คุ้นสังเวียน-เสียงรัฐบาลล้น สาเหตุ ‘บิ๊กตู่’ ไม่ช็อกซักฟอก


เพิ่มเพื่อน    

      เริ่มมีการโหมโรงเรื่องศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว หลังฝ่ายค้านขยับเตรียมข้อมูลเพื่อจะใช้ซักฟอก

            กลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นการกลไกที่เหลือตอนนี้ในการเขี่ย พล.อ.ประยุทธ์ ให้หลุดจากอำนาจ หลังความหวังที่จะเห็น พล.อ.ประยุทธ์ หลุดออกจากเก้าอี้ในคดีบ้านพักรับรองของกองทัพบกไม่เป็นผล หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ถูกต้องตามระเบียบกองทัพบก

            ขณะที่ ขบวนการขับเคลื่อนนอกรัฐสภาอย่างการเคลื่อนไหวของคณะราษฎร 2563 เองก็อยู่ในช่วงพักรบ รอกลับมาคิกออฟอีกครั้งในช่วงหลังปีใหม่ จากที่เริ่มออกอาการล้าเพราะกรำศึกมาหลายเดือน กอปรกับความขัดแย้งกันเองของบรรดาแกนนำ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่นำโดย นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี กับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่นำโดย ‘เพนกวิน’ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์

            ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มเยาวชนปลดแอก กับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ร้าวลึกมาสักระยะเรื่องแนวคิด กระทั่งล่าสุดเกิดความเห็นต่างเรื่องแนวทางการต่อสู้ สืบเนื่องจากกรณีที่เพจเยาวชนปลดแอกเริ่มหันไปเคลื่อนไหวเรื่องคอมมิวนิสต์ ขัดต่อหลักของคณะราษฎร 2563 ที่ออกมาเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย

            กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมมองว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนปลดแอกเป็นการทำให้มวลชนสับสน และทำให้สูญเสียแนวทาง ดังนั้นกลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจจึงเป็นช่องทางที่พอจะหาทางสร้างกระแสกดดันรัฐบาลได้

            สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากดูไทม์ไลน์แล้วน่าจะเกิดขึ้นหลังการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 2 เสร็จสิ้น จะอยู่ราวๆ เดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ออกมาเขย่าขวัญเพื่อชิมลางไปแล้วเมื่อวันก่อนว่า หาก ‘บิ๊กตู่’ ได้ฟังอาจจะถึงขั้นช็อก

            ด้าน ‘บิ๊กตู่’ เองก็ไม่ได้รู้สึกยี่หระอะไร รีบประกาศทันทีว่า ไม่ช็อก เพราะไม่ได้เป็นคนขวัญอ่อน ก่อนที่นายสุทินจะแก้เกี้ยวในทำนองว่า เพราะ ‘บิ๊กตู่’ เป็นคนไม่มีความรู้สึก

            อย่างไรก็ดี การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ได้รับความสนใจเท่าใดนัก อาจเป็นเพราะระยะเวลาที่เหลืออีกเป็นเดือนๆ รวมไปถึงความผิดหวังจากศึกซักฟอกหนแรกที่มีการโหมโรงกันดุดัน แต่พอถึงเวลาอภิปรายกลับสร้างความผิดหวังให้กับกองแช่งรัฐบาล เพราะฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคเพื่อไทยไม่สามารถใช้ข้อมูลกดดันได้อย่างที่โฆษณาเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาความขัดแย้งเรื่องการจัดสรรระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลอีกด้วย

            ขณะที่ ‘บิ๊กตู่’ เองที่ไม่ได้รู้สึกช็อกอะไร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเคยผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้วหนึ่งครั้ง หากเป็นมวยก็เริ่มที่จะคุ้นเคยกับเวที ต่างจากรอบแรก เนื่องจากไม่เคยผ่านกลไกที่ต้องถูกตรวจสอบกลางสภา

            นอกจากนี้ ปัจจุบันสถานการณ์ทั้งในและนอกสภาไม่ได้เร่าร้อนเหมือนช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา แรงบีบและแรงกดดันทางการเมืองไม่มากนัก

            และเหนือสิ่งอื่นใด เสียงระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรห่างกันค่อนข้างมาก ไม่ได้ปริ่มน้ำเหมือนเมื่อครั้งจัดตั้งรัฐบาล หากไม่ถูกชำแหละชนิดดิ้นไม่หลุด อย่างไร ส.ส.ซีกรัฐบาลก็ยกมือให้ความไว้วางใจแบบสบายๆ

            เช็กเสียงฝั่งรัฐบาลในปัจจุบัน พบว่า มี 277 เสียง พรรคพลังประชารัฐ มี 122 เสียง พรรคภูมิใจไทย 61 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ 52 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 12 เสียง พรรครวมพลังประชาชาติไทย 5 เสียง พรรคพลังท้องถิ่นไท 5 เสียง พรรคชาติพัฒนา 4 เสียง พรรครักษ์ผืนป่า 2 เสียง พรรคพลังชาติไทย 1 เสียง

            พรรคประชาภิวัฒน์ 1 เสียง พรรคพลังไทยรักไทย 1 เสียง พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 เสียง พรรคพลเมืองไทย 1 เสียง พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง พรรคพลังธรรมใหม่ 1 เสียง พรรคไทรักธรรม 1 เสียง พรรคประชานิยม 1 เสียง พรรคประชาธรรมไทย 1 เสียง และพรรคเศรษฐกิจใหม่ 5 เสียง (ไม่นับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์) ทั้งนี้ไม่นับพรรคไทยศรีวิไลย์ที่มี 1 เสียง ของนายมงคลกิตติ์ สินสุขธรานนท์ ที่ประกาศแยกตัวออกจากรัฐบาล

            ด้านฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยมี 134 เสียง พรรคก้าวไกล 54 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 10 เสียง พรรคประชาชาติ 7 เสียง พรรคเพื่อชาติ 5 เสียง พรรคพลังปวงชนไทย 1 เสียง และ 1 เสียงของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่ รวม 212 เสียง

            อย่างไรก็ตาม กรณีของฝ่ายค้านแม้จะมี 212 เสียง แต่ในช่วงที่ผ่านมามีถึง 3 เสียงที่มักยกมือให้กับฝ่ายรัฐบาลประจำ คือ พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย นางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย และนายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ 

                ระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้านมีเสียงห่างกันกว่า 50 เสียง ดังนั้นไม่แปลกที่ ‘บิ๊กตู่’ จะไม่ช็อกอะไรกับคำขู่.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"