม่แตกตื่น" และเชื่อว่าด้วยความร่วมมือของทุกๆ ฝ่าย ประเทศไทยจะเอาชนะโควิด-19 ด้วยกันอีกครั้ง