17 ธ.ค.63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ว่า ในการประชุม ศบค. วันนี้มีหลายมาตรการที่ต้องเตรียมไว้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะมีความเป็นห่วงและกังวล ซึ่งได้สอบถามและนำข้อมูลของทุกหน่วยงานที่ทำงานร่วมกันมาพิจารณาดู โดยทุกอย่างยังคงเป็นไปด้วยดี ซึ่งตนได้กำชับให้มีความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ซึ่งขณะนี้ทหาร ตำรวจ ก็มีมาตรการเข้มในการตรวจเฝ้าระวังทุกช่องทาง โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ต้องมีมาตรการให้เข้มงวดมากขึ้น ที่จะทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัย เพราะช่วงปีใหม่ถือเป็นช่วงที่ทุกคนมีความสุข ตนก็ไม่อยากให้หลังปีใหม่ทุกคนเกิดความทุกข์จากการติดเชื้อโควิด ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกัน หากเราทุกคนช่วยกัน ด้วยการสวมหน้ากาก กินร้อนช้อนกลาง ล้างมือ สถานประกอบการต่างๆ รวมถึงผู้จัดงานก็ต้องมีการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ ขอให้ร่วมมือกัน ไม่เช่นนั้นถึงเวลาเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เขาปิดงาน ก็ต้องถือเป็นหน้าที่ของเขา 

“ผมได้กำชับไปแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความปลอดภัย และเมื่อโควิดมาปุ๊บ เราก็พร้อมที่จะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เพราะถ้าเกิดซูเปอร์สเปรดเดอร์ รอบที่ 2 แล้วใครจะรับผิดชอบ สำหรับผมรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่คนเดียวคงไม่ไหว ทุกคนต้องช่วยกัน และสื่อก็ต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ด้วย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ผมอยากเห็นภาพทุกคนมีความสุข แต่เวลาลงพื้นที่ก็ยังเห็นบางคนไม่ใส่หน้ากาก ก็ต้องฝากให้ประชาชนทั่วไปคอยเตือนด้วย แต่ขอให้พูดเตือนกันดีๆ อย่าไปทะเลาะเบาะแว้งกัน บ้านเมืองจะได้สงบไปด้วย”

นายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราต้องทำหลายอย่าง ทั้งความปลอดภัยในประเทศของเรา ประชาชนของเรา และต่างประเทศที่จะเข้ามาในประเทศเราด้วย เพื่อธุรกิจต่างๆ เราทำทุกอย่างอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยการปฏิบัติจะเน้นไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะหน้างานต้องมีความเข้าใจร่วมกัน 

“ทุกคนต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ด้วยว่า รัฐบาลทำอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด อย่าให้ใครมาบิดเบือนว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ปัญหาอะไรที่เกิดเราก็แก้ มีโกงตรงไหนก็จับตรงนั้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง ก็จับหมด ซึ่งตอนนี้ก็มีการดำเนินคดีกับผู้ที่โกงโครงการเหล่านี้ไปแล้ว 200 กว่าราย ซึ่งการแก้ปัญหาทุจริตไม่ใช่รัฐทำฝ่ายเดียว ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันด้วย ทั้งผู้ให้ ผู้รับ ผู้อำนวยความสะดวก สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการสมยอมกัน ต้องช่วยกันให้ข่าว ให้ข้อมูล จะได้จับกุมถูกต้อง

สำหรับสถิติที่มีการร้องมาจำนวนมาก กำลังให้ดำเนินการตรวจสอบว่า จริงๆ แล้วมีเท่าไหร่ และบางทีเป็นลักษณะฟ้องกันไปมา คนได้ประโยชน์บ้าง คนเสียประโยชน์บ้าง จึงอาจทำให้ดูเยอะ ก็ต้องไปดูอีกที เรื่องแบบนี้มันปฏิเสธไม่ได้ ก็ต้องมีคนชั่ว คนไม่ดี ยังมีอยู่ ผมก็เห็นอยู่ในสื่อทุกวัน ยังมีอยู่ มันหาช่องทางกันจนได้ อะไรก็จะโกง ตั้งหน้าตั้งตาจะโกงกัน ซึ่งก็คงเป็นกรรมที่ไม่ดีของเขาเอง ผมไม่อยากไปพูดจาไม่ดีใส่คนพวกนี้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว