ลูกผอ.ชี้มีเงื่อนงำบุกยิงพ่อคาคลินิก


เพิ่มเพื่อน    


    คุมตัวมือยิง ผอ.รพ.พระจอมเกล้าทำแผน ชาวบ้านฮือจะล้อมกรอบ พร้อมตะโกนสาปแช่ง ตำรวจต้องเอาไปซ่อนในรถ ลูกชายผู้เสียชีวิตยันไม่เชื่อข้ออ้างผู้ต้องหาที่ว่าไม่พอใจการให้บริการภาครัฐและตัวเองเมายา ชี้น่ามีมูลเหตุอื่น เพราะจากพฤติกรรมไม่เหมือนคนเมายา แต่เตรียมการมาก่อน ตำรวจจึงควรเพิ่มข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรอง
    เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ที่คลินิกแพทย์ชุมพล ถนนดำเนินเกษม ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.รณกร ประคองศรี ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี นำตัวนายเด่นภูมิ สังข์ทอง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 1 ต.สำมะโรง อ.เมือง จ.เพชรบุรี ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะไม่ได้รับอนุญาต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุยิงนายแพทย์ชุมพล เดชะอำไพ อายุ 57 ปี เจ้าของคลินิกเวชกรรมแพทย์ชุมพล และเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี 
    เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจติดตามจับกุมนายเด่นภูมิได้ขณะหลบหนีไปซ่อนตัวในรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่ จ.สมุทรสงคราม ในคืนวันเดียวกัน ก่อนจะมีการแถลงข่าว ระบุว่าก่อนเกิดเหตุ นายเด่นภูมิทำทีเป็นคนไข้ไปรักษาตัวที่คลินิกแพทย์ชุมพล หลังตรวจรักษาเสร็จก็ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงใส่ นพ.ชุมพล จำนวน 7 นัด เสียชีวิตภายในห้องตรวจคลินิก โดยพบว่านายเด่นภูมิพกกระสุนติดตัวถึงกว่าร้อยนัด
    จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่าไม่พอใจในการให้บริการที่ รพ.พระจอมเกล้า เคยเขียนข้อเสนอแนะร้องเรียนมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข จึงสะสมความไม่พอใจ และสืบทราบว่า ผอ.รพ.พระจอมเกล้าเปิดคลินิก ประกอบกับผู้ต้องหาไม่สบายไปโรงพยาบาลเมื่อเช้าวันเดียวกัน เสียเงินค่ารักษา 130 บาท ทำให้ไม่พอใจ เพราะปกติจะเสียแค่ 30 บาท รักษาทุกโรค ประกอบกับผู้ต้องหามีพฤติกรรมเสพยาบ้ามานาน ทำให้เกิดอาการเพี้ยนและก่อเหตุขึ้น
    ตำรวจได้คุมตัวนายเด่นภูมิทำแผน เริ่มจากจุดแรกผู้ต้องหานำรถเก๋งสีขาวมาจอดที่ฝั่งตรงข้ามคลินิก จากนั้นเดินเข้าไปในคลินิกเพื่อเข้าตรวจรักษาอาการไข้ หลังตรวจอาการเสร็จ ผู้ต้องหาได้เดินออกจากห้องตรวจมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ เพื่อรับยาและชำระค่ารักษาจำนวน 130 บาท จากนั้นผู้ต้องหาได้เดินกลับไปเอาปืนที่รถเก๋งแล้วเดินกลับมากระหน่ำยิง นพ.ชุมพล แล้ววิ่งไปขับรถเก๋งหลบหนี
    ระหว่างการทำแผน มีประชาชนมุงดูจำนวนมาก ซึ่งทางตำรวจได้แจกหน้ากากอนามัยแก่บุคคลที่ไม่ได้ใส่ โดยตำรวจใช้กำลังกว่า 40 นาย ดูแลความเรียบร้อยระหว่างการทำแผน ขณะเดียวกันมีลูกชายของ นพ.ชุมพล พร้อมญาติ มาดูผู้ต้องหาทำแผนทุกขั้นตอน ทั้งนี้ ประชาชนหลายคนพากันตะโกนด่าทอผู้ต้องหา บ้างก็ขอให้ได้รับโทษประหารตายตกตามกัน และพยายามจะเข้าไปทำร้ายผู้ต้องหา จนทางเจ้าหน้าที่ต้องนำผู้ต้องหากลับเข้าไปนั่งในรถตู้ แล้วทำความเข้าใจกับประชาชน ก่อนจะนำผู้ต้องหาออกจากรถตู้ เริ่มทำแผนตามคำรับสารภาพตั้งแต่ต้นจนจบ ใช้เวลาทำแผนประมาณ 10 นาที จึงนำผู้ต้องหากลับไปยัง สภ.เมืองเพชรบุรี เพื่อสอบสวนต่อไปถึงปมสังหาร    
    นายเดชาพล เดชะอำไพ บุตรชายนายแพทย์ชุมพล เปิดเผยว่า ตนยังติดใจมูลเหตุจูงใจการสังหารบิดาของตน ที่นายเด่นภูมิผู้ก่อเหตุสารภาพว่าทำไปเพราะไม่พอใจการทำงานของภาครัฐ ซึ่งหากเป็นเหตุผลดังกล่าว ทำไมนายเด่นภูมิถึงเจาะจงมาหาบิดาของตน และหากคนร้ายมีอาการเมายาเสพติด หรือไม่พอใจแล้วเกิดสติแตกควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ก็ต้องมีการพูดจาโวยวาย หรือแสดงอาการไม่พอใจก่อนก่อเหตุ แต่จากภาพวงจรปิดที่เห็น มีแค่เสียงคนร้ายถามว่าคุณหมออยู่ข้างในหรือไม่ แล้วก็เปิดประตูไปยิงเลย จึงไม่เชื่อว่าจะเป็นเหตุที่เกิดจากการไม่พอใจแล้วระเบิดอารมณ์ออกมา การใช้อาวุธปืนยิงก็ไม่เหมือนการข่มขู่ เพราะยิงจำนวนหลายนัดเหมือนประสงค์ให้ตายอย่างเดียว ตนรู้สึกว่าเป็นการก่อเหตุที่มีการวางแผนมาก่อน และเชื่อว่าน่าจะมีมูลเหตุอื่นในการก่อเหตุครั้งนี้มากกว่าประเด็นที่นายเด่นภูมิกล่าวอ้างอย่างแน่นอน ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและขยายผลเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไปด้วย
    นายเดชาพลกล่าวด้วยว่า ในส่วนข้อกล่าวหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้ ฆ่าคนตายโดยเจตนา จากพฤติกรรมของนายเด่นภูมิ ที่มีการเดินไปหยิบอาวุธปืนที่รถและกลับเข้ามาก่อเหตุ น่าจะเข้าข่ายมีการเตรียมการและไตร่ตรองไว้ก่อน ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนอีก 1 ข้อหาด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"