เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานในพิธีบวงสรวงศาลตายายและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องคุ้มครองบริเวณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อขอพรให้การจัดงาน “OTOP CITY 2020” ครั้งที่ 16 ภายใต้แนวคิด “ของขวัญปีใหม่ ล้ำค่าถูกใจ รวมไว้ใน OTOP City 2020” จัดระหว่างวันที่ 19 - 27 ธันวาคม 2563 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นไปด้วยความราบรื่นเรียบร้อย ผู้ประกอบการและผู้มาร่วมงานประสบแต่ความสุขความเจริญแคล้วคลาดปราศจากภัยอันตรายในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า 2563 ต้อนรับปีใหม่ 2564

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่าการจัดงาน “OTOP City 2020” ดังกล่าวนี้ กรมการพัฒนาชุมชนได้คัดสรรและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 3-5 ดาว ที่คัดสรรสินค้าของดีมาจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ มาจัดบูทกว่า 3,000 บูท วางจำหน่ายบนพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เลือกซื้อกระเช้าของขวัญของฝากที่เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนจากภูมิปัญญาของคนไทย สร้างความสุขใจทั้งผู้ผลิต ผู้ให้ และผู้ที่ได้รับมอบของขวัญ เป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้สู่หมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศ ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็งตามนโยบายของรัฐบาล

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในปีนี้นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จเป็นองค์ประธาน  ในพิธีเปิดการจัดงาน OTOP City 2020 ในวันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม 2563 เวลา 14.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี  และทรงอนุญาตให้จัดแสดงนิทรรศการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” จากการเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ด้านผ้าและงานหัตกรรม 3 ภูมิภาค โดยจะมีการจัดแสดง “กี่เจ้าฟ้าฯ ผ้าย้อมครามลวดลายพระราชทาน” ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญในปีนี้

สำหรับผลิตภัณฑ์ OTOP ที่นำมาร่วมจัดแสดงและจำหน่าย ภายในงาน OTOP City 2020 นี้ มี 5 ประเภทผลิตภัณฑ์ ได้แก่ อาหาร,  เครื่องดื่ม,  ผ้าและเครื่องแต่งกาย, ของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก และสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็นสินค้าของดีจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 3,000 กว่าบูท ซึ่งภายในงานแบ่งเป็นหลายโซนกิจกรรมที่นำผลิตภัณฑ์ OTOP ที่ได้รับการพัฒนานำมาจัดแสดงและจำหน่าย ราคาย่อมเยาว์ คาดหวังว่ามหกรรมงาน OTOP City 2020 ในปีนี้จะมียอดจัดจำหน่ายไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้กรมการพัฒนาชุมชนได้รณรงค์ให้ผู้จัดจำหน่ายสินค้าเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการ “ช้อปดีมีคืน” ซึ่งผู้ซื้อสินค้าสามารถขอใบกำกับภาษีจากร้านค้านำไปลดหย่อนภาษีได้ นอกจากเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนที่ชื่นชอบโครงการดังกล่าวของรัฐบาลได้รับการตอบรับในการซื้อสินค้าแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีรายได้พลิกฟื้นจากวิกฤตโควิด-19 ด้วย  

“ขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยร่วมกันอุดหนุนสินค้าจากฝีมือคนไทย ส่งมอบความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญางานหัตถศิลป์ทรงคุณค่า มรดกภูมิปัญญาจากท้องถิ่นที่คัดสรรจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ มาร่วมอุดหนุนสินค้าจากฝีมือคนไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ร่วมกันสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนให้กับประเทศ” อธิบดี พช.กล่าวเชิญชวน

ทั้งนี้การจัดงาน “OTOP City 2020” ครั้งที่ 16 ภายใต้แนวคิด “ของขวัญปีใหม่ ล้ำค่าถูกใจ รวมไว้ใน OTOP City 2020” ดังกล่าวนี้ ได้มีการจัดมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่เชื้อโควิด-19 ตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) หรือ ศบค. ไว้อย่างเคร่งครัด