'แรมโบ้อีสาน'โต้เดือดพวกไม่เอาม.112ไล่ไปอยู่ประเทศอื่น


เพิ่มเพื่อน    

 

20 ธ.ค. 2563 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ “แรมโบ้อีสาน” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ จ.นครราชสีมา ถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาอยากเห็นการเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม อยากได้คนดีมีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์เข้ามาพัฒนาท้องถิ่นดูแลประชาชนเป็นนักการเมืองตัวอย่าง ที่เก่งและเสียสละ มีความจริงใจ ตั้งใจที่จะมาแก้ปัญหาดูแลทุกข์สุขของพี่น้องชาวโคราช 

โดยเท่าที่ตรวจสอบพบว่ามีพี่น้องประชาชนไปใช้สิทธิ์ค่อนข้างคึกคัก ขนาดถนนมิตรภาพช่วงจาก กทม.-นครราชสีมาปริมาณรถหนาแน่นตัดขัด ทราบว่าพี่น้องประชาชนเขากลับไปลงคะแนนเสียงกันค่อนข้างมาก รู้สึกตื่นตัวพอๆกับการเลือกตั้งระดับชาติเหมือนกัน และไม่ว่าใครจะมาเป็นนายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะที่ตนทำงานอยู่กับรัฐบาล ใกล้ชิดพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและท่านก็เป็นคนโคราชอยากเห็น จ.นครราชสีมาพัฒนาทุกด้านในทุกมิติ อาทิ ถนนหนทาง สาธารณูปโภค เศรษฐกิจ สังคม การเมืองต้องดีขึ้น ประสานบูรณาการ 3 พี่น้องท้องถิ่น และหน่วยงานราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ส่วนเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงนั้น อยากฝาก ทาง กกต.ดูแลให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยึดติธรรม อย่าให้มีการทำผิดกฎหมาย

นายสุภรณ์ฯกล่าวถึงการที่มีกลุ่มเห็นต่างเรื่องมาตรา 112 นั้นว่า มาตรา 112 มีมานานแล้วเป็นมาตราที่บัญญัติกฎหมายที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วที่ไม่ให้ใครไปก้าวล่วงดูหมิ่นดูแคลนองค์พระมหากษัตริย์หรือองค์รัชทายาท และการพูดจาจาบจ้วงให้ร้ายป้ายสีบิดเบือนกล่าวหาอันเป็นเท็จทั้งหลายทั้งปวง และอย่าว่าแต่องค์พระมหากษัตริย์และองค์รัชทายาทเลย แม้แต่พวกเราปุถุชนธรรมดาทั่วไปก็ยังต้องมีกฎหมายการคุ้มครองสิทธิในเรื่องการหมิ่นประมาทก็มี ทำไมองค์พระมหากษัตริย์จะมีไม่ได้ ซึ่งมาตรา 112 ก็มีอยู่แล้วทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้ว แต่พยายามจะท้าทาย จาบจ้วงก้าวล่วง คนเหล่านั้นต่างหากที่คิดจะล้มล้างสถาบัน และไม่เกรงกลัวต่อข้อบัญญัติของกฎหมาย 

การชุมนุมพยายามทำให้เกิดความวุ่นวายกับบ้านเมือง และสังเกตดูเริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณรัฐบ้าง ประธานาธิบดีบ้าง คนเหล่านี้ไม่ได้ยึดหลักกฎหมาย และประเทศไหนที่ไม่ยึดหลักกฎหมายและระเบียบกฎหมายก็เหมือนกับบ้านป่าเมืองเถื่อน บ้านเมืองก็เกิดจลาจล ถ้าไม่ไปจาบจ้วงมันก็ไม่ผิดอะไร ม.112 ไม่ได้ไปรังแกใคร ม.112 ไม่ใช่เดินไปหาที่บ้าน ไม่ได้เดินไปหาแกนนำที่คิดจาบจ้วงเลย มีแต่แกนนำเหล่านี้ลงไปหากฎหมาย ลงมาจาบจ้วง ท้าทายกฎหมาย ทำลายกฎหมายเอง และคิดว่ากฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์หรือเปล่าก็เลยมาท้ายทายกฎหมาย ฉะนั้นเราต้องต่อสู้และร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นถ้าคิดว่าข้าหลวงสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติสำนักงานข้าหลวงแห่งสหประชาชาติคิดว่าเจ้าหน้าที่ไทยลิดรอนสิทธิคนเหล่านี้ที่จาบจ้วงก้าวร่วงมาตรา 112 และสถาบันพระมหากษัตริย์ ตนว่าก็มารับคนเหล่านี้ไปอยู่ประเทศอื่นหรือไปอยู่ประเทศนอกหรือประเทศไหนๆที่ชุมนุมได้ตามตามใจโดยไม่ต้องยึดหลักกฏหมาย ประเทศไหนที่อยากจะด่าใครก็ด่า จะว่าใครก็ได้ จะโจมตีใครก็ได้ จะจาบจ้วงใครก็ได้ ก้าวราวใครก็ได้ ก็มารับคนเหล่านี้ไปอยู่ประเทศนั้นเถอะ ไม่ต้องอยู่ประเทศไทย และประเทศไทยจะได้อยู่อย่างสงบสุขและมีแต่สันติสุข คนไทยจะได้มีความสุขสักที ดังนั้นเรายืนยันว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามมาตรา 112 ถือว่าได้ทำถูกต้องแล้ว ถ้าเจ้าหน้าไม่ดำเนินการก็จะต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกันว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157

ส่วนที่มีข่าวว่าจะตั้งนายสุภรณ์ฯกรรมการสมานฉันท์นั้น ตนเรียนว่าก็เป็นเพียงข่าวเป็นการวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์ของสื่อสารมวลชน ซึ่งคิดว่าทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะส่งตนเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ แต่ตนเรียนส่วนตัวว่า ถ้ารัฐบาลตั้งไปเราก็ปฎิเสธไม่ได้ แต่ส่วนตัวตนยืนยันมาตลอดว่า ตนไม่ปรารถนาที่จะไปเป็น เพราะคำว่ากรรมการสมานฉันท์คือการไปทำงานในภาพพจน์ให้เกิดความสามัคคีในบ้านเมือง ถามว่าประสบการณ์ตนก็มี ตนอยู่ในเหตุการณ์ของความแตกแยก ตนรู้ปัญหา เข้าใจเหตุการณ์ ตนรู้ดีว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองเกิดความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ ประสบการณ์ตรงนั้นตนมีมากมายและตนสามารถที่จะไปทำงานตรงนั้นได้แน่นอน ถ้าเข้าไปเป็นกรรมการ แต่ตนขอปฏิเสธไม่ไป แต่เหตุผลที่ไม่ไป แต่ว่าไม่ใช่นายกรัฐมนตรีตั้งตนอะไร ตนปฏิเสธด่วยตัวตนเองต่อหน้าสื่อมวลชนตรงนี้เลยว่า ตนไม่อยากไป เพราะตนทำงานเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ตนเองจำเป็นต้องช่วยงานนายกรัฐมนตรี ช่วยงานรัฐบาล และขณะนี้มีฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายที่ไม่หวังดี ฝ่ายที่พยายามจะโจมตีรัฐบาล ฝ่ายที่พยายามดิสเครดิสนายกรัฐมนตรี บิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ใส่ร้ายป้ายสีนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลตลอดเวลา ตนจึงจำเปนต้องอยู่ตรงนี้เพื่อช่วยงานนายกฯและเพื่อคอยชี้แจงข้อเท็จจริงให้สื่อมวลชน ประชาชนได้ทราบว่าสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามฝ่ายที่จ้องเตะตัดเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เซาะตำแหน่ง ทิ่มแทง ขับไล่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเป็นคนที่ไม่หวังดีโจมตีกล่าวหาอันเป็นเท็จตนจำเป็นต้องทำงานตรงจุดนี้ดีกว่า คอยชี้แจงข่าวสารข้อมูลที่เป็นจริงให้ประชาชนได้ทราบ ถ้าตรงไปนั่งกรรมการฯก็ไม่สามารถที่จะไปตอบโต้หรือชี้แจงอะไรได้ หรือจะไปฟาดฟันกับฝ่ายตรงข้ามหรือฝ่ายค้านทำได้ยาก เพราะคำว่า สมานฉันท์มันคต้ำคอตน ทั้งติดคอ ติดปากตน ฉะนั้นตรงนี้เหมาะสมที่สุดแล้วที่ตนจะทำหน้าที่ได้ดีที่สุด


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"