18 ธ.ค.63 - นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ได้เผยแพร่คลิปช่วยหาเสียงสนับสนุนนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ว่า เป็นการครอบงำหรือชี้นำกิจกรรมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ และยังขอให้ยุบพรรคเพื่อไทยนั้น ในฐานะที่เป็นอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงนายพิชัย ขอเรียนว่า เรื่องนี้ต้องแยกประเด็นเรื่องการเลือกตั้ง กับการบริหารพรรคออกจากกัน เพราะการเลือกตั้งนั้นจะมีกฎหมายและระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดไว้ ว่า อะไรทำได้อะไรทำไม่ได้
"อดีตนายกทักษิณ ได้ทำจดหมายและคลิปภาพและเสียงสนับสนุนนายพิชัยและโพสต์ลงเฟซบุ๊กของตนเองนั้น ในระเบียบของ กกต. สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นอดีตนายกทักษิณ หรือใครที่ต้องการเชียร์ผู้สมัครคนใดคนหนึ่งก็สามารถโพสต์สนับสนุนได้ เพียงแต่หากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเกินห้าพันบาทก็แจ้งให้ผู้สมัครทราบ หากผู้สมัครยอมรับก็นำค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับการที่นายกทักษิณจะไปควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำการบริหารหรือการดำเนินกิจกรรมของพรรคเพื่อไทยเลย"
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า หากเปรียบเทียบกับกรณี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 24 มีนาคม 2562 ระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง แม้ พลเอกประยุทธ์ จะเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐแต่พลเอกประยุทธ์ก็ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย อีกทั้งไม่ได้เป็นสมาขิกพรรคพลังประชารัฐ กกต.ได้มีความเห็นว่า พลเอกประยุทธ์ สามารถช่วยพรรคพลังประชารัฐและผู้สมัครหาเสียงได้ เพียงแต่ต้องไม่กระทำการขัดต่อมาตรา 78 ของกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. เท่านั้น โดยพลเอกประยุทธ์ ได้ช่วยผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐหาเสียงทั้งปรากฏตัวบนเวทีปราศรัย ส่งคลิปภาพและเสียงของตนเองที่สนับสนุนผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐและนำไปเปิดบนเวทีปราศรัยหาเสียงก็ทำมาแล้วในหลายเวที ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ทั้งที่พลเอกประยุทธ์ มิได้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
"หากถือว่าการที่ท่านอดีตนายกทักษิณทำจดหมายและพูดสนับสนุนนายพิชัยในการเลือกตั้งนายกอบจ. กับการที่พลเอกประยุทธ์ช่วยพรรคพลังประชารัฐและผู้สมัครของพรรคหาเสียง ส.ส. จะไม่ชัดเจนยิ่งกว่าหรือ จึงขอฝากไปยังกกต.ว่าต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างเป็นธรรม ขอฝากไปยังนายศรีสุวรรณว่า ถ้าคิดจะเป็นผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญตามชื่อสมาคมที่ตนเองเป็นเลขาฯจริง การจะร้องเรียนอะไรก็ควรให้เป็นสาระมากกว่านี้ และอย่าทำอะไรโดยมีวาระแอบแฝงหรือมีเบื้องหลัง การจะสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองนั้น มีวิธีอื่นทำได้อีกเยอะ ขอให้นายศรีสุวรรณ ไปดูว่าเรื่องที่ตนเองไปยื่นคำร้องตามหน่วยงานต่างๆ นั้น มีกี่เรื่องที่เป็นสาระบ้าง อย่าสร้างภาระแก่หน่วยงานของรัฐให้มากไปกว่านี้เลย ควรเอาเวลาไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนมากกว่า เช่นการตรวจสอบการทุจริตของรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐจะดีกว่า ช่วงนี้ใกล้วันเลือกตั้งการจะทำอะไรที่มีผลกระทบต่อคะแนนนิยมของผู้สมัคร อาจผิดกฎหมายเลือกตั้งได้ และตนก็อยากถามนายศรีสุวรรณว่า ทุกวันนี้ทำอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง และมีรายได้จากทางไหนถึงมีเวลาไปเที่ยวร้องเรียนคนอื่นไปทั่ว และอย่าเที่ยวร้องซ้ำซาก"นายพร้อมพงศ์ กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |