มาสด้าเผยโฉม ALL NEW MAZDA BT-50 พร้อมให้สื่อมวลชนได้สัมผัสและทดลองขับแบบชิมลาง ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2564 โดยมาสด้า BT-50 ใหม่ มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาด คือ 1.9 ซีซี และขนาด 3.0 ซีซี เน้นความประหยัด ขับสนุก และลดมลพิษมากขึ้นกว่ารุ่นเก่า
รถปิกอัพมาสด้า B1500 บี-ซีรีย์ ได้เปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคมปี 1961 เราสามารถเรียกได้ว่ารถมาสด้า บีที-50 เป็นรถที่กำเนิดขึ้นมาอย่างยาวนาน โดยวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อบรรทุกสิ่งของ แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รถปิกอัพ ของมาสด้าก็ยังได้ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อทำให้ช่วงเวลาในการขับขี่บนท้องถนนเต็มไปด้วยความสนุกสนานมากขึ้น มาสด้า บีที-50 ใหม่ จึงได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เป็นยานพาหนะที่นำมาซึ่งความเพลิดเพลินและความสนุกในการขับขี่ให้กับลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟ โดยสามารถใช้งานเพื่อประกอบธุรกิจและใช้ในกิจกรรมยามว่าง รวมถึงยังมุ่งเน้นการออกแบบเพื่อให้ใช้งานง่าย สะดวกสบาย
รถปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและยังคงไว้ซึ่งความสามารถในการบรรทุกที่ยอดเยี่ยม โดยให้ สมรรถนะที่ทรงพลัง การขับขี่ที่มั่นคง และความสามารถในการขับขี่แบบออฟโร้ด ที่พร้อมรับมือได้ทุกสภาพถนนที่ยากต่อการขับขี่ รถรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์อันทรงพลังที่ให้การตอบสนองที่ฉับไว เพื่อให้สอดคล้องกับการจราจรบนทางหลวง ในทางกลับกัน การตอบสนองที่นุ่มนวลและควบคุมได้อย่างเป็นธรรมชาติก็ช่วยทำให้ผู้ขับสามารถควบคุมพวงมาลัยและแป้นเหยียบได้อย่างเป็น ธรรมชาติ ไม่ว่าจะออกตัวจากจุดสตาร์ท การเบรกในเวลารถติด หรือเมื่อเข้าจอดจึงส่งผลให้กลายเป็นรถที่มอบประสบการณ์ที่ น่าพึงพอใจ และลูกค้าสามารถควบคุมการขับขี่ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น มาสด้า BT-50 ใหม่ ยังมาพร้อมเบาะนั่งที่สามารถปรับตำแหน่ง การขับขี่ได้เป็นอย่างดี รวมถึงหน้าจอแบบสัมผัส Center Display และระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมระบบ Infotainment และยังมีระบบอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นสูงอีกมากมาย
รถปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ เป็นรถที่ยอดเยี่ยมในทุกสถานการณ์การขับขี่และเป็นเพื่อนคู่ใจอันแสนวิเศษ ที่จะช่วยให้เจ้าของรถ บรรดาเพื่อนพ้อง และครอบครัวของพวกเขามีชีวิตชีวายิ่งขึ้น รถรุ่นนี้มาพร้อมการออกแบบตามแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ และมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ตอบสนองความต้องการของผู้ที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟ และยังมอบความสุนทรีย์ รวมถึงความสะดวกสบายของห้องโดยสาร ที่ผู้โดยสารทุกคนสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับบทสนทนาไปตลอดการเดินทาง รถปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ จึงกลายเป็นรถที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนำมาซึ่งความสุนทรีย์และความสะดวกสบายของผู้โดยสารทุกคน
มาสด้า BT-50 ใหม่ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด โคโดะ ดีไซน์ เช่นเดียวกับรถยนต์มาสด้ารุ่นอื่นๆ ด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบเพื่อให้สามารถ “ใช้งานได้ทุกโอกาส” จึงทำให้รถปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ โดดเด่นในทุกการใช้งาน ตั้งแต่การใช้งานแบบทางการไปจนถึงการขับแบบออฟโร้ด ซึ่งเคล็ดลับอยู่ที่การผสมผสานระหว่างแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงามของมาสด้า กับความทรงพลัง ทนทาน และประโยชน์ใช้สอยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถปิกอัพ โดยออกแบบตามแนวคิดโคโดะ มีรายละเอียดที่งดงามและให้ความรู้สึกหนักแน่น ในขณะที่ด้านหน้าดูมีมิติ เส้นสายบนตัวรถช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งซึ่งเหมาะกับรถปิกอัพ ซิกเนเจอร์วิงส์และไฟหน้าที่มีรูปทรงกระบอก ทำให้มองแล้วรู้ทันทีว่าเป็นรถมาสด้า เช่นเดียวกับการออกแบบภายในที่ผสมผสานอย่างมีรสนิยมระหว่างคุณภาพและความแข็งแกร่งของรถปิกอัพ สิ่งนี้ทำสำเร็จได้โดยการออกแบบแผงหน้าปัดและองค์ประกอบต่างๆ ในแนวนอน ทำให้ได้ภายในที่กว้างขวาง และการตกแต่งด้วยสีเมทัลลิก ก็ยังช่วยเพิ่มมุมมองแบบสามมิติให้กับห้องโดยสารอีกด้วย มาสด้า BT-50 ใหม่ ถูกพัฒนาขึ้นจากพื้นฐานของรถปิกอัพ ที่รวมถึงอัตราเร่งอันทรงพลังของเครื่องยนต์ดีเซลเมื่อออกตัวจากจุดสตาร์ท และความสามารถในการขับขี่บนถนนขรุขระ รวมถึงสามารถขับลุยน้ำได้สูงถึงระดับ 800 มม. อีกทั้งยังให้ความรู้สึกนุ่มนวล และการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกับรถครอสโอเวอร์เอสยูวี เมื่อต้องการเร่งความเร็ว เช่น การเร่งเครื่องเพื่อให้เหมาะสมกับการจราจรบนทางหลวง รถปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ ก็ให้พละกำลังที่เหลือล้นและตอบสนองต่อความตั้งใจของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ง่ายต่อการขับขี่ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่แบบออฟโร้ด หรือเลี้ยวในที่แคบ นอกจากนี้กระบะท้ายรถก็ยังสามารถรับน้ำหนักได้อย่างเหลือเฟือ และยังง่ายต่อการขนถ่ายสิ่งของ
มาสด้า BT-50 ใหม่ มาพร้อมกับฟังก์ชั่นอันหลากหลายที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและง่ายต่อการใช้งาน รวมถึง พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง กุญแจรีโมทอัจฉริยะ ที่สามารถ สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมทและมีฟังชั่นเปิดไฟในห้องโดยสารอัตโนมัติ (Welcome Light) รวมถึงมือจับที่ช่วยให้ผู้โดยสารแถวหลัง ขึ้นและลงจากรถได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบ Infotainment รวมถึงหน้าจอแสดงผลความคมชัดสูง WXGA และฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ซึ่งฟังก์ชั่นต่างๆ เหล่านี้ช่วยมอบความสะดวกสบาย และทำให้การขับขี่ในทุกสถานการณ์เต็มไปด้วยความสนุก สำหรับภายในห้องโดยสารมีความสะดวกสบายและมีความเงียบเทียบเท่ากับรถเอสยูวี การออกแบบภายในทิศทางแนวราบมอบความรู้สึกที่เปิดกว้าง ในขณะที่ระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างเบาะนั่งฝั่งซ้ายและขวาก็ช่วยทำให้ห้องโดยสารกว้างขวางและโอ่อ่า การเย็บที่ประณีตของวัสดุตกแต่งบริเวณคอนโซลส่วนบน ทำให้สัมผัสได้ถึงคุณภาพระดับสูง ซึ่งจะช่วยให้การขับขี่ทางไกลสะดวกสบายและสนุกมากยิ่งขึ้น สำหรับรุ่นดับเบิ้ล แค็ป มีการเพิ่มช่องแอร์ด้านหลัง และช่อง USB เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารแถวหลังยิ่งขึ้น รถปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่มอบความปลอดภัยให้กับทุกสถานการณ์การขับขี่ ทำให้ผู้ขับและผู้โดยสารทุกคนมีความมั่นใจและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
การออกแบบภายนอก คือออกแบบตามแนวคิด โคโดะ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวอันสง่างาม มาผสมผสานกับความทรงพลัง ความทนทาน และประโยชน์ใช้สอยที่เป็นเอกลักษณ์ของรถปิกอัพมาสด้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ให้สามารถ “ใช้งานได้ทุกโอกาส” มาสด้าได้ออกแบบให้รถโดดเด่นในทุกสถานการณ์การขับขี่ ตั้งแต่การใช้งานแบบทางการจนถึงการขับแบบออฟโร้ด กระโปรงหน้ารถที่สูงทำให้ด้านหน้าดูบึกบึนและทรงพลังตามแบบฉบับของรถปิกอัพ นอกจากนั้น เส้นสายที่ลากยาวต่อเนื่องจากไฟหน้าไปตามแนวสะท้อนของด้านข้างรถต่อเนื่องไปจนถึงไฟท้าย ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายของ โคโดะ ดีไซน์ ทำให้สามารถตัดทอนองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นออกไปได้ทั้งหมด แต่ในทางกลับกันก็ช่วยทำให้รู้สึกถึงคุณภาพของการออกแบบที่เกินกว่าจะหาได้จากรถปิกอัพทั่วๆ ไป ด้านหน้ารถประกอบด้วยกระจังหน้าที่สูงและตั้งตรงที่ให้ความรู้สึกสง่าผ่าเผย ซิกเนเจอร์วิงส์ที่แผ่ขยายออกทางด้านข้างและไฟหน้ารูปทรงกระบอกสูบ ก็ทำให้ดูดุดันและแสดงถึงความงดงามอันประณีตที่มองแล้วรู้ได้ทันทีว่าเป็นรถมาสด้า เมื่อมองจากด้านหลัง ซุ้มล้อที่ดูโดดเด่นให้ภาพลักษณ์ที่ทรงพลัง กระบะท้ายที่ทอดยาวไปจนถึงสัญลักษณ์มาสด้าที่ด้านหลัง สร้างความรู้สึกที่ต่อเนื่องจากด้านหน้ารถไปจนถึงด้านหลัง โดยรวมแล้ว การออกแบบได้สะท้อนถึงคุณภาพและความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า ไฟหน้าแบบ LED ได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงโฉบเฉี่ยว และเป็นทรงกระบอก ทำให้ได้แสงไฟที่สว่างไสว ดูมีมิติและชัดเจน ที่เห็นแล้วรู้ว่าทันทีว่าเป็นลักษณะการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า ส่วนไฟท้ายก็เป็นรูปทรงกระบอกเช่นเดียวกับไฟหน้า ซึ่งสอดคล้องกับสไตล์การออกแบบไฟทรงกลมอันเป็นลักษณะเฉพาะของมาสด้า
ภายในถูกออกแบบให้สอดคล้องกับธีมการออกแบบภายนอก โดยผสมผสานระหว่างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของมาสด้า กับความทนทานและทรงพลังของรถปิกอัพ การออกแบบคอนโซลในแนวราบที่ขยายออกไปถึงประตูทั้งสองด้าน ทำให้ห้องโดยสารมีความสะดวกสบายและมีพื้นที่กว้างขวาง คอนโซลหน้าที่ดูแข็งแรง และช่องแอร์ ก็ยังช่วยเพิ่มความรู้สึกที่แข็งแกร่งและทรงพลังให้กับรถปิกอัพ แผงคอนโซลหน้ามาพร้อมกับแผ่นรองหัวเข่าและใช้การออกแบบที่เน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางอันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า และสุดท้าย การเดินตะเข็บด้ายอย่างพิถีพิถันบนแผงหน้าปัด คอนโซลหน้า และแผ่นรองหัวเข่า ก็ช่วยเพิ่มสัมผัสถึงคุณภาพของการตกแต่งภายในห้องโดยสาร การออกแบบแผงหน้าปัด มาพร้อมกับมาตรวัดแบบอนาล็อก 2 ชุด โดยมีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่อยู่ตรงกลาง และมีแผงหน้าปัดด้านหลังสีดำสนิท จึงทำให้ตัดกันอย่างชัดเจนระหว่างตัวอักษรสีขาวกับขอบสีเงินของมาตรวัดแบบอนาล็อก ซึ่งให้ความรู้สึกลุ่มลึกและดุดัน ช่องแอร์ถูกวางตำแหน่งในส่วนกลาง ด้านซ้าย และด้านขวา ของคอนโซลหน้า ทำให้ดูมีมิติ และตกแต่งคอนโซลหน้าด้วยแถบที่ลากยาวจากกลางคอนโซลต่อเนื่องไปยังเบาะนั่งผู้โดยสาร ซึ่งช่องแอร์และแถบกลางคอนโซลนี้ได้ถูกตกแต่งด้วยสีเงินเข้มที่ให้ความรู้สึกสงบ กรอบช่องแอร์สีเงินเข้มก็ยังช่วยเสริมสร้างความสง่างาม ในขณะที่สีดำด้านที่ตกแต่งแผงคอนโซลก็ให้ภาพลักษณ์ที่หนักแน่นของเมทัลลิก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยผสมผสานการแสดงออกถึงความแข็งแกร่งของรถปิกอัพกับความลงตัวของการออกแบบ รถปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูง WXGA ขนาด 7 นิ้ว หรือ 9 นิ้ว ซึ่งตั้งอยู่ด้านบนของคอนโซลหน้า และยังมีจอแสดงผล Multi-information Display ขนาด 4.2 นิ้ว ที่สามารถควบคุมระบบนำทางด้วยการสัมผัสได้ และยังมี Apple CarPlay® และฟังก์ชั่น Android Auto™ และในบางรุ่นยังรองรับฟังก์ชั่นการควบคุมการทำงานด้วยเสียง อีกด้วย
มาสด้า BT-50 ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร มาพร้อมระบบคอมมอนเรลแรงดันสูงที่ฉีดเชื้อเพลิงที่แรงดันสูงสุดถึง 250 เมกะปาสกาล (MPa) และ VGS เทอร์โบที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีการเคลือบฉนวนที่ลูกสูบและเกียร์ Double-scissors ที่ช่วยลดเสียงรบกวน สิ่งเหล่านี้ถูกรวมอยู่ในเครื่องยนต์จึงทำให้สามารถเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ และช่วยลดเสียงรบกวน และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.9 ลิตร ระบบควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำงานแม่นยำอัตราทดเกียร์ที่เหมาะสม เสริมการควบคุมอัตราเร่งที่เพิ่มความเร็วรอบเมื่อออกจากจุดสตาร์ท และระบบหล่อเย็น EGR ถูกติดตั้งมาในฝาสูบ พร้อม Water Jacket ช่องทางระบายความร้อนด้วยน้ำภายในเสื้อสูบและฝาสูบในท่อทางเดิน EGR ซึ่งเครื่องยนต์นี้ให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มีความเงียบและทนทาน และให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังเมื่อเร่งเครื่องออกจากจุดสตาร์ท รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 14.1 กม./ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 16.1 กม./ลิตร
ระบบเกียร์ มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด สิ่งที่ต้องการสำหรับการเลือกใช้งานระบบเกียร์ธรรมดา ซึ่งรถปิกอัพ มาสด้า BT-50 ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น โดยเพิ่มความแข็งแรงของคันเกียร์เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์ราบลื่น มั่นคง และกระชับมากยิ่งขึ้น ระบบเกียร์อัตโนมัติมีขนาดกะทัดรัด มีชุดตัดต่อกำลังที่มีน้ำหนักเบา และระบบล็อคอัพที่ทรงพลัง ซึ่งส่งผลให้รถมีการตอบสนองที่ดีเยี่ยมเมื่อออกตัวและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น และระบบขับเคลื่อนแบบ 4x4 ในรุ่น 4x4 ใช้เพลาขับที่ทำจากอลูมิเนียมจึงทำให้มีน้ำหนักเบาขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเกียร์ส่งกำลัง โดยช่วยให้สามารถสลับโหมดการขับเคลื่อนและการทำงาน 4H/4L ได้เร็วขึ้นเมื่ออยู่ในโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ นอกจากนี้รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือ 4x4 ยังมาพร้อมกับระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า ที่ช่วยเพิ่มพลังขับเคลื่อนสูงสุดได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนถนนที่ขรุขระ ด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ (Double-Wishbone) และชุดแหนบ (Leaf Spring) ทำให้ช่วงล่างของรถปิกอัพมาสด้า BT-50 สามารถให้การควบคุมรถอย่างมีเสถียรภาพและขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ในรุ่น ยกสูง ยังได้มีการเสริมตัวยึดด้านหน้ากันโคลง เพื่อเพิ่มความสมดุลให้กับตัวรถมากขึ้น การติดตั้งแผงคอนโซลกลางที่ยึดกับพื้นตัวถังและการติดตั้งแผงคอนโซลหน้าได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อลดการสั่นสะเทือนที่ส่งมาจากโครงแชสซี มีการติดตั้งโฟมเข้าไปภายในเสาแต่ละต้นเพื่อช่วยดูดซับเสียงจากแผงประตูด้านข้าง รวมไปถึงพรมปูพื้นและฉนวนได้ถูกผลิตขึ้นเป็นชิ้นเดียวกันทำให้สามารถดูดซับเสียงได้อย่างดีเยี่ยม รถปิกอัพมาสด้า BT-50 ได้ใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อพัฒนาให้ห้องโดยสารเงียบมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ แผงหน้าปัดยังติดตั้งอยู่กับตัวถังโดยตรงเพื่อลดการสั่นสะเทือนที่ส่งไปยังพวงมาลัย ส่วนประสิทธิภาพเบรกดิสก์เบรกหน้าสำหรับรถปิกอัพ มาสด้า BT-50 มีทั้งหมด 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด 17 และ 15 นิ้ว ในขณะที่ด้านหลังใช้ดรัมเบรกขนาด 15 นิ้ว ซึ่งจากการปรับตั้งทำให้สามารถหยุดล้อได้อย่างยอดเยี่ยม และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหม้อลมเบรก ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการควบคุมเบรก ระบบความปลอดภัยความปลอดภัยเชิงป้องกันรถปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่ช่วยให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในทุกสถานการณ์การขับขี่ มีระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA ระบบช่วยจอด Parking Aid ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน หรือ HLA ไฟหน้าแบบ LED ไฟหน้าสูงและต่ำเป็นแบบหลอด LED ให้ลำแสงสีขาวสว่างช่วยให้มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่ในเวลากลางคืนและช่วยประหยัดพลังงาน นอกจากถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับและฝั่งผู้โดยสารที่เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นพื้นฐานแล้ว รถปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ ยังมาพร้อมม่านถุงลมนิรภัยและถุงลมนิรภัยด้านข้าง ที่ช่วยลดอันตรายที่อาจจะเกิดกับศีรษะและหน้าอกของผู้ขับและผู้โดยสาร ซึ่งรถรุ่นนี้มาพร้อมกับถุงลมนิรภัยรวมสูงสุด 6 ตำแหน่ง เบาะนั่งด้านหน้าถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บที่คอเมื่อเกิดการชนท้าย และยังมีเซ็นเซอร์แจ้งเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้า ที่ช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัย
หลังจากได้สัมผัสมาสด้า BT-50 รุ่นเครื่องยนต์ 1.9 ซีซี และรุ่น 3.0 ซีซี เห็นถึงความแตกต่างเด่นชัดในเรื่องของสมรรถนะการเร่งแซง และช่วงล่าง โดยเครื่องยนต์ 1.9 ซีซี จะไม่ดุดันอัตราเร่งค่อยๆมา เน้นเรื่องความประหยัด ส่วนช่วงล่างนุ่มสบายไม่กระด้าง สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 3.0 พละกำลังและอัตราเร่งดีขับสนุก ตอบสนองการขับขี่ได้ดี ระบบช่วงล่างก็หนึบมากขึ้นด้วย ส่วนน้ำหนักของพวงมาลัยทั้งสองรุ่นควบคุมได้ง่าย ให้ความแม่นยำเมื่อเลี้ยวและเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ระบบเบรกมั่นใจทำได้ดี ส่วนรูปลักษณ์จัดได้ว่าหล่อ หรู น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับคอกระบะในเมืองไทย โดยจะเปิดตัวและแนะนำราคาอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2564 เพียงอีกไม่กี่สัปดาห์ สิงห์กระบะอดใจรอกันอีกนิด
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |