ติดโควิดพุ่ง548คน! ส่วนใหญ่เป็นเมียนมา/ล็อกดาวน์สมุทรสาครจนถึง3ม.ค.ปีหน้า


เพิ่มเพื่อน    


    ช็อก! พบผู้ติดเชื้อที่สมุทรสาครพุ่งเป็น 548 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวเมียนมา แต่ไม่แสดงอาการ สั่งล็อกดาวน์จนถึงวันที่ 3 มกราคมปีหน้า ปิดห้าง โรงเรียน ห้ามออกจากบ้านเวลา 22.00-05.00 น.วันรุ่งขึ้น ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน 
     เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม เวลา 11.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 34 ราย ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 22 ราย ติดเชื้อในประเทศ 12 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,331 ราย ยอดหายป่วยสะสม 4,024 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 247 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 60 ราย 
    สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ มาจากเคนยา 1 ราย, เยอรมนี 2 ราย,  สหรัฐอเมริกา 2 ราย, บาห์เรน 1 ราย, สหราชอาณาจักร 4 ราย, รัสเซีย 1 ราย, บังกลาเทศ 2 ราย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย,  ไต้หวัน 1 ราย, นามิเบีย 2 ราย, เนเธอร์แลนด์ 1 ราย, ซาอุดีอาระเบีย 2 ราย, อินเดีย 1 ราย และอิตาลี 1 ราย  
    ส่วนผู้ติดเชื้อในประเทศ 12 ราย จากจังหวัดสมุทรสาคร 1.หญิงไทย อายุ 95 ปี ผู้ป่วยติดเตียง ตรวจพบเชื้อวันที่ 17 ธ.ค. ไม่มีอาการ 2.หญิงไทย อายุ 73 ปี เกษียณอายุ ตรวจพบเชื้อวันที่ 17 ธ.ค. 3.หญิงไทย อายุ 57 ปี ว่างงาน ตรวจพบเชื้อวันที่ 17 ธ.ค. ไม่มีอาการ  4.ชาย อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา อาชีพรับจ้าง ตรวจพบเชื้อวันที่ 17 ธ.ค. ไม่มีอาการ 
    5.หญิงไทย อายุ 24 ปี อาชีพรับจ้าง ตรวจพบเชื้อวันที่ 17 ธ.ค. มีอาการไอ ปวดศีรษะ 6.ชาย อายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมา อาชีพรับจ้าง ตรวจพบเชื้อวันที่ 17 ธ.ค. มีไข้ 7.ชาย อายุ 41 ปี อาชีพเสมียน ตรวจพบเชื้อวันที่ 17 ธ.ค. ไม่มีอาการ 8.หญิง อายุ 43 ปี สัญชาติเมียนมา อาชีพรับจ้าง ตรวจพบเชื้อวันที่ 17 ธ.ค. มีอาการไข้  
    9.ชายไทย อายุ 42 ปี อาชีพค้าขาย ตรวจพบเชื้อวันที่ 17 ธ.ค. มีอาการไข้ ปวดศีรษะ มีน้ำมูก 10.หญิงไทย อายุ 20 ปี อาชีพพนักงานบริษัท ตรวจพบเชื้อวันที่ 18 ธ.ค. มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ไข้ มีน้ำมูก ลิ้นไม่รับรส 11.หญิงไทย อายุ 49 ปี อาชีพพนักงานเก็บเงิน ตรวจพบเชื้อวันที่ 18 ธ.ค. มีอาการไอ ปวดศีรษะ มีเสมหะ จมูกไม่ได้กลิ่น และ 12.ชายไทย อายุ 23 ปี อาชีพพนักงานบริษัท ตรวจพบเชื้อวันที่ 18 ธ.ค. เจ็บคอ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น 
    ส่วนสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 76,006,697 ราย อาการรุนแรง 106,854 ราย รักษาหายแล้ว 53,275,632 ราย เสียชีวิต 1,681,075 ราย  
    ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่า ในกรณีผู้ป่วยอีก 12 ราย จากกรณีหญิง 67 ปี แพกุ้ง จ.สมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด-19 โดยเมื่อช่วงสายวันที่ 18 ธ.ค. พบผู้ติดเชื้อใหม่ 3 ราย คือแม่ พี่สาว และน้องสะใภ้ ขณะที่ช่วงเย็นวันที่ 18 ธ.ค. ผู้ว่าฯ สมุทรสาครรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 3 ราย และตอนดึกวันที่ 18 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ได้รับการรายงานเพิ่มขึ้นอีก 6 ราย รวมแล้วมีผู้ติดเชื้อ 1 รายคือหญิงแพกุ้ง บวกติดเชื้อเพิ่มอีก 12 ราย รวมเป็น 13 ราย 
    "ขอเรียนว่าสถานการณ์ที่เห็นตัวเลขเพิ่มขึ้น เพราะได้รับความร่วมมือจากพี่น้องแรงงานชาวเมียนมาที่เข้ามารับการตรวจ และคนไทยกันเองให้ความร่วมมือกันดี มีการตรวจไปแล้วเป็นพันคน ขณะที่การสอบสวนโรคยังดำเนินการต่อไป"
ล็อกดาวน์มาตรการหลังสุด 
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า หากใครไปที่ตลาดกลางกุ้งตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. และมีอาการหรือไม่มีอาการ แต่สงสัย ให้มารับการตรวจได้ เรามีแล็บครบ 77 จังหวัดแล้ว ส่วนในตลาดที่เป็นอาหารทะเลสดประชาชนจึงไม่ค่อยสวมหน้ากาก เพราะต้องใช้การดมกลิ่นว่าอาหารสดหรือไม่นั้น ตอนนี้วิถีชีวิตต้องเปลี่ยนเป็น New normal ดังนั้นขอให้ใส่หน้ากากร้อยเปอร์เซ็นต์ในตลาดกลางกุ้ง ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 20 ธ.ค. ขอให้ทุกคนช่วยกันทำภาพการเลือกตั้งที่ปลอดโรคเกิดขึ้นด้วย 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้พบการติดเชื้อที่เป็นกลุ่มก้อนมากขึ้น โดยเฉพาะ จ.สมุทรสาคร จะมีการล็อกดาวน์จังหวัดหรือไม่ โฆษกศบค.ตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และนายอนุทิน ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งนายอนุทินได้ลงพื้นที่เพื่อให้ความมั่นใจในระบบสาธารณสุขของเรา ณ ตอนนี้ยังไม่เห็นเหตุที่จะล็อกทันที อีกทั้งผู้ว่าฯ ได้ทำงานอย่างเข้มข้น และขอความร่วมมือแรงงานต่างด้าวเข้ามารับการตรวจ ซึ่งการล็อกดาวน์ฟังดูเป็นวิธีการที่ประเทศต่างๆ ทำกัน เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน แต่ของเราประชาชนให้ความร่วมมือดี และการมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.โรคติดต่อที่ไม่ได้ต้องการเอาคนมาลงโทษ แต่หากติดเชื้อ ต้องได้รับความร่วมมือในการเข้ามารับการตรวจรักษา นี่คือจุดประสงค์ของการควบคุมโรค
    “แต่ถ้าชุดข้อมูลของการตรวจที่วันนี้เพิ่มขึ้นมาอีก 12 ราย และถ้ามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในวันต่อๆ ไป ทำให้ตัวเลขไม่ลดลง กลายเป็นกลุ่มก้อน และไม่สามารถบอกต้นสายปลายเหตุได้ ถึงตอนนั้นต้องเลื่อนมาตรการจากเบาไปหาหนัก ซึ่งล็อกดาวน์จะเป็นมาตรการหลังสุด แต่จะเกิดขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับการร่วมมือของพี่น้องประชาชน” โฆษก ศบค.ระบุ   
    ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า จากการค้นหากลุ่มเสี่ยงในชุมชน ทำให้พบผู้ป่วยเพิ่มเติมอีก 12 รายในรอบ 24 ชั่วโมง รวมเคสนี้ทั้งหมด 13 ราย ทั้งหมดมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับตลาดกลางกุ้ง โดยเป็นคนในครอบครัว 3 ราย เป็นคนอยู่ในตลาด 6 ราย ได้แก่ ลูกจ้าง ภรรยาลูกจ้าง คนทำงานแพปลาข้างๆ และคนมาซื้อของ และอีก 4 ราย เป็นคนอาศัยอยู่ใกล้ตลาดกลางกุ้ง และอยู่ในตลาดต้นสนที่ใกล้กับตลาดกลางกุ้ง สำหรับผลการตรวจผู้สัมผัสเพิ่มเติม วันที่ 17-19 ธ.ค. ทั้งหมด 1,449 ราย ซึ่งพบเชื้อจากที่รายงานในข้างต้น และผลแล็บกำลังทยอยออกมาอีก  
    ถามว่าช่วงนี้สามารถรับประทานอาหารทะเลได้หรือไม่ ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไปตอบว่า เราสามารถทานได้ตามปกติ หากปรุงสุกร้อนก็สามารถฆ่าเชื้อได้ รวมทั้งฆ่าเชื้อก่อโรคโควิด-19 ด้วย ที่สำคัญการก่อโรคระบาดอยู่ที่ตลาดกลางกุ้งที่ขายสัตว์น้ำจืดเป็นหลัก ดังนั้นยังจำกัดวงอยู่ ณ ที่นี้ 
    ซักว่ามีความกังวลว่ากรณีที่ตลาดกลางกุ้งจะเหมือนที่เมืองอู่ฮั่น นพ.โสภณชี้แจงว่า กรณีเมืองอู่ฮั่นเป็นจุดที่พบคนติดเชื้อจากการไปใช้บริการที่มีคนจำนวนมากมาพบปะกัน ถ้าเทียบเคียงกับที่ตลาดกลางกุ้งมีลักษณะเดียวกัน คือมีคนมาพบปะกัน แต่ความแตกต่างในขณะนี้เรารู้จักโรคโควิดและรู้วิธีการป้องกัน เช่น สวมหน้ากากในพื้นที่ที่เรามาพบปะผู้คน 
ยอมรับติดเชื้อมากกว่า 13 ราย
    อีกทั้งที่ตลาดกลางกุ้งเป็นพื้นที่โล่ง มีอากาศถ่ายเทได้ดี หลังมีการทำความสะอาดกำจัดเชื้อ จะทำให้ความเสี่ยงลดลง การเข้ามาใช้บริการจึงไม่เกี่ยวกับสถานที่ แต่เกี่ยวกับบุคคลที่มาใช้สถานที่ หากมีเชื้อก็สามารถแพร่เชื้อได้ ดังนั้นจึงต้องป้องกันการแพร่เชื้อ และคนใช้บริการต้องป้องกันการรับเชื้อ  
    นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ข้อบ่งชี้ของการระบาดที่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร การดำเนินการต่อไปเราจะค้นหาเชิงรุก จากที่มีการตรวจไปแล้วทั้งหมด 1,449 ราย และวันนี้จะเก็บตัวอย่างต่อเนื่องให้ได้อย่างต่ำ 2,000 ราย จากนั้นจะเอาข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ข้อมูลจากการสอบสวนโรคทั้งผลบวกและลบ เอามาตีวงว่าการระบาดอยู่ในกรอบแค่ไหน และมาตรการต่อไปเราดำเนินการเฝ้าระวังในโรงพยาบาลและสถานพยาบาลอื่นๆ ถ้าพบผู้ป่วยต้องสงสัยให้นำตรวจที่ห้องปฏิบัติการได้ทันที
    เมื่อถามว่า ในการเลือกตั้งท้องถิ่นวันที่ 20 ธ.ค.ที่ จ.สมุทรสาคร ยังสามารถจัดได้หรือไม่ นพ.โอภาสกล่าวว่า ขอเชิญชวนคนไทยทุกคนไปเลือกตั้ง แต่ขอเน้นย้ำต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา หากไม่สวมเจ้าหน้าที่คูหาอาจไม่ให้เข้า แต่เขาก็มีการเตรียมหน้ากากไว้ให้ด้วย การต่อแถวเข้าคูหาขอให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร หากเตรียมปากกาส่วนตัวไปได้จะช่วยลดการสัมผัส และที่ส่วนใหญ่คนจะไปลงคะแนนช่วงใกล้ปิดหีบจะทำให้แออัด ขอให้ทยอยไปแต่เช้า อย่าไปช่วงที่แออัดกันจนเกินไป ส่วน จ.สมุทรสาคร ยังเลือกตั้งได้ตามปกติ ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งใดจากผู้ที่เกี่ยวข้อง  
    วันเดียวกันนี้ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า สถานการณ์ในจังหวัดสมุทรสาคร ปัจจุบันมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 13 ราย และกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดขอบเขตจะดำเนินการตรวจเชื้อให้ครบทั้งหมดอย่างต่ำสุด 2,000 คน และได้มากที่สุดอาจจะเป็น 10,000 คน ตอนนี้ตรวจไปได้แล้วประมาณกว่า 1,500 ราย ซึ่งตัวเลขการพบผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่า 13 รายแน่นอน ตอนนี้ทางจังหวัดยังไม่มีนโยบายล็อกดาวน์ แต่จะมีการยกเลิกจัดกิจกรรรมเคาต์ดาวน์ โดยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดจะประชุมพิจารณากันวันที่ 22 ธ.ค.นี้
    เขาบอกว่า เราไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะสถานการณ์ที่เป็นอยู่มันทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และเราไม่รู้วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ตลาดกลางกุ้งมีแรงงานต่างด้าวประมาณ 2,000-3,000 คน ตอนนี้ยิ่งเราตรวจคัดกรองมากจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่อย่าตกใจ ยังไม่สามารถบอกตัวเลขได้ว่าเท่าไหร่ ตัวเลขอยู่ในช่วงขาขึ้น 13 ราย ยังไม่จบ แต่อยากให้เจอผู้ติดเชื้อไวๆ จะได้ขีดวงจำกัดจุดเสี่ยง และควบคุมโรคได้โดยรวดเร็ว
    นายวีระศักดิ์เผยว่า จะพยายามให้จบภายใน 1 สัปดาห์อย่างที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต้องการ เพื่อให้ทุกคนจะได้ฉลองปีใหม่กันได้อย่างสบายใจ แต่ว่าทั้งหมดต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายช่วยกันด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าคนที่มีความเสี่ยงต่ำกังวลว่าเคยไปตลาดกลางกุ้งมา และอยากตรวจ เราพร้อมตรวจให้ฟรี โดยมีรถโมบาย 4 คันประจำอยู่ที่ตลาดกลางกุ้ง
ยังไม่เล่นงานเข้าเมืองผิด กม.
    ผวจ.สมุทรสาครยังเผยว่า สิ่งที่เป็นห่วงตอนนี้คือผู้ป่วยรายที่ 2 ที่เป็นแม่ของผู้ป่วยรายแรก เป็นผู้ป่วยติดเตียงและอายุมากถึง 95 ปี อาการโดยทั่วไปคุณหมอรายงานว่ายังปกติดีอยู่ การสอบสวนโรค 12 รายที่ผ่านมาชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับตลาดกลางกุ้งสมุทรสาคร แต่มีรายที่ 10 กำลังดำเนินการสอบสวนโรคอยู่    ที่สำคัญมีข้อที่สังเกตคือ ในส่วนของรายที่ 7 ซึ่งเป็นเสมียนอยู่ที่ตลาดกลางกุ้ง มีลูกคนหนึ่งอยู่ชั้น ม.5 ลูกอีกคนยังเล็กอยู่ก็ไปตรวจเรียบร้อยแล้ว ผลเป็นลบไม่มีอาการ แต่เพื่อความมั่นใจให้ลูกพักรักษาตัวดูอาการ 14 วันก่อน
    ส่วนกรณีที่มีบางคนบอกควรจะดำเนินการกับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายนั้น ที่ผ่านมาทางจังหวัดดำเนินการมาตลอด แต่ตอนนี้ต้องแยกออกจากกัน วันนี้เป็นเรื่องของสาธารณสุขเป็นหลัก การตรวจการคัดกรองการซักประวัติต้องดำเนินการด้านสาธารณสุขอย่างเดียว อย่าเพิ่งนำกฎหมายเรื่องการลักลอบเข้าเมืองมาคุย เป้าหมายต้องควบคุมโรคในจังหวัดสมุทรสาครให้ปลอดภัยจากโควิดก่อน อันดับ 2 ค่อยมาว่ากันเรื่องอื่นๆ
    “ตอนนี้ถ้าไปใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อผลักดันแรงงานอย่างเดียว พวกนี้จะไปหลบหนี จะทำให้เราไม่รู้เลยว่าไปหลบอยู่ที่ไหน จะทำให้การค้นหาโรคต่างๆ เป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น แล้วโรคต่างๆ จะปะทุขึ้นมา กลายเป็นเรารักษาควบคุมโควิด-19 ไม่ได้”
    สำหรับมาตรการป้องกันโควิดภายในจังหวัดสมุทรสาคร ตอนนี้อันดับแรกใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ ทางจังหวัดได้บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจหากตรวจพบคนไม่ใส่หน้ากากอนามัยให้ดำเนินการทันที รวมถึงขอความอนุเคราะห์ท้องถิ่นที่มีตลาดในพื้นที่ให้บิ๊กคลีนนิงภายในวันนี้ เนื่องจากตลาดกลางกุ้งมีตลาดค้าส่งและค้าปลีก ซึ่งมีการเชื่อมโยงกับตลาดอื่น รวมถึงจังหวัดอื่น เพราะแม่ค้ามาซื้อสินค้าไปขาย ยังไม่รู้จะเป็นอย่างไร ทางที่ดีจึงสั่งบิ๊กคลีนนิงทุกตลาดในจังหวัดก่อน
    ด้าน นพ.ธรรมวิทย์ เกื้อกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระทุ่มแบน กล่าวว่า คนป่วย 2 รายที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลกระทุ่มแบน มีอาการไข้เล็กน้อย เริ่มให้ยารักษาที่ใช้รักษาเฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ ซึ่งนายอนุทินได้นำยามาให้ทางจังหวัดประมาณ 1,000 เม็ด จากเดิมยามีปริมาณจำกัด
    “ขอให้คนที่จะเข้ามาในจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งมาทำงานหรือจะมาท่องเที่ยว ได้มั่นใจทางจังหวัดมีการตรวจกลุ่มเสี่ยงไปแล้ว 1,900 คน และตั้งเป้าตรวจกลุ่มเสี่ยงให้ได้ 10,000 ราย เพื่อมีโอกาสพบผู้ป่วยมากขึ้นจะได้ปลอดภัย ยิ่งคัดกรองได้ดี ยิ่งควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดได้ดีขึ้น ดีกว่าให้คนไข้ป่วยแล้วมาหาเรา มาตรการของผู้ว่าฯ เน้นการตรวจคัดกรอง ยิ่งตรวจคัดกรองได้ดี จะทำให้ควบคุมได้ดี การแพร่ระบาดจะน้อยลง” ผอ.โรงพยาบาลกระทุ่มแบนกล่าว
    ต่อมาเวลา 21.00 น. สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยเผยแพร่ภาพสัญญาณถ่ายทอดสดการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วยนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมแถลงข่าว
    นพ.โอภาสแถลงว่า กระทรวงสาธารณสุขขอรายงานความคืบหน้าสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครและหน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 13 ราย ซึ่งมีทั้งคนไทยและแรงงานต่างชาติที่ทำงานในตลาดแห่งนี้ 
    สถานการณ์ล่าสุด เมื่อมีการตรวจคัดกรองในกลุ่มแรงงานต่างด้าว จำนวน 1,192 ราย พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 516 ราย คิดเป็นร้อยละ 43 ของผู้ที่ได้รับการตรวจทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบผู้ที่ไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลอีกจำนวนหนึ่งในหลายจังหวัด ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 548 ราย ซึ่งมากกว่าร้อยละ 90 เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อยมาก และส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างชาติ
    นพ.โอภาสกล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ทางด้านสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อมั่นได้ว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ครั้งนี้ได้โดยความร่วมมือของประชาชน เนื่องจากส่วนใหญ่ยังเป็นการระบาดในพื้นที่จำกัด และไม่มีผู้ป่วยรุนแรง แม้ว่ามีแนวโน้มที่จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในชุมชนต่างชาติที่อยู่รอบๆ ตลาดกลางกุ้ง ด้วยมีการพักอาศัยอย่างหนาแน่น แต่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการเกิดอาการป่วยรุนแรง เพราะเป็นวัยทำงานสุขภาพแข็งแรง
    สำหรับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และโรงพยาบาลสมุทรสาคร ได้ดำเนินการเฝ้าระวัง สอบสวนและค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชนอย่างรวดเร็วตั้งแต่พบผู้ป่วยรายแรก ทั้งนี้ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย ทำให้สามารถสนับสนุนการเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อแล้ว 2,700 รายอย่างรวดเร็ว
    "กระทรวงสาธารณสุขเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดในครั้งนี้ให้สงบ และกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ด้วยมาตรการที่เด็ดขาด และรวดเร็วมีประสิทธิภาพ โดยการควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่และกิจกรรมต่างๆ อย่างเคร่งครัดในพื้นที่ระบาดของโรคในพื้นที่เสี่ยง" อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว
    ด้านนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร  กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งปิดโรงเรียนทุกโรงเรียน สนามกีฬา สนามมวย สถานที่รับเลี้ยงเด็ก ร้านอาหารเครื่องดื่ม ที่จำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม เปิดได้เฉพาะนำกลับไปบริโภคที่อื่น ยกเว้นโรงพยาบาล โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ห้ามดำเนินการช่วงวันที่ 19 ธ.ค.-3 ม.ค. ร้านสะดวกซื้อปิด 22.00-05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น  สถานบริการ สวนสนุก ร้านเกม ร้านเน็ต ศูนย์พระเครื่อง สถานออกกำลังกาย อบไอน้ำ โรงมหรสพ สปา อาบน้ำ ตัดขนสัตว์ ร้านเสริมสวย ฯลฯ ขอความอนุเคราะห์ งดออกจากเคหสถาน 22.00- 05.00 วันรุ่งขึ้น
    ห้ามคนต่างด้าวเข้า-ออกเขตจังหวัดโดยสิ้นเชิง แต่คนไทยสามารถออกไปพื้นที่ต่างๆ ที่ต้องการได้ แต่ให้แจ้ง จนท.ที่เกี่ยวข้อง แจ้งรายชื่อและจุดหมายปลายทาง
    นายวีระศักดิ์กล่าวว่า ในส่วนของเลือกตั้ง อบจ. วันที่ 20 ธ.ค. ไปใช้สิทธิ์ได้ตามปกติ 08.00-17.00 น. จังหวัดมีความพร้อมด้านมาตรการสาธารณสุข พร้อมสวมหน้ากากอนามัยทุกคน
    ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร และผู้กํากับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดสมุทรสาคร ออกคำสั่งจังหวัดเรื่องห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระบุว่า จากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 จังหวัดสมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และจังหวัดสมุทรสาครมีจํานวนแรงงานต่างด้าวที่มาประกอบอาชีพเป็นจํานวนมาก เพื่อเป็นการป้องกัน อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 32(2) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ครั้งที่ 51/2563 วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2563 จึงมีคําสั่งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า-ออกพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
    ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคําสั่งฉบับนี้ มีโทษตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2554 โทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"