ม็อบซา​"เพื่อไทย"ร้าวหนัก รบ.ได้พักหายใจ​ ลุยปั่นแต้ม


เพิ่มเพื่อน    

 

       บรรยากาศการเมืองช่วงท้ายปี 2563 เย็นๆ ตามฤดู ไม่ร้อนแรงเหมือนเมื่อช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านั้น ที่ม็อบคณะราษฎร 2563 นัดชุมนุมกันถี่ยิบจนเจ้าหน้าที่ไม่ได้พักผ่อน

      ส่วนหนึ่งเป็นเพราะม็อบคณะราษฎรประกาศ พักเบรก รอเคลื่อนกันใหม่อีกครั้งหลังปีใหม่ จึงทำให้บรรยากาศมันดูอ่อนลง ขณะเดียวกันช่วงนี้เป็นเทศกาลแห่งความสุขที่ทุกคนมุ่งไปสู่การเฉลิมฉลอง หลังต้องล็อกดาวน์อยู่บ้าน เดินทางไปไหนไม่ได้ในเทศกาลสงกรานต์มาแล้วหนหนึ่ง 

      ตอนนี้คนลุ้นกันตัวโกร่งแค่ผวาว่าโควิด-19 จะออกอาละวาดอีกรอบในช่วงเคาต์ดาวน์ เพราะเพิ่งจะคลายความตระหนกมาได้นิดนึง หลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ปิดเคสคนที่ลักลอบมาจากท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาได้ แต่ไม่ทันพ้น 24 ชั่วโมง ปรากฏว่าต้องมาพบอีกเคสหลังเจ้าของแพกุ้งที่ อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร ตรวจพบโควิด-19 ทำเอาคนกลัวไม่ได้เที่ยวปีใหม่ซ้ำรอยสงกรานต์

      ความสนใจทางการเมืองของประชาชนถูกเฉลี่ยมุ่งไปที่การปลดปล่อยในวันหยุดยาวๆ เทศกาลปีใหม่ ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่คณะราษฎร 2563 ตัดสินใจเก็บแรง เพราะทำอะไรไปตอนนี้เหมือนเหนื่อยฟรี อีกทั้งการชุมนุมในระยะหลังๆ คนเข้าร่วมน้อยลงเรื่อยๆ ได้ชาร์ตแบตสักพักน่าจะดีกว่า

      ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา ปัญหาภายในม็อบคณะราษฎร 2563 ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการ์ดที่เกิดความขัดแย้งกันเอง รวมไปถึงความเห็นต่างเรื่องแนวทางการต่อสู้ของ 2 กลุ่มหลักในคณะราษฎร 2563 คือ กลุ่มเยาวชนปลดแอก และกลุ่มธรรมศาสตร์และแนวร่วมการชุมนุม ที่กินแหนงแคลงใจกันมาระยะหนึ่ง

      โดยเฉพาะประเด็นล่าสุดที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก นำโดยนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี ปักธงการต่อสู้ไปเรื่องคอมมิวนิสต์ จนสร้างความไม่พอใจให้กับมวลชนส่วนใหญ่ในม็อบ เพราะมองว่าขัดต่อ 3 ข้อเรียกร้องของคณะราษฎร 2563 คือ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ต้องลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบัน

      การที่อยู่ๆ ดีมาเดินเรื่องคอมมิวนิสต์ ถือเป็นการสร้างความย้อนแย้งในตัวเอง หากเดินแนวทางนี้มีแต่นับถอยหลังขุดหลุมฝังตัวเอง

      ทำเอากระแสม็อบที่เริ่มแผ่วๆ ดิ่งไปกันใหญ่ จนทำให้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ต้องรีบออกมาชี้แจง เพราะหวั่นว่าจะออกทะเล ทำเสียมวลชน โดยระบุว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของกลุ่มเยาวชนปลดแอก ไม่เกี่ยวกับฉันทามติของคณะราษฎร 2563 

      ศึก นอกสภา กระแสไม่ได้ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่นั่งอยู่บนตึกไทยคู่ฟ้า เลยหายใจได้ทั่วท้องมากขึ้น 

      ขณะที่ศึก ‘ในสภา’ ขณะนี้คณะกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กำลังพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการฯ กันอยู่ ยังไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น หรือสร้างความไม่พอใจให้กับม็อบได้ เพราะหนทางยังอีกไกล วันนี้ปล่อยให้เถียงกันไปกันมา 

      แล้วดูเหมือนว่าฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จะมองข้ามช็อตไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ตามไทม์ไลน์น่าจะอยู่ประมาณเดือนกุมภาพันธ์แล้ว เพราะเหลืออยู่กลไกเดียวที่พอจะกระตุก ‘บิ๊กตู่’ อยู่บ้าง หลังความฝันที่หวังจะพึ่งมือศาลรัฐธรรมนูญเขี่ย ‘บิ๊กตู่’ ให้ร่วงเก้าอี้ดับลง เพราะพักบ้านรับรองกองทัพถูกต้องตามระเบียบ

      พรรคก้าวไกลกำลังลุยเก็บข้อมูลเพื่อหวังเป็นหมัดเด็ด ปลุกกระแสม็อบนอกสภา ขณะที่พรรคเพื่อไทยวันนี้อาการน่าเป็นห่วง เพราะปัญหาภายในรุมเร้า ตกอยู่ในสภาวะเลือดไหลไม่หยุด หลังมีสมาชิกพรรคทยอยลาออก เนื่องจากความไม่พอใจหลายอย่างภายในพรรค นำโดย ‘เจ๊หน่อย’ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ตัดสินใจเก็บข้าวเก็บของออกไปก่อนใคร

      นอกจากนี้ยังมีสมาชิกที่เป็นระดับแกนนำหลายคนตัดสินใจไขก๊อกไปตามอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายโภคิน พลกุล อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร

      สาเหตุที่หลายคนตัดสินใจทิ้งพรรคเพื่อไทย เนื่องจากไม่พอใจการบริหารพรรคของผู้บริหารชุดใหม่ อย่างกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ ชัดเจนว่า น้อยใจ ‘นายใหญ่’ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะถ้าตั้งแต่ปรับโครงสร้างพรรคใหม่ ให้บรรดาเจ๊ตระกูลชินวัตร ไม่ว่าจะเป็นคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ กลับมาคุมพรรค ตัวเองก็ถูกตัดหาง ไร้บทบาท

      บรรดา ส.ส.ในสายคุณหญิงสุดารัตน์แทบจะนั่งตบยุง คนที่มีตำแหน่งแห่งหนสำคัญในพรรคล้วนเป็นสายคุณหญิงพจมาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นประธานคณะกรรมการเมืองฯ ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ผลักดันนายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ข้ามหัวไปไม่รู้กี่คน

      ใครเป็น เด็กเจ๊หน่อย โดนลดบทบาทหมด อย่างล่าสุดประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ปรากฏว่าขั้วอำนาจใหม่ที่มีอำนาจบริหารพรรคเรียก ส.ส.ไปประชุมกันเอง โดยไม่มีการเชิญนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่เป็นประธานวิปฝ่ายค้าน กับ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย 

      ขณะที่ช่วงมีปัญหา ‘นายใหญ่’ ทำได้แค่โพสต์ทวิตเตอร์รัวๆ ตัดพ้อต่อว่า ว่าคนเหล่านี้ทอดทิ้งพรรค พร้อมให้กำลังใจคนที่ยังอยู่ 

      ขณะเดียวกัน ตัวเองก็ไปสู้รบกับอดีตลูกน้องอย่างนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในศึกเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีปัญหาคล้ายๆ กับพรรคเพื่อไทย โดยนายจตุพรไปช่วยนายบุญเลิศ บูรณปกรณ์ อดีตคนสนิทตระกูลชินวัตร หาเสียง ขณะที่นายทักษิณไปช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีต ส.ว. ที่ลงในนามพรรคเพื่อไทย หาเสียง 

      ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นายจตุพรเปิดแผลและแฉถึงปัญหาภายในพรรคเพื่อไทยว่า สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะน้องสาวนายทักษิณที่ชื่อ ‘เยาวภา วงศ์สวัสดิ์’ แม้แต่กรณีของนายบุญเลิศเองที่วันนี้ต้องถูกตราหน้าว่าอยู่กับทหาร ทั้งที่ถูกจับติดคุกตะรางในข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร เพราะรณรงค์ไม่เห็นด้วยกับการรับร่างรัฐธรรมนูญ ออกมาแทนที่พรรคจะโอบอุ้ม ‘เยาวภา’ กลับไปชูมือนายพิชัย 

      แม้แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ วันนี้ภายในพรรคเพื่อไทยยังถกเถียงกันเรื่องประเด็นจนแทบจะตีกัน ฝ่ายหนึ่งอยากให้อภิปรายเรื่องการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่อีกฝ่ายไม่ต้องการเพราะมีความสนิทสนมและเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ 

      เมื่อ ‘ศึกนอก-ศึกใน’ สภาไม่แรง เลยเป็นช่วงให้ ‘บิ๊กตู่’ ถือโอกาสปั่นแต้ม ตุนคะแนนไปพลางๆ โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งที่ฮอตฮิตติดลมบน เป็นโครงการมหานิยมที่คนติดกันงอม แย่งลงทะเบียนกันตั้งแต่เช้ามืดจนเครือข่ายมือถือบางเจ้าถึงกับล่ม

      แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์และโดนด่าเยอะ เพราะมีคนผิดหวังลงไม่ทะเบียนไม่ได้ แต่ภาพรวมถือว่าประชาชนค่อนข้างพอใจ ร้านค้า หาบเร่ แผงลอย หาได้น้อยที่จะไม่ร่วมโครงการ ขณะที่ ‘บิ๊กตู่’ ก็ชิงโชว์ความโปร่งใส หลังมีกลิ่นว่าจะเกิดการทุจริตในโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ สั่งกลางห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เลยว่าไปตรวจสอบมา แล้วอย่ากลับมาบอกว่าไม่มีกลัว เพราะไม่เชื่อ

      เรียกว่าออกตัวยอมรับก่อนที่ฝ่ายค้านและฝ่ายต้านจะเอาไปเป็นประเด็นเลยว่า มันอาจมีเล็ดลอดได้ตามธรรมชาติที่คนที่จ้องฉวยโอกาส แต่อย่างน้อยรัฐบาลออกตัวแล้วว่าฟันไม่เลี้ยง

      แต่ก็ต้องลุ้นไม่ให้เคสที่ อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร มันลามไปไกล เพราะหากนับ 14 วันหลังจากพบเชื้อ มันเฉี่ยวๆ ช่วงเคาต์ดาวน์พอดี ต้องไม่ทำให้การท่องเที่ยวมันกร่อยจากผลกระทบ เหมือนกับที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ ต้องเผชิญจากกรณีท่าขี้เหล็กที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข่าแทบทรุด

      ไม่แปลกใจที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หวังจะเปิดเคสให้ได้ภายใน 1 สัปดาห์ เพราะรู้ว่าหากมีการติดเชื้อ นอกจากส่งผลกระทบต่อการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ มันจะพาลสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาล 

      ช่วงนี้ม็อบเงียบ รัฐบาลต้องไม่หาเรื่องเพิ่ม เพราะถือเป็นเวลาของการพักหายใจ ก่อนที่หลังปีใหม่ ม็อบคณะราษฎร 2563 จะกลับมาเคลื่อน ต้องรับศึกรอบใหม่กันอีกครั้ง ตามที่สัญญาณม็อบกลับไปจับประเด็นเรื่องให้ยกเลิกมาตรา 112 ที่มีแกนนำและผู้ชุมนุมหลายคนถูกแจ้งข้อหา

      ระยะนี้จึงต้องทำให้สงบที่สุด. 

 

 

        "ฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จะมองข้ามช็อตไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ตามไทม์ไลน์น่าจะอยู่ประมาณเดือนกุมภาพันธ์แล้ว เพราะเหลืออยู่กลไกเดียวที่พอจะกระตุกบิ๊กตู่อยู่บ้าง"      


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"