ฝ่ายค้านแสดงท่าทีชัดเจนไว้แล้วว่า ปีหน้า 2564 เปิดฉากเดือนมกราคมมา การเมืองร้อนตั้งแต่ต้นปี เพราะจะมีการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถึงขั้นแกนนำฝ่ายค้านโหมโรงแต่หัววัน งานนี้จัดหนักจัดเต็ม
โดยหัวหอกหลักปีกฝ่ายค้านก็ยังคงเป็น "พรรคเพื่อไทย" ในวันที่ภาพที่สังคมการเมืองมองว่าเพื่อไทยยังไม่สามารถโชว์บทบาทดันโดดเด่นในฐานะฝ่ายค้านได้ ยิ่งเวลานี้ก็ถูกมองว่าอยู่ในสภาพแพแตก หลังแกนนำพรรคนำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และแกนนำอีกส่วนหนึ่งลาออกจากเพื่อไทยเพื่อไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ แต่แกนนำพรรคก็พยายามบอกกับสังคมว่าเพื่อไทยยังอยู่ในสภาพดีอยู่ อย่างการจัดเลี้ยงปีใหม่พรรคเพื่อไทยเมื่อเย็นวันอังคารที่ 15 ธ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย แกนนำ-ส.ส.ก็ยังมาร่วมงานกันอย่างแฮปปี้
"ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย" ที่เข้ามาเป็นแม่บ้านพรรค เคียงข้างกายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคมาได้สักพักหนึ่งแล้ว ทีมข่าวพูดคุยกับเลขาธิการพรรคเพื่อไทยถึงเรื่องการเตรียมทำศึกซักฟอกรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ต้นปีหน้า ทว่าทาง "ประเสริฐ" ไม่ได้แพลมข้อมูลอะไรออกมามาก บอกแค่กว้างๆ ว่า ฝ่ายค้านอยู่ระหว่างการเตรียมการเรื่องข้อมูลที่จะยื่นอภิปราย ซึ่งก็จะมีหลายประเด็น เช่น ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากเรื่องเศรษฐกิจ-การชะลอตัวด้านการลงทุนในประเทศ
ส่วนเรื่องประเด็น "ม็อบสามนิ้ว" ตัว "เลขาธิการพรรคเพื่อไทย" ตอบชัดๆ ว่า เป็นหนึ่งในประเด็นที่จะซักฟอกรัฐบาลชัวร์ๆ ในมุมว่า รัฐบาลมีความพยายามใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุเพื่อควบคุมการชุมนุมในช่วงก่อนหน้านี้
"ส่วนเรื่องข้อมูลปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันเป็นความลับของเรา ที่ตอนนี้อยู่ในขั้นเตรียมข้อมูลซึ่งก็มีในระดับหนึ่ง" เลขาธิการพรรคเพื่อไทยเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก และไม่ขยายความอะไรมาก แม้จะมีการถามย้ำหลายรอบ
นอกจากนี้ "เลขาธิการพรรคเพื่อไทย” วิเคราะห์การเมืองไทย 2564 ปีฉลู ว่าประเด็นใหญ่คงไม่พ้น "การแก้ไขรัฐธรรมนูญ" ที่จะมีการกลับมาพิจารณาอีกครั้งในที่ประชุมรัฐสภาช่วงต้นปีหน้า เพราะเรื่องนี้จะเกี่ยวโยงถึงรัฐบาลด้วย โดยเฉพาะหากรัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ไข รธน. เพราะอย่างที่คนออกมาประท้วงนายกฯ ก็เพราะผลจาก รธน.ฉบับปัจจุบันด้วย ซึ่งหากพลเอกประยุทธ์เข้ามาโดยกระบวนการปกติ ก็คงไม่มีใครมาเดินขบวนไล่แบบก่อนหน้านี้ แต่เมื่อมาโดยมี ส.ว. 250 คนช่วยสนับสนุน คนก็มองว่าไม่ชอบธรรมจนเดินขบวนอย่างที่ได้เห็น ทำให้ดูแล้วสถานการณ์ข้างหน้าเกรงว่าอาจเกิด "วิกฤติรัฐธรรมนูญ" ก็ได้ ถ้ารัฐบาลไม่จริงใจกับการแก้ไข รธน. และกระบวนการร่าง รธน.ฉบับใหม่ จนกลายเป็นความขัดแย้งใหญ่ โดยเฉพาะหากรัฐบาลทำเรื่องนี้โดยไม่ตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
"ประเมินว่าไทม์ไลน์รัฐบาลตั้งใจให้กฎหมายประชามติมีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อให้ออกมารองรับการทำประชามติเรื่อง รธน.ในช่วงเดือนมีนาคม 2564 คือจะให้ตรงกับวันเดียวกันกับที่จะมีการเลือกตั้ง อบต.ทั่วประเทศ เว้นแต่หากไม่ทันจริงๆ เพราะหากดูกรอบเวลาตามร่างแก้ไข รธน.ของพรรคร่วมรัฐบาล จะใช้เวลาค่อนข้างนานหลายเดือน ไม่แน่กว่าจะมีการทำประชามติร่าง รธน.ก็ไปอยู่ช่วงเดือน ก.ค.ปีหน้า โดยขั้นตอนทั้งหมดกว่าจะเสร็จ รธน.ประกาศใช้ และร่างกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้อง รวมเวลาทั้งหมดก็อาจกินเวลาไปถึงช่วงที่เกือบเข้าสู่ปีที่สามกว่าๆ ของอายุสภาชุดนี้ แต่หากรัฐบาลลากยาว พวกที่เคยเป็นม็อบคงไม่ยอม อย่างน้อยรัฐบาลต้องประกาศออกมาให้ชัดเจนถึงไทม์ไลน์ต่างๆ ว่าแต่ละกระบวนการจะใช้เวลานานแค่ไหน จากนั้นพอทุกอย่างเสร็จสิ้นก็ยุบสภาจัดเลือกตั้งทันที โดยนายกฯ ก็ประกาศออกมาเลยว่าจะไม่กลับมาเป็นนายกฯ อีก เพราะถือว่าเป็นหัวหน้ารัฐบาลระหว่างการร่าง รธน. จึงมีส่วนได้ส่วนเสีย แบบนี้พลเอกประยุทธ์ก็ลงสวยเลย"
เมื่อคุยกันในเรื่อง "เพื่อไทยพรรคร้าว-แพแตก" หลังแกนนำพรรค-สมาชิกพรรคบางส่วนทยอยลาออก และมีข่าวอาจจะมีลาออกอีกหลายคน ประเด็นนี้ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยพูดกว้างๆ แค่เพียงว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่พรรคการเมืองต้องมีการเปลี่ยนแปลงในยุคของการเปลี่ยนแปลง ยิ่งเมื่อพรรคเพื่อไทยมีการปรับโครงสร้างใหม่หมดในพรรค การเปลี่ยนแปลงภายในพรรคจึงเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่มีการมองกันว่าในพรรคมีรอยร้าวเกิดขึ้น มันก็เป็นเรื่องของความคิดเห็นที่แตกต่างกันของคนที่ต่างก็อยู่ด้วยกันในพรรค แต่ไม่ได้เป็นความขัดแย้งอะไร เพราะวันนี้เพื่อไทยมีฟังก์ชันการบริหารงานที่เป็นระบบ อย่างกรณีการลาออกของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ไม่ได้ระบุเหตุผลในการลาออก ส่วนคนที่ลาออกด้วยก็อาจมีความผูกพันกับคุณหญิงสุดารัตน์ เพราะเคยทำงานร่วมกันมา ซึ่งทั้งหมดที่ออกไปไม่ได้ระบุเหตุผลในการลาออก พรรคก็เลยไม่ทราบเหตุผลว่าออกเพราะเหตุใด
ถามถึงว่า เพื่อไทยจะมีเลือดไหลออกอีกหรือไม่ "ประเสริฐ" ออกตัวว่า เป็นเรื่องธรรมดาของพรรคการเมือง คนเข้าคนออก ทุกพรรคเหมือนกันหมด แต่เมื่อมีคนออก พรรคก็ต้องปรับรูปแบบการทำงานบ้าง แต่ไม่ต้องมาก เพราะเพื่อไทยทำงานในรูปแบบของกรรมการบริหารพรรคเป็นตัวขับเคลื่อนพรรคอยู่แล้ว ผมอยู่กับพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ต้น (ไทยรักไทย) ผมรู้วัฒนธรรมพรรคนี้ดี...
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |