18 ธ.ค.2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน (PM 2.5) ว่า จากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่มีมากในขณะนี้ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาว ส่งผลให้อากาศปิด จึงได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบรถสาธารณะ รวมถึงเชิญผู้ประกอบการเข้าร่วมประชุม เพื่อขอความร่วมมือในการรักษาสภาพรถให้อยู่ในมาตรฐาน ก่อนที่จะนำออกมาให้บริการ ทั้งนี้ มองว่า หากจะแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องช่วยกันทุกฝ่าย ไม่ใช่เพียงแค่ภาครัฐเท่านั้น รวมถึงภาคประชาชน จะต้องพิจารณาในเรื่องยานพาหนะว่า อยู่ในมาตรฐาน หรือเข้าเกณฑ์ที่จะสร้างมลภาวะหรือไม่ 

ขณะเดียวกัน ในอนาคตได้กำหนดในส่วนของการเปลี่ยนพลังงานของยานพาหนะต่างๆ โดยการสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนมาใช้รถระบบไฟฟ้ามากขึ้น โดยได้กำหนดแผนระยะ 20 ปีไว้ รวมถึงการเปลี่ยนระบบเชื้อเพลิงของรถสาธารณะ เช่น รถเมล์สาธารณะขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่จะมีการนำรถโดยสารปรับอากาศไฟฟ้า (EV) มาให้บริการ ซึ่งในขณะนี้แผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) 

นอกจากนี้ ในส่วนของการขนส่งทางน้ำนั้น ก็สนับสนุนการใช้เรือไฟฟ้า ซึ่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยในวันที่ 22 ธ.ค. 2563 นี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะเดินทางเป็นประธานและทดสอบเรือไฟฟ้าต้นแบบสำหรับให้บริการประชาชนที่โดยสารบนแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมเจ้าท่า (จท.) และบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA 

“ผมมองว่าสิ่งเหล่านี้ รวมถึงระบบรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆ ที่เริ่มจะทยอยเสร็จภายในปี 2568 เป็นต้นไปนั้น จะช่วยตอบโจทย์เรื่องที่ไม่จำเป็นจะต้องนำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาในเมือง วันนี้มองว่ารัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ และท่านนายกฯ ได้สั่งการกำชับตลอด เรื่องเหล่านี้ต้องเดินไปด้วยกัน และจะช่วยแก้ปัญหาได้” นายศักดิ์สยาม กล่าว 

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า กรณีที่นายกฯ ได้กำชับเรื่องการเชื่อมต่อระบบขนส่งนั้น ในเรื่องดังกล่าว สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ศึกษาเรื่องของการจัดทำโครงข่ายกับระบบขนส่งขนาดรอง (Feeder) ไว้แล้ว และไม่ทำขนาดใหญ่มากไป ซึ่งจะต้องทำให้พอดี และใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามข้อสั่งการของนายกฯ อีกทั้ง ในส่วนของพื้นที่ว่างรอบสถานีรถไฟฟ้าที่มีอยู่นั้น จะต้องบูรณาการระหว่างท้องถิ่น เพื่อพิจารณากำหนดผังเมือง สอดคล้องกับการพัฒนาโครงการศึกษาพัฒนาเมืองกับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม (TOD) หรือ เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ของกระทรวงคมนาคม โดยประชาชนจะอาศัยการเดินทางโดยรถไฟฟ้าเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ มากขึ้น ซึ่งคล้ายกับการดำเนินการของต่างประเทศ