“คลัง” เตรียมเปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 2 รอบเก็บตกอีก 5 แสนสิทธิ์ หลังประชาชนโอดลงทะเบียนไม่ทัน-มีปัญหาเลข OTP พร้อมแจงขอเวลาประเมินความสำเร็จโครงการ ก่อนปักธงลุยคนละครึ่งเฟส 3-4 นายกฯ ลั่นสั่งฟันก๊วนโกงเราเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่งไปแล้วกว่า 200 ราย ตร.จ่อเอาผิดเจ้าของโรงแรม ร้านค้า 514 แห่ง ประเดิมภาคอีสาน-ใต้ พบไม่มีการเข้าพักโรงแรมจริง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมว่า กระทรวงการคลังเตรียมเปิดลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งเฟส 2 รอบเก็บตกอีกไม่ต่ำกว่า 5 แสนสิทธิ์ ซึ่งมาจากผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ในโครงการคนละครึ่งเฟส 1 ประมาณ 4 แสนสิทธิ์ และเฟส 2 ที่เปิดลงทะเบียนอีก 5 ล้านสิทธิ์ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ไม่ผ่านเกณฑ์อีกจำนวนหนึ่งในเร็วๆ นี้ โดยขณะนี้ธนาคารกรุงไทยอยู่ระหว่างการสรุปตัวเลขทั้งหมด
ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่ง เฟส 2 ยังมีคนที่ยังไม่ได้รับสิทธิ์ เนื่องจาก 1.ลงทะเบียนไม่ทัน 2.มีปัญหาจากเลข OTP เนื่องจากระบบสัญญาณโทรศัพท์มีปัญหา ทำให้สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ โดยขณะนี้ธนาคารกรุงไทยกำลังสรุปตัวเลขผู้ที่ยังไม่ได้รับสิทธิ์ในส่วนนี้ทั้งหมด
สำหรับโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 และ 4 ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั้น กระทรวงการคลังยังต้องขอรอดูผลของโครงการคนละครึ่งเฟส 1 และ 2 ในช่วงไตรมาส 1/2564 ก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจยังต้องพึ่งพาการใช้จ่ายในประเทศ หากมีมาตรการที่ทำให้ประชาชนมีการใช้จ่ายมากขึ้น ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นฟูได้เร็ว
นายอาคมกล่าวถึงกรณีที่ผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์รายหนึ่งมีปัญหาในวันลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 ทำให้ประชาชนไม่ได้รับเลข OTP และพลาดสิทธิ์การลงทะเบียนนั้น เบื้องต้นได้รับรายงานว่าผู้ให้บริการดังกล่าวมีมาตรการชดเชยให้กับลูกค้า ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็เป็นคนละส่วนกับสิทธิประโยชน์ที่ได้จากโครงการคนละครึ่ง เพราะเชื่อว่าประชาชนยังอยากได้เงินไปจับจ่าย ซื้อของ กินส้มตำ ไก่ย่าง มากกว่าค่าใช้จ่ายในเรื่องอินเทอร์เน็ต และส่วนลดค่าโทรศัพท์ต่างๆ ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัญหาเรื่องการส่งเลข OTP ล่าช้าของผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์รายหนึ่งนั้น เป็นปัญหาคอขวด เพราะว่าระบบไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับปริมาณรายการที่ส่ง SMS แบบกระหน่ำซัมเมอร์เซล ซึ่งในส่วนของผู้ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งเฟส 2 จำนวน 5 ล้านคนนั้น ขณะนี้กรุงไทยยังไม่ได้มีการส่ง SMS เพื่อให้ผู้ผ่านเกณฑ์ยืนยันสิทธิ์ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ได้รับสิทธิ์เข้ามาแออัดกันลงทะเบียนในแอปพลิเคชันดังกล่าวจำนวนมาก เนื่องจากยังมีเวลาก่อนโครงการเฟส 2 จะเริ่มในวันที่ 1 ม.ค.2564
"ยอมรับว่ามีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการคนละครึ่ง เฟส 1 เข้ามายืนยันเพื่อรับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพิ่ม 500 บาท จากเฟส 2 มากเกินกว่าที่คาดการณ์ โดยในวันแรกพบว่ามีผู้ยืนยันสิทธิ์แล้วกว่า 4 ล้านคน ทำให้แอปพลิเคชันเป๋าตังมีความหน่วง ธนาคารจึงจำเป็นต้องปิดระบบ แต่ยืนยันว่าแอปพลิเคชันเป๋าตังสามารถกลับมาใช้งานได้แล้ว 100%" นายผยงกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า มีโกงตรงไหนก็จับตรงนั้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง ก็จับหมด ซึ่งตอนนี้ก็มีการดำเนินคดีกับผู้ที่โกงโครงการเหล่านี้ไปแล้วกว่า 200 ราย ซึ่งการแก้ปัญหาทุจริตไม่ใช่รัฐทำฝ่ายเดียว ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันด้วย ทั้งผู้ให้ ผู้รับ ผู้อำนวยความสะดวก สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการสมยอมกัน ต้องช่วยกันให้ข่าวให้ข้อมูล จะได้จับกุมถูกต้อง
"สำหรับสถิติที่มีการร้องมาจำนวนมาก กำลังให้ดำเนินการตรวจสอบว่าจริงๆ แล้วมีเท่าไหร่ และบางทีเป็นลักษณะฟ้องกันไปมา คนได้ประโยชน์บ้าง คนเสียประโยชน์บ้าง จึงอาจทำให้ดูเยอะ ก็ต้องไปดูอีกที เรื่องแบบนี้มันปฏิเสธไม่ได้ ก็ต้องมีคนชั่ว คนไม่ดี ยังมีอยู่ ก็เห็นอยู่ในสื่อทุกวัน ยังมีอยู่ มันหาช่องทางกันจนได้ อะไรก็จะโกง ตั้งหน้าตั้งตาจะโกงกัน ซึ่งก็คงเป็นกรรมที่ไม่ดีของเขาเอง ผมไม่อยากไปพูดจาไม่ดีใส่คนพวกนี้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร จำนวน 514 แห่ง ที่ต้องสงสัยทุจริต ฉ้อโกงเงินของรัฐ จากโครงการเราเที่ยวด้วยกันว่า หลังรับคำร้องทุกข์จากนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เบื้องต้นจะตรวจสอบพฤติกรรมของผู้กระทำความผิดทั้ง 514 แห่ง ตรวจสอบเส้นทางการเงิน สถานที่ใดที่มีความผิดชัดเจนก็จะเร่งดำเนินการสืบสวนสอบก่อน ซึ่งตอนนี้ที่พบความผิดชัดเจน จะดำเนินคดีเป็นลำดับแรกๆ เป็นโรงแรมที่อยู่ในจังหวัดทางภาคอีสานและภาคใต้ โดยทุจริตไม่มีการเข้าพักโรงแรมจริง
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวอีกว่า ตร.อยู่ระหว่างร่างหนังสือให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวน โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน และ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้ช่วยหัวหน้าคณะพนักงานฯ เพื่อสนับสนุนการทำงานคดีนี้ โดยว่าคาดจะเสนอให้ ผบ.ตร.เซ็นลงนามได้ในวันที่ 18 ธันวาคม ซึ่งในช่วงแรกการรับคดีจะเป็นความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และอาจขยายไปหน่วยอื่นตามจังหวัดต่างๆ ที่พบการกระทำความผิดของโรงแรม ร้านค้าในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจะเร่งรัดสืบสวนสอบสวนนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |