18 ธ.ค.63 - ที่จังหวัดนครพนม นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ร่วมกับนายณพจน์ศกร ทรัพย์สิทธิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครพนม เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงที่ อ.ปลาปาก และ อ.โพนสวรรค์
โดยนายปิยบุตร ระบุว่า การคัดเลือกผู้สมัครนายก อบจ.ของคณะก้าวหน้า จะต้องเป็นคนที่มีความรู้ วิสัยทัศน์ ศักยภาพในการพัฒนาจังหวัด และขาดไม่ได้ คือจะต้องมีจุดยืนเรื่องประชาธิปไตยด้วย ใครก็ตามต่อให้มีความรู้ความสามารถ แต่ไปจับมือให้ความร่วมมือกับประยุทธ์และการสืบทอดอำนาจ คณะก้าวหน้าเราไม่เอาเด็ดขาด
นายปิยบุตร กล่าวว่านายณพจน์ศกร มีประสบการณ์ในทางการเมืองในจังหวัดนครพนม เป็นน้องชายนายอรรถสิทธิ์ ทรัพย์สิทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม 7 สมัย ที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยและมีประสบการณ์ทำงานเพื่อชาวนครพนมมาอย่างยาวนาน และด้วยประสบการณ์เช่นนี้ บวกกับแนวคิดแนวทางใหม่ๆ ของคณะก้าวหน้า ทำให้นายณพจน์ศกร มีคุณสมบัติที่เหมาะสมครบครันเพื่อมาบริหารจังหวัดนครพนมเพื่อพี่น้องชาวนครพนมที่สุด
เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวต่อว่า นายณพจน์ศกร มีจุดยืนประชาธิปไตย มีความรู้ความสามารถพร้อมบริหารให้พี่น้องอย่างยิ่ง งบประมาณ อบจ.นครพนมได้รับ 500 ล้านบาทต่อปี มาจากภาษี มาจากหยาดเหงื่อของชาวนครพนมทุกคน ด้วยโจทย์นี้ นายณพจน์ศกรได้รับการบ้านจากนายธนาธร ไปออกแบบนโยบาย จนได้นโยบายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างตลาดกลางปลาแม่น้ำโขง นโยบายขนส่งมวลชนสาธารณะให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด ให้มีโอกาสในการเดินทาง การสร้างศูนย์รักษาโรคต้อกระจกในผู้สูงอายุให้ครอบคลุมทั่วจังหวัด และนโยบายอื่นๆ ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชาวนครพนม ส่วนจุดยืนเรื่องความเป็นฝ่ายประชาธิปไตยก็ชัดเจน แน่นอนคำว่าฝ่ายประชาธิปไตยมีหลายกลุ่มหลายพรรค แต่ตนอยากให้พี่น้องมองให้ดี ต้องดูว่าแต่ละคนนั้นเป็นใคร ก่อนหน้านั้นทำอะไร วันนี้จุดยืนอยู่ตรงไหน ตนเชื่อมั่นว่าณพจน์ศกรมีจุดยืนชัดเจนไม่เอาประยุทธ์แน่นอน
“ไม่ใช่การเมืองท้องถิ่นแบบเดิมๆ ไอ้ประเภทที่ว่าในระดับชาติอยู่กันคนละฝ่ายคนละพรรคคนละสังกัด อภิปรายกันเลือดสาด แต่พอมาเป็นการเมืองท้องถิ่นกลับไปจับมือกันได้หมด แบบนี้เป็นการเมืองแบบเดิม สำหรับเราคณะก้าวหน้าเราต้องการแยกแยะตรงนี้ให้แจ่มชัด ชัดเจน ไม่มีการไปจับมือคนที่สนับสนุนประยุทธ์แน่นอน พอกันทีกับการเมืองซูเอี๋ยแบบเดิมๆ” นายปิยบุตรกล่าว
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นยังอาจส่งผลสะเทือนไปถึงการเมืองในระดับชาติเช่นกัน ก็เพราะพรรคอนาคตใหม่มาจนถึงคณะก้าวหน้า ชัดเจนว่าอยู่ตรงข้ามกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าชาวนครพนมออกมาร่วมกันกาเลือกพวกเราให้มากๆ นั่นก็จะเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนที่สุด ว่าชาวนครพนมต้องการให้ประยุทธ์ออกไปได้แล้ว และหากพี่น้องเลือกผู้สมัครของคณะก้าวหน้าทั่วประเทศให้ถล่มทลาย อย่างน้อยนั่นจะเป็นแรงหนุนเสริมให้กับลูกหลานของเราที่กำลังชุมนุมอยู่ทั่วประเทศในขณะนี้ เพราะในทางกลับกัน การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้มีผู้สมัครนายก อบจ.จำนวนมากที่เอาใจช่วย พล.อ.ประยุทธ์ อยู่แต่ไม่กล้าบอกตรงๆ แล้วถ้าเขาเหล่านี้ชนะการเลือกตั้งได้มาก ก็จะต้องมาอ้างว่าคะแนนนิยมของรัฐบาลยังดีอยู่
“เพราะฉะนั้น ถ้าพี่น้องต้องการให้กำลังใจพวกเรา สนับสนุนพวกเราให้สู้ต่อ ให้เอาชนะการเมืองท้องถิ่นแบบเก่า ไม่ต้องรอให้พวกเราพ้นโทษถึง 10 ปี 20 ธันวาคมนี้สำคัญอย่างยิ่ง ตื่นแต่เช้าเข้าคูหาจูงมือกันไปทั้งครอบครัว ให้เป็นวันแห่งครอบครัวประชาธิปไตย ร่วมกันกาผู้สมัครของคณะก้าวหน้า เปลี่ยนการเมืองแบบเก่าให้เป็นการเมืองแบบใหม่ ที่จะทำให้ชาวนครพนมเป็นใหญ่ แข่งกันที่นโยบาย แข่งกันทำความดีให้ประชาขน และได้ส่งสัญญาณแรงๆ ดังๆ ไกลๆ ว่าชาวนครพนมไม่เอาประยุทธ์ จันทร์โอชา และให้กำลังใจธนาธร เข้ามาทำงานให้พี่น้องและต่อสู้ต่อไป” นายปิยบุตร กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |