คนใกล้ชิดแม่ค้าตลาดแพกุ้งติดโควิดอีก 3 ราย! เป็น“แม่-พี่สาว-น้องสะใภ้” สธ.เร่งตีวงหาผู้สัมผัสเพิ่ม “อนุทิน” คาดต้นตอมาจากแรงงานต่างด้าว สั่งอธิบดีปิดเคสภายในสัปดาห์นี้ จ่อลงพื้นที่สมุทรสาคร แจ้งข่าวดีคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ เตรียมฉีดวัคซีนให้อาสาสมัครทดลอง เม.ย.64 ผบ.ทบ.สั่งคุมเข้มชายแดนหวั่นลอบเข้าไทยเคาต์ดาวน์ปีใหม่
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 16 ราย ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 15 ราย ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย จากจังหวัดสมุทรสาคร ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,297 ราย ยอดหายป่วยสะสม 4,005 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 232 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 60 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ มาจากอินเดีย 1 ราย, เมียนมา 4 ราย, เนเธอร์แลนด์ 1 ราย, ตุรกี 1 ราย, สวิตเซอร์แลนด์ 2 ราย, ซาอุดีอาระเบีย 5 ราย และสหราชอาณาจักร 1 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย เจ้าของแพปลา จ.สมุทรสาคร
ส่วนสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 75,273,822 ราย อาการรุนแรง 107,213 ราย รักษาหายแล้ว 52,846,886 ราย เสียชีวิต 1,668,166 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 17,626,770 ราย 2.อินเดีย จำนวน 9,977,834 ราย 3.บราซิล จำนวน 7,111,527 ราย 4.รัสเซีย จำนวน 2,762,668 ราย 5.ฝรั่งเศส จำนวน 2,427,316 ราย ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 152 จำนวน 4,297 ราย
ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในไทย ว่ากรณีผู้ป่วยโควิด-19 เป็นหญิงไทย อายุ 67 ปี อาชีพค้าขายที่ตลาดแพกุ้ง จ.สมุทรสาคร ที่มีการสอบสวนโรคตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.นั้น มีการติดตามผู้สัมผัสทั้งหมด 165 คน เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 26 ราย ได้แก่ คนในครอบครัว 7 ราย สัญชาติไทย ผลไม่พบเชื้อ 4 ราย ผลพบเชื้อ 3 ราย ได้แก่ มารดา พี่สาว และน้องสะใภ้, คนในแพปลาของผู้ป่วย 3 ราย เป็นลูกชาย สัญชาติไทย 1 ราย ไม่พบเชื้อ และลูกจ้างเมียนมา 2 ราย รอผลการตรวจ, ในโรงพยาบาลเอกชน 8 ราย เป็นบุคลากรทางการแพทย์ สวมชุดป้องกัน ผลการตรวจไม่พบเชื้อ, แรงงานในตลาดกุ้ง 8 ราย แบ่งเป็นสัญชาติไทย 3 ราย เมียนมา 4 ราย และสัญชาติอื่น 1 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ
นอกจากนี้ จะมีการหาเชื้อจากแรงงานในตลาดทะเลไทย ซึ่งเป็นตลาดใกล้เคียงด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 139 ราย เป็นแรงงานในตลาดกุ้ง สัญชาติไทย 14 ราย เมียนมา 125 ราย อยู่ระหว่างเก็บตัวอย่างส่งห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม
นพ.โสภณกล่าวว่า สถานที่เกิดเหตุคือตลาดกุ้งที่ผู้ป่วยทำงาน ในโซนเอ พบผู้ป่วยโควิด 4 ราย คือตัวผู้ป่วยอายุ 67 ปี และคนในครอบครัว 3 ราย ไม่มีอาการ ขณะที่ในตลาดกุ้งโซนบี อยู่ระหว่างดำเนินการค้นหาผู้ป่วยและผู้สัมผัสเพิ่มเติมในวันนี้ และอีกจุดหนึ่งคือหอพักซึ่งมีแรงงานเมียนมาพักอาศัยอยู่ ทีมงานจะเข้าไปดำเนินการสอบสวนและเก็บตัวอย่างเพิ่มเติม
สธ.เร่งตีวงควบคุมโรค
ส่วนมาตรการที่จะดำเนินเพิ่มเติม คือการค้นหาตีวงในการควบคุมโรคไม่ให้แพร่ระบาดต่อ มีการเฝ้าระวัง สื่อสาร และสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสอบสวนค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมนุมและตลาดใกล้เคียง ขอให้ทุกคนที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำอยู่ในที่จำกัด สามารถสังเกตอาการได้ หากมีอาการป่วยจะได้นำตรวจวินิจฉัยในโรงพยาบาลได้ทันที นอกจากนี้ การเฝ้าระวังยังขยายไปที่ร้านขายยา คลินิก และโรงพยาบาล ซึ่งผู้ที่มารับการตรวจรักษาโรคทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด สถานพยาบาลจะทำการตรวจหาเชื้อโดวิด-19 ในช่วงนี้ และขอให้ทุกภาคส่วนร่วมทำความสะอาดพื้นที่ในตลาด และลดความแออัดเพื่อความปลอดภัย
สำหรับความก้าวหน้าผลสอบสวนผู้ป่วยโควิด-19 ในบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในสถานกักกันทางเลือก (ASQ) กทม. เหตุการณ์นี้เราพบผู้ติดเชื้อครบถ้วนแล้ว 7 ราย ซึ่งรายสุดท้ายรายที่ 7 ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. จนถึงวันนี้ 6 วันแล้วยังไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ดังนั้นถือว่าเหตุการณ์นี้ควบคุมโรคได้แล้ว เหลือเพียงติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำให้ครบ 14 วัน
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการสอบสวนควบคุมโรค ได้วางวัตถุประสงค์หลักไว้ 3 ประการ 1.เพื่อยืนยันว่าเกิดจากโรคอะไร ซึ่งรายนี้ยืนยันแล้วว่าเกิดจากไวรัสโควิด 2.หาสาเหตุการติดเชื้อครั้งนี้เกิดจากไหนอย่างไร ซึ่งขณะนี้ในกระบวนการสอบสวนโรคกำลังดำเนินการอย่างเข้มข้น และ 3.ประเมินว่ามีการติดเชื้อไปยังคนอื่นๆ อย่างไร เพื่อดำเนินการควบคุมโรคได้ ซึ่งผู้ป่วยทั้งหมด 4 ราย ขณะนี้อยู่ในโรงพยาบาลและได้รับยาทุกคนแล้ว อาการยังไม่หนัก แต่ต้องติดตามต่อไป ส่วนที่มีข่าวลือว่ามีการติดเชื้อที่ตลาดทะเลไทยนั้นไม่ใช่ ขอยืนยันเป็นคนละตลาดและอยู่ห่างกัน
ส่วนที่มีข่าวว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำนับหมื่นๆ ราย นำมาสู่การตรวจคัดกรองโควิด-19 นั้น อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า มีผู้สัมผัสจากกรณีนี้เพียงกว่า 100 ราย แต่ตามมาตรการค้นหาตีวงสื่อสารจะค้นหาให้มากที่สุด จะมีการตรวจอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นข่าวที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากไม่เป็นความจริง แต่การตรวจในคนอีกจำนวนมาก ขึ้นอยู่กับข้อมูลบ่งชี้ที่ได้ และจะลงไปสอบสวน
เมื่อถามว่า การติดเชื้อภายในประเทศที่ จ.สมุทรสาคร เกี่ยวข้องกับอาหารทะเล มีประชาชนกังวลว่าการรับประทานอาหารทะเล รวมถึงซูชิที่เป็นอาหารดิบจะปลอดภัยหรือไม่ เพราะจากรายงานหลายประเทศมีการติดเชื้อโควิดจากอาหารแช่แข็ง นพ.โสภณตอบว่า เรื่องของอาหารแนะนำให้รับประทานสุกและร้อน ส่วนโอกาสที่จะมีเชื้อไวรัสปนเปื้อนอยู่ในอาหารมีได้น้อย จะเห็นจากข่าวในต่างประเทศที่มีการส่งออกอาหารทะเลไปต่างประเทศเกิดการปนเปื้อนเมื่อมีการระบาดแรงๆ ในประเทศ พูดง่ายๆ คือมีคนในชุมชนติดเชื้อจำนวนมาก มีโอกาสที่เชื้อจะลงไปในอาหารที่เป็นวัตถุดิบในการส่งออก แต่ในจำนวนนี้พบผู้ติดเชื้อจำนวนไม่กี่ราย ด้วยมาตรการที่เรากำหนดเพื่อป้องกันไว้ก่อน แนะนำให้รับประทานอาหารสุกร้อน ขอให้ประชาชนสบายใจได้ แต่ไม่ประมาทในการป้องกัน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขระดมเจ้าหน้าที่เต็มที่ เชื่อว่าสามารถควบคุมเชื้อที่ จ.สมุทรสาครได้ ได้สั่งการอธิบดีกรมควบคุมโรคแล้วว่าห้ามออกจากจังหวัดสมุทรสาคร ให้ปักหลักอยู่ที่นั่นเพื่อคอยสืบสวนโรค และสอบสวนโรคจนไปถึงตรวจสอบคนที่อยู่ในวงเสี่ยงคือ สัมผัสสูง สัมผัสกลาง สัมผัสต่ำ จากผู้ป่วย ซึ่งขณะนี้ที่น่าเป็นห่วงคือมารดาของผู้ติดเชื้อ เนื่องจากมีอายุ 95-97 ปี ที่เข้าข่ายเสี่ยงสูง ซึ่งขณะนี้ถึงมือแพทย์หมดทุกคนแล้ว ส่วนการตรวจเชื้อนั้นก็ต้องขยายวงไปเพื่อให้เกิดความมั่นใจสูงสุด คือหลายพันคน เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจ ขออย่าตื่นตระหนกจนเกินไป ขอให้ยึดการใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้นตอมาจากเจ้าของแพหรือมาจากแรงงานต่างด้าว นายอนุทินกล่าวว่า น่าจะมาจากแรงงานต่างด้าวมากกว่าตามที่อธิบดีกรมควบคุมโรครายงาน เพราะคนที่อยู่ในเรือประมงไม่รู้ว่าเขาป้องกันอย่างไร และเมื่อเรียกตัวมาสอบแล้วว่าจะให้ข้อมูล ซึ่งต้องเอาโทรศัพท์ของเขามาดูข้อมูลเพื่อยืนยัน และตรวจสอบว่าอยู่ที่ไหน ไปที่ไหน ซึ่งอย่างกรณีนี้ ถ้ามาจากท่าขี้เหล็ก จะได้สอบโรคได้ว่าต้นตอมาจากไหน
ปิดเคสภายในสัปดาห์นี้
"ผมมั่นใจว่าสามารถควบคุมได้ และผมได้กำชับอธิบดีกรมควบคุมโรคไปแล้วว่าจะต้องปิดเคสนี้ให้ได้ภายใน 1 สัปดาห์นี้ จะได้ไม่มีความกังวลกับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตอนนี้ถ้าเจอคนไข้เรารักษาได้ เพราะส่วนใหญ่คนไข้ยังไม่แสดงอาการเข้าขั้นตรีทูต เพราะฉะนั้นการรักษายังสามารถทำได้ในระยะเวลารวดเร็ว โอกาสที่จะกระจายเชื้อได้ก็น้อย เชื้อโควิด-19 ก็มีทั้งส่วนแข็งแรงและส่วนอ่อนแอ ตอนนี้เราจับส่วนอ่อนแอมาบี้ ส่วนแข็งแรงต้องพยายามไม่ให้มันแผลงฤทธิ์" นายอนุทินกล่าว และว่า ภายในวันสองวันนี้จะลงพื้นที่เพื่อลงไปดู
เมื่อถามว่า รัฐบาลสามารถใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการนำแรงงานต่างด้าวที่มีอยู่ไปตรวจสอบโรคได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทำได้ แต่ยังไม่ถึงจุดนั้น เพราะยังไม่มีการระบาดนอกวง ยังอยู่ในกลุ่มที่ตามเจออยู่ และขยายขอบข่ายของการตรวจ ซึ่งถ้าถึงจุดนั้นทำแน่นอนไม่ต้องห่วง
นายอนุทินเปิดเผยว่า คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ามารายงานการพัฒนาวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอวัคซีน (mRNA) ซึ่งเราให้การสนับสนุนในวงเงินกว่า 370 ล้านบาทไปก่อนหน้านี้ โดยผ่านการทดสอบในสัตว์ทดลองแล้ว กำลังจะจองวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นตัวอย่างฉีดในอาสาสมัคร คาดว่าภายในเดือนเม.ย.ปีหน้า วันนี้เขามาบอกว่ารัฐบาลควรสนับสนุนเพิ่มให้เขาซื้อวัตถุดิบ ซึ่งเราสนับสนุนอยู่แล้ว เพราะกันงบไว้จากโครงการเงินกู้โควิดเป็นวงเงินไว้ 3,000 ล้านบาท โดยจะให้เป็นครั้งๆ ไม่ใช่ทั้งหมด ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะวัคซีนที่เราจองไว้ 26 ล้านโดส คาดว่าจะได้ประมาณกลางปี แต่ยังไม่พอ หากมีของจุฬาฯ ที่ใช้ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอจะทำให้เกิดความมั่นใจและกระจายได้เพียงพอมากขึ้น และยืนยันก่อนจะนำมาใช้กับคนได้ต้องมีความปลอดภัย "วัคซีนของจุฬาฯ มีจุดแข็งที่เป็นวัคซีนที่ผลิตโดยคนไทย เพื่อคนไทย หากทำสำเร็จประเทศไทยจะครบเลย ทั้งควบคุมโรค ป้องกันโรค รักษาโรค และมีวัคซีนลูปโควิดครบ ปิดบัญชีโควิดได้ และการฉีดวัคซีนในอาสาสมัครต้องฟรี แต่ไม่ใช่ฉีดทั้ง 70 ล้านคน ใครไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงไม่จำเป็นต้องฉีด เรื่องนี้กรมควบคุมโรคมีคณะกรรมการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อจัดลำดับกลุ่มเสี่ยง โดยกลุ่มเสี่ยงแรกคือบุคลากรทางการแพทย์" รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ระบุ
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า พื้นที่ที่เกิดเหตุมีหน่วยงานของกระทรวงแรงงานที่เข้าตรวจสถานประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าวอยู่เป็นประจำ แต่กรณีนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าสาเหตุที่ติดโควิดติดจากใคร ต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงสาธารณสุขก่อน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้มีการตรวจจับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาอย่างเข้มงวด และยอมรับว่าแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาจำนวนมากคือจังหวัดสมุทรสาคร แต่ที่น่ากลัวคือโซนที่ติดกับประเทศเมียนมา เนื่องจากมีการแพร่ระบาดเป็นจำนวนมาก จึงให้ความสำคัญจังหวัดตามแนวชายแดนแถบดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรายใดที่ใช้แรงงานเมียนมาจำนวนมาก ทางกระทรวงแรงงานได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจเป็นประจำว่าถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมาย
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก แถลงภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกระดับผู้บังคับกรมและผู้บังคับกองพันทั่วประเทศว่า การเรียกผู้บังคับกรมและผู้บังคับกองพันมาสั่งการในวันนี้ เพื่อจะได้มีเวลากลับไปเตรียมตัววางแผนรับสถานการณ์ในช่วงปีใหม่ เนื่องจากกำลังพลปฏิบัติงานหน้าที่ตามแนวชายแดน ไม่ได้หยุดปีใหม่เหมือนประชาชนทั่วไป ตามนโยบายของรัฐบาลหรือ ศบค. กำหนดว่าปีใหม่ไม่ได้ล็อกดาวน์ประเทศจัดงานได้ตามปกติ แต่ภายใต้มาตรการโควิดที่เหมาะสม เพราะฉะนั้นไม่สามารถประกันหรือมั่นใจได้ว่าประเทศรอบข้างที่ไม่สามารถจัดงานเทศกาลปีใหม่ได้ อาจจะลักลอบเข้ามาร่วมเคาต์ดาวน์กับเรา โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวชายแดนเช่นภาคเหนือ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |