ซูเปอร์โพลชี้ต้นตอปัญหาวิกฤตชาติเกิดจาก เจ้าหน้าที่รัฐรับผลประโยชน์เงินใต้โต๊ะ


เพิ่มเพื่อน    

 

20 ธ.ค.2563 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ลุงตู่จบ คนโกงรอด กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,113 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 14 - 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.2 รับรู้ข่าวที่ไม่ดีมาก ต่อนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะที่ร้อยละ 38.8 รับรู้ข่าวดีมากต่อนายกรัฐมนตรี 

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.8 รู้สึกแย่ ที่ติดต่อราชการ กับ เจ้าหน้าที่รัฐ ของส่วนราชการต่าง ๆ เพราะ เกียร์ว่าง ปล่อยปละละเลยปัญหา ร้องเรียนไปก็เท่านั้น ไม่จริงจังช่วยเหลือราษฎร เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ในขณะที่ร้อยละ 96.1 ระบุระบบเงินใต้โต๊ะ ฟอกตัวแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย ต้นเหตุ โควิดรอบใหม่ นอกจากนี้ ร้อยละ 95.5 ระบุต้นตอปัญหาวิกฤตชาติ ที่จริง อยู่ที่ เจ้าหน้าที่รัฐและส่วนราชการ ปล่อยปละละเลยหน้าที่ ร้อยละ 93.8 ระบุมีการเรียกรับผลประโยชน์ เงินใต้โต๊ะ อยู่ทั่วไป และร้อยละ 91.2 ระบุ มีการซื้อขายตำแหน่งกันจริง เช่น 400 ล้านบาท กับตำแหน่งระดับสูงของกระทรวง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.8 ต้องการให้ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองระดับสูงสุดถึงระดับสูงจัดการ กวาดให้เรียบ ข้าราชการ ใส่เกียร์ว่าง ปล่อยปละละเลย เรียกรับผลประโยชน์ เงินใต้โต๊ะ ซื้อขายตำแหน่ง ในขณะที่ ร้อยละ 97.4 ต้องการให้มีการชำระ ระบบราชการ ปฏิรูปการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนราชการต่าง ๆ ล่าช้าแก้ปัญหาเดือดร้อนของราษฎร เรียกรับผลประโยชน์ก่อนเร่งช่วยเหลือราษฎร และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.9 สนับสนุนการรวมตัวของกลุ่มราษฎร คนรุ่นใหม่ นักรบคีย์บอร์ดทั้งหลายจัดการ เจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ เกียร์ว่าง เรียกรับผลประโยชน์ ซื้อขายตำแหน่ง ไม่กระตือรือล้นช่วยราษฎร

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า “ลุงตู่จบ คนโกงรอด” เป็นเสียงของกลุ่มราษฎรในผลโพลนี้ที่ชี้ให้เห็นว่า ที่ผ่านมาลุงตู่หรือนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะด้วยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวกลายเป็นจุดรับห่ากระสุนหรือขีปนาวุธของอารมณ์ผู้คนในสังคมไปลงที่ตัวนายกรัฐมนตรีทั้ง ๆ ที่หลาย ๆ ปัญหาเป็นเรื่องที่มีต้นตอวิกฤตเกิดจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ เกิดจากการปล่อยปละละเลย เกิดจากระบบเงินใต้โต๊ะของเจ้าหน้าที่รัฐและข้าราชการในหลายส่วนราชการที่ไม่ทำหน้าที่อย่างเข้มงวดจนกลุ่มราษฎรเดือดร้อนทุกข์ยากไปทั่วทั้งประเทศ 

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อด้วยว่า เจ้าหน้าที่รัฐและข้าราชการจำนวนไม่น้อยกลับกลายเป็นคนที่หลบอยู่ในที่ ๆ ปลอดภัย (Safety Zone) ไม่ได้ยื่นอก ไม่ได้ยื่นตัว ออกมารองรับอารมณ์ของสังคมเหมือนกับ นายกรัฐมนตรี และยิ่งไปกว่านั้น ระบบเงินใต้โต๊ะ การซื้อขายตำแหน่ง ยังมีอยู่ไปทั่วในการรับรู้ของกลุ่มราษฎร จึงจำเป็นต้องใช้ ยุทธการ “กวาดให้เรียบ” เช่นกันเพื่อ นายกรัฐมนตรีจะไม่ต้องมาเจ็บอยู่คนเดียว เจ้าหน้าที่รัฐและข้าราชการจะหลบอยู่ในที่ ๆ พวกเขาเป็นสุข ปลอดภัยต่อไปไม่ได้ ต้องออกมาร่วมทุกข์ปลดแอกให้กลุ่มราษฎรร่วมกัน ผลที่ตามมาคือ ลุงตู่ หรือ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้เข้าสู่โหมด “เดือนข้างขึ้น” ฉายแสงสว่างนวล ๆ ให้ประชาชนทั้งประเทศอุ่นใจ ได้เห็นเส้นทางชีวิตที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างมีความสุขในปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ น่าจะเป็นการออกแบบ “ยุทธศาสตร์ทางออก” (Exit Strategy) ที่ดีได้ทางหนึ่งคือ ก่อนจบเกมสงครามอารมณ์ของคนไทย นายกรัฐมนตรีควรกวาดให้เรียบขบวนการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกียร์ว่าง ปรับปรุงให้เกิดความกระตือรือล้นทำหน้าที่ซื่อสัตย์สุจริต จะได้เปลี่ยนจากการรับรู้ (Perception) ของกลุ่มราษฎรเป็นความทรงจำ (Remarkable) ของคนรุ่นต่อรุ่นได้สรรเสริญต่อ ๆ กันไป
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"