20 ธ.ค. 63 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า
สถานการณ์ทั่วโลก 20 ธันวาคม 2563...
ตุรกีและสหราชอาณาจักรเป็นสองประเทศล่าสุดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเกิน 2 ล้านคน ขณะนี้มีแล้วทั้งหมด 7 ประเทศ
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มถึง 645,337 คน รวมแล้วตอนนี้ 76,503,023 คน ตายเพิ่มอีก 11,454 คน ยอดตายรวม 1,689,438 คน
อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 214,280 คน รวม 18,019,430 คน ตายเพิ่มอีก 2,441 คน ยอดตายรวม 322,443 คน
10 ตุลาคม อเมริกามีติดเชื้อรวม 8 ล้านคน ผ่านไปเพียงสองเดือน เพิ่มขึ้นอีกถึง 10 ล้านคน เฉลี่ยเดือนละ 5 ล้าน
อินเดีย ติดเพิ่ม 26,834 คน รวม 10,031,659 คน , บราซิล ติดเพิ่มถึง 37,730 คน รวม 7,200,708 คน
รัสเซีย ติดเพิ่มอีก 28,209 คน รวม 2,819,429 คน ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 17,565 คน รวม 2,460,555 คน
อันดับ 6-10 เป็น ตุรกี สหราชอาณาจักร อิตาลี สเปน และอาร์เจนตินา ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลักหมื่นต่อวัน
เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย และเกาหลีใต้ ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่น
แถบสแกนดิเนเวีย รอบทะเลบอลติก และแถบยูเรเชียยังไม่ดีขึ้น ติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
ฮ่องกง และเมียนมาร์ ติดเพิ่มหลักร้อยจนถึงเฉียดพัน ส่วนจีน สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่เวียดนามยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
...สถานการณ์ในเมียนมาร์ เมื่อวานติดเพิ่มขึ้นอีก 989 คน ตายเพิ่มอีก 26 คน ตอนนี้ยอดรวม 115,187 คน ตายไป 2,424 คน อัตราตายตอนนี้ 2.1%
ภาพรวมทั่วโลกนั้นยังเจอการระบาดอันหนักหน่วง หลายประเทศกลับมาล็อคดาวน์อีกครั้ง เพราะมาตรการที่มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมานั้นไม่ถูกเวลา แถมการไม่เข้มงวดเรื่องพฤติกรรมการป้องกันในประชาชน ทำให้เกิดระบาดซ้ำ ซึ่งหนักกว่าเดิม
คริสตมาสและปีใหม่ที่จะถึงนี้ ถือเป็น Blue Christmas and Blue New Year เพราะหลายประเทศจะต้องฝ่าฟันกับการระบาดที่หนักหน่วง ทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร อิตาลี ตุรกี รวมถึงอื่นๆ ในทวีปยุโรป สแกนดิเนเวีย อเมริกา อเมริกาใต้ และเอเชีย
สำหรับเมืองไทยนั้น ชัดเจนว่าเรากำลังประสบกับปัญหาการระบาดระลอกที่สองครับ ขณะนี้อยู่ในช่วงต้น และมีโอกาสขยายวงรุนแรงกว่านี้ในอีก 4-8 สัปดาห์ข้างหน้า
หากคุมไม่ได้ คาดว่าเราจะมีจำนวนการติดเชื้อสูงสุดต่อวันราว 940 คน สูงกว่าเดิม 5 เท่า และจะยาวนานประมาณ 88 วัน นานกว่าเดิม 2 เท่า
ช่วงเวลาทองในการควบคุมโรคระลอกสองนี้ หากวิเคราะห์ตามประเทศอื่นๆ เราน่าจะมีเวลาที่จะต้องจัดการให้ได้ภายใน 1 เดือน...ใครบอกว่าจะปิดเคสภายใน 1 สัปดาห์นั้น บอกตรงๆ ว่า เป็นไปไม่ได้ และไม่ควรอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป
เนื่องจากศึกนี้ต้องการคนที่ดี มีความรู้ความสามารถกว่านี้ เพื่อมาต่อสู้กับโรคระบาดที่รุนแรงที่สุดในศตวรรษ
ช่วงสายๆ จะเขียนคำแนะนำสำหรับประชาชนมาให้
สำหรับตอนนี้ สิ่งที่รัฐควรทำอย่างยิ่ง มีดังนี้
หนึ่ง ศบค.ควรแสดงบทบาทเป็นหลักในการจัดการปัญหาโรคระบาด
สอง ลดบทบาทของศบศ.ลง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นได้ใช้แน่นอน หากถึงเวลาที่เหมาะสม ส่วนตัวแล้วคาดว่าควรชะลอไปถึงช่วงมีนาคมปีหน้า แล้วค่อยงัดแผนมาปรับใช้ตามสถานการณ์อีกครั้ง
สาม ปรับคณะรัฐมนตรีทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งวงนโยบายสุขภาพท่องเที่ยวและเดินทาง เพื่อนำคนอื่นที่ดีมีความสามารถมาบริหาร
สี่ ประกาศพื้นที่เสี่ยงระดับภาค เพื่อให้ประชาชนได้ทราบ และวางแผนชีวิต ปรับตัว ระมัดระวังเรื่องการเดินทางสู่พื้นที่เสี่ยง
ห้า รณรงค์ให้ทุกคนในประเทศใส่หน้ากาก 100%
หก รณรงค์ให้ทุกคนในประเทศให้มาตรวจโควิด หากสงสัยว่ามีประวัติไปในพื้นที่เสี่ยง ไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่ก็ตาม และในกรณีที่ใครมีอาการคล้ายไข้หวัด ขอให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลหรือจุดบริการตรวจโควิดด้วย แม้จะไม่มีประวัติเสี่ยง เนื่องจากขณะนี้มีการติดเชื้อในประเทศแน่นอน แต่ไม่ทราบจริงๆ ว่าใครติดใครไม่ติด
ขอให้พวกเรารักตัวเอง รักครอบครัว ป้องกันตัวเสมอ
ด้วยรักต่อทุกคน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |