ถ้า “ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง” คนอย่าง “เนวิน ชิดชอบ” อดีตแกนนำพรรคภูมิใจไทย “เล่นใหญ่” ในการ “รับขวัญ” เสมอ
ตั้งแต่ “ทักษิณ ชินวัตร” สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี “เนวิน” หนึ่งในรัฐมนตรีคนสนิทตอนนั้น จัด “พลายบัว” ช้างวัยหนุ่มมาให้ผู้เป็น “นาย” ขี่ เหยียบเข้าเมืองอย่างอลังการงานสร้าง ขณะที่ตัวเองคาดผ้าขาวม้า เดินขนาบอยู่ข้างล่างเพื่อกำกับช้าง
ถัดมาหลังพลิกขั้ว “ภูมิใจไทย” หันไปซบพรรคประชาธิปัตย์ ตามแผนดัน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี “เนวิน” เป็นคนหิ้ว “อภิสิทธิ์” มาเหยียบบุรีรัมย์ เพื่อแสดงให้เห็นว่า แม้พื้นที่อื่นในอีสานจะไม่ต้อนรับ แต่ที่เมืองปราสาทพนมรุ้ง มาได้ทุกเวลา
มาถึงยุค “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แม้จะประกาศว่า หันหลังให้การเมืองไปนานหลายปี แต่พะยี่ห้อ “เนวิน ชิดชอบ” กลับไม่เคยเปลี่ยนไป
การเปิดประตู “บุรีรัมย์” ต้อนรับคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน อาจไม่มีช้างเชือกใหญ่มาให้ขึ้นขี่เหมือนกับ “ทักษิณ” แต่สิ่งที่ “เนวิน” กับ “บิ๊กตู่” กลับไม่ได้น้อยหน้า
“เนวิน” ลงทุนเปิด “ช้าง อารีน่า” สนามฟุตบอลของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ขึ้นชื่อว่า ยิ่งใหญ่ และทันสมัยระดับต้นๆ ของประเทศ เป็นสถานที่พบปะประชาชน
ภายใต้ความจุ 30,000 คน ของสนามฟุตบอลแห่งนี้ “เนวิน” สามารถระดมประชาชนมานั่งฟัง “บิ๊กตู่” จนไม่เหลือที่ว่างได้ไม่ยากเย็น
ก่อนที่ “บิ๊กตู่” จะถึงสนาม “เนวิน” ใช้เวลาที่มีซักซ้อมกับประชาชนบนอัฒจันทร์ ให้ตะโกน “ลุงตู่สู้ๆ” พร้อมกับรัวกลองเป็นจังหวะ ราวกับเชียร์ทีมรักตอนลงแข่งขันฟุตบอล
ในสภาพอากาศจะร้อนระอุเกิน 35 องศา ผนวกกับแดดที่ร้อนเปรี้ยงเกินกว่าร่มจะเอาอยู่ “เนวิน” ใช้กลยุทธ์ปลุกใจไม่ให้หน่ายหนีก่อน “ลุงตู่” มา ว่า “ร้อนเท่านี้ไม่ทำให้ใครตาย”
พร้อมกับพูดเรื่องงบประมาณและผลประโยชน์ที่ประชาชนชาวบุรีรัมย์จะได้รับจากการเยือนของ “บิ๊กตู่” คราวนี้ เป็นการ “คั่นเวลา” รอผู้นำ
ขณะที่ข้างกาย “เนวิน” ปรากฏ “ซ้อต่าย” กรุณา ชิดชอบ ภรรยาสุดที่รัก ที่สลัดคราบผู้นำชียร์ฟุตบอล มาเป็น “ผู้นำเชียร์นายกฯ” เฉพาะกิจ
พลัน “บิ๊กตู่” เหยียบผืนหญ้า “ช้าง อารีน่า” สิ่งที่ซักซ้อมกันไว้กระฮึ่มขึ้น เหมือนฟุตบอลแมตช์ใหญ่กำลังทำการแข่งขัน ข้างหลังผู้นำทหาร มี “เนวิน” เดินยกมือปลุกเร้าชาวบ้านด้านบนอัฒจันทร์ เพื่อหวังเร่งปริมาณเสียงให้มากขึ้นเท่าที่จะทำได้
ตลอดระยะทางก่อนถึง “ฟลอร์” ที่จะไปปราศรัย สีหน้าแววตาของ “บิ๊กตู่” และรัฐมนตรี ต่างอื้ออึงกับการต้อนรับที่ไม่เคยพบเจอมาตลอดการลงพื้นที่ ถึงขนาด “บิ๊กตู่” เอ่ยปากกับประชาชนในสนาม “ผมไม่เคยพูดเวทีที่มีคนฟังมากขนาดนี้มาก่อนเลย”
แม้ “บิ๊กตู่” จะปฏิเสธว่า ไม่ได้มาทำการเมือง หรือ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะบอกเรื่องการเป็นอะไหล่ คสช. แต่จะสังเกตเห็น “การทอดไมตรี” ของแต่ละฝั่งอยู่เนืองๆ เป็นระยะ
โดยเฉพาะตอน “บิ๊กตู่” แนะนำรัฐมนตรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ข้าราชการ ที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทุกพื้นที่ก่อนปราศรัย แต่ครั้งนี้ยังได้แนะนำเลยไปถึง “เสี่ยหนู-ซ้อต่าย-เนวิน” ที่นั่งอยู่ริมสุดด้วย ประหนึ่งว่าเป็น “คณะทำงาน”
เล่นเอา “เสี่ยหนู” ยังทำหน้างง ไม่คิดว่า “บิ๊กตู่” จะให้เกียรติเช่นนั้น
ขณะเดียวกัน ตลอดระยะเวลาของการพูดจาพาทีกับประชาชนราว 1 ชั่วโมงของนายกฯ “เนวิน” ไม่ได้ลุกไปไหน สิ่งที่เขาทำคือ พยายามโทรศัพท์เช็กกับทีมงานในสนาม เพื่อปรับปรุง ปรับแก้จุดต่างๆ ให้สมบูรณ์แบบที่สุด
หรือแม้แต่ตอนสุดท้ายที่ “บิ๊กตู่” ละไมโครโฟน เขารีบเดินประกบข้าง เพื่อคอยปลุกเร้าเสียงเชียร์ในสนามให้ดังก้อง จนกระทั่ง “บิ๊กตู่” พ้นชายคาช้าง อารีน่า ไปแล้วถึงจะเงียบเสียง
แม้การเยือนครั้งนี้อาจไม่มีความชัดเจนใน “คำพูด” ว่า คสช. และ “หนู-เน” จะเป็นคีย์แมนสำคัญสำหรับเทอม 2 ของ “บิ๊กตู่” หรือไม่
แต่การต้อนรับระดับ “งานช้าง” ที่ “เนวิน” เล่นใหญ่ มันสะท้อนให้เห็นว่า “ภูมิใจไทย” ยังเป็น “กัลยาณมิตร” ที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ของ คสช.
และที่สำคัญ “เนวิน” เป็นคนที่ทำให้ “บิ๊กตู่” ฮึกเหิมอย่างมากเมื่อกลับจากบุรีรัมย์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |