รองเลขาฯ อย.เผยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของดาราสาว "เบลล่า-มะปราง" โฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต โอ้อวดเกินจริง มีความผิดทั้งจำคุกและปรับ เตรียมส่งเรื่องให้ตำรวจดำเนินการ ด้านน้องแบมผู้เปิดโปงขบวนการโกงเงินผู้มีรายได้น้อยหลวมตัวเป็นตัวแทนเมจิกสกิน ร้องนายกฯ ช่วยด้วย ตลาดใหม่ดอนเมืองยังไม่สะเด็ด "สันธนะ" อ้างรุ่นพี่คิดบัญชีแค้นเหตุเสียผลประโยชน์
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ เภสัชกรสมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของดาราสาว "เบลล่า" ราณี แคมเปน ว่าจากการตรวจสอบพบว่ามีการขอเลขสารบบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างถูกต้อง แต่การโฆษณาดังกล่าวอาจเป็นการกระทำผิดเรื่องการโฆษณาอาหารที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งข้อความในการโฆษณาดังกล่าวอาจเข้าข่ายการโฆษณาโอ้อวดเกินจริง ซึ่งจะมีบทลงโทษตาม พ.ร.บ.อาหาร 2522 มาตรา 40 ข้อหาโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร อันเป็นความผิดตามมาตรา 70 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 41 ข้อหา โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร เพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษตามมาตรา 71 ปรับไม่เกิน 5,000 บาท ทั้งนี้ อย.จะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป
มีรายงานว่าดาราสาวเบลล่า-ราณี แคมเปน ที่โด่งดังจากละครบุพเพสันนิวาส ได้ร่วมหุ้นกับมะปราง-วิรากานต์ เสณีตันติกุล ทำธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนัก บี เคิร์ฟ โดยการโฆษณาที่ อย.เห็นว่าเกินจริง คือการใช้คำว่า "ชงผอม"
ด้าน มะปราง-วิรากานต์ชี้แจงว่า เรื่องโฆษณาเกินจริงนั้นไม่ได้มาจากทางบริษัท มาจากตัวแทนจำหน่ายซึ่งเราได้เรียกมาตักเตือน และได้ปรับเปลี่ยนการโฆษณาใหม่ ในส่วนของ อย.ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมา แต่ก็ยืนยันว่าทุกอย่างโปร่งใสชัดเจนมากๆ ตรวจสอบทุกอย่างได้เลย
ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล (ฝั่ง ก.พ.) น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ผู้ที่เปิดโปงขบวนการปลอมแปลงเอกสารทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ป่วยเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าในเครือบริษัท เมจิก สกิน จำกัด (ผลิตภัณฑ์ตรีชฎา) พร้อมด้วยผู้เสียหายประมาณ 50 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านนายสาธิต สุทธิเสริม หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน ศูนย์บริการประชาชน เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับบริษัท เมจิก สกิน จำกัด หลังตกป็นเหยื่อถูกหลอกให้เสียเงินจากการสั่งซื้อสินค้าหรือสมัครเป็นตัวแทนหลัก กระทั่งสูญเสียเงินเป็นมูลค่าหลายล้านบาท
น.ส.ปณิดากล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเป็นตัวแทนขายให้ผลิตภัณฑ์ตรีชฎา ในเครือบริษัท เมจิก สกิน จำกัด โดยเริ่มเป็นตัวแทนจำหน่ายเมื่อเดือน มี.ค.60 แต่เมื่อมีปัญหาเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่าน อย.ก็มีการเจรจาหลายครั้ง โดยขอเงินคืนจากบริษัทแต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา โดยบริษัทพยายามยัดเยียดผลิตภัณฑ์อื่นที่มีปัญหาเหมือนกันมาให้ขายแทนการจ่ายเงินสดคืน ซึ่งผู้ขายไม่ยอมเพราะต้องการเงินสดคืน และตอนนี้ทุกคนเดือดร้อน อีกทั้งแบรนด์สินค้ามีพฤติกรรมที่อาจจะฉ้อโกงประชาชน จากการเชิญชวนให้สมัครเป็นตัวแทนหลักและมีระบบการขายแบบไม่เหมือนใคร จนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นวีไอพี ซูเปอร์วีไอพี จนเป็นดีลเลอร์ ตามลำดับ ซึ่งจะต้องสต็อกสินค้าชุดแรกจำนวน 1,000 ซองและเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 50,000 ซอง
น.ส.ปณิดากล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าระบบนี้จะทำให้มีเงินเก็บเลี้ยงพ่อแม่และส่งตัวเองเรียนได้ จึงนำทองไปจำนำและขอเงินพ่อแม่มาลงทุน ซึ่งพ่อแม่ได้เตือนแต่แรกแล้ว แต่ตนก็มองว่าระบบจะมีคุณภาพ รวมถึงสามารถเช็กเลขจาก อย.ได้ แต่เมื่อมีข่าวการจับกุมผู้บริหารบริษัท เมจิกฯ ตนจึงยุติการขายทันทีและทำให้สินค้าค้างสต็อกกว่า 1,240 ซอง ซึ่งทำให้ตนต้องนำเงินที่สะสมไว้มาเยียวยาให้แก่ลูกทีมของตนไปก่อน โดยที่ตนไม่ได้รับเงิน ไม่ได้รับการเยียวยาจากเจ้าของแบรนด์แต่อย่างใด จึงมาร้องเรียนขอให้ พล.อ.ประยุทธ์เร่งรัดดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเครือบริษัท เมจิก สกิน จำกัด พร้อมยึดทรัพย์เจ้าของบริษัทเพื่อนำเงินมาเยียวยาให้แก่ผู้เสียหาย
ยังมีความเคลื่อนไหวอีกด้านหนึ่งที่ตลาดใหม่ดอนเมือง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.เอกชัย บุญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จาก สน.ดอนเมือง 191 บช.ทท.เข้าตรวจสอบสำนักงานของตลาดเพื่อปฏิบัติการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลและสินค้าผิดกฎหมายในตลาดใหม่ดอนเมือง
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกที่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดใหม่ดอนเมืองได้เปิดทำการค้าขายตามปกติ หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นมาเป็นเวลา 5 วัน ส่วนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ได้นำหมายศาลอาญาเข้าตรวจค้นออฟฟิศผู้ที่มีสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ในการประกอบกิจการตลาด เพื่อดูเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นการร่วมมือกับกรมสรรพากร กรมธนารักษ์ สำนักงานเขตดอนเมือง และ ปปง. ขอให้ประชาชนสบายใจได้ รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าสามารถเปิดทำการได้ตามปกติ ใครผิดก็ว่ากันไปตามผิด โดยหลังจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตั้งจุดอำนวยการทุกวันจนถึงสิ้นเดือนนี้ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในตลาด และสร้างการรับรู้ความเข้าใจในการจำหน่ายสินค้า สิ่งไหนที่ผิดกฎหมายไม่สามารถจำหน่ายได
ในการดำเนินการกับผู้ที่เรียกเก็บเงินพ่อค้าแม่ค้าได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ทราบแล้ว ส่วนการเข้าตรวจค้นวันนี้เป็นการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน หากเกี่ยวโยงถึงใครที่กระทำผิด เกี่ยวโยงถึงไหนทำถึงนั่น แต่ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ส่วนผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟียไม่มีแล้ว เป็นการทำผิดรายบุคคล ใครทำต้องรับผิดชอบ ไม่เกิน 3-4 วันความจริงจะปรากฏ ขอเวลาเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ"
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ หรือไม่ เพราะมีการร้องเรียนกันหลายเรื่อง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร พบได้ทุกคน ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ดำเนินคดีสุดซอยทุกคดี ส่วนการเรียกเก็บค่าคุ้มครองจะมีหรือไม่ ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย
ในช่วงบ่าย ที่ตลาดใหม่ดอนเมือง พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษาตลาดใหม่ดอนเมือง เปิดแถลงข่าวอีกครั้ง โดยกล่าวว่าขอย้อนไปถึงเมื่อเกิดเหตุรัฐประหารปี 57 คสช.ได้เรียกตนเข้าไปพบ บอกให้ตนอยู่เฉยๆ ขอให้พี่ๆ ทำงานให้แก่บ้านเมือง ตนก็ยอมหยุด แต่มันมีเหตุเรื่องตัวเลขผลประโยชน์หลายล้านที่พี่ๆ ทำแล้วตนไปเห็นพอดี เป็นจำนวนเงินที่ไม่สามารถเข้าบัญชีธนาคารอย่างถูกกฎหมายได้ ระหว่างนั้นมีโทรศัพท์จากเพื่อนๆ ของตนที่รับราชการเป็นนายพลให้ตนอยู่เฉยๆ ตนเพียงแต่รับทราบ แต่ไม่รับปาก โดยทหารที่เข้ามาพูดคุยก็เป็นคนในรัฐบาลนั่นเอง อยู่ในศูนย์กลางอำนาจ ซึ่งตนก็ติดนิสัยตำรวจได้บันทึกการโทร.เข้าโทร.ออกหมด
พ.ต.ท.สันธนะกล่าวว่า เรื่องผลประโยชน์นี้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนเงินสูง ทุกคนเข้าใจว่าเป็นเพราะตน ทั้งๆ ที่ตนก็นิ่งเฉยแล้ว แต่เรื่องนี้มันเข้าสู่ระบบกระบวนการทางกฎหมายแล้ว ทำให้พี่ๆ ได้รับความเสียหาย ไม่พอใจตนเป็นอย่างมาก จึงมีความแค้นและมุ่งมาหาตน ทั้งนี้ตนต้องกราบขอโทษเฮียเส็ง หรือนายสุชาติ โชว์วิวัฒยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมืองด้วย ที่ความหวังดีของตนกลายเป็นประสงค์ร้าย ทำให้เกิดความเสียหายต่อตลาด "เขาเลือกค้นตลาดเพราะมีประเด็นเกาะกระแสได้ พี่ๆ เขาก็ต้องการให้ผมเข้าไปกราบขอขมา แต่ผมเป็นคนกระด้างก็ไม่ได้เดินทางไป" พ.ต.ท.สันธนะกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่ พ.ต.ท.สันธนะจะแถลงข่าว ได้โทรศัพท์ถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เพื่อพูดคุยเจรจาในบางเรื่อง ซึ่ง ผบ.ตร.ที่ติดภารกิจอยู่ต่างจังหวัดโทรศัพท์กลับมาบอกเพียงว่าจะติดต่อกลับมาภายหลัง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |