16 ธ.ค.2563 - นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์ในประเทศไทยประจำวันที่ 16 ธ.ค.มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 ราย พบในสถานกักกันตัวของรัฐทั้งหมด ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,261 ราย หายป่วยสะสม 3,977 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 224 ราย และเสียชีวิตสะสม 60 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 ราย รายที่ 1-2 มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นชายไทย อายุ 29 ปี และ 43 ปี รายที่ 3 มาจากฮ่องกง เป็นหญิงไทย อายุ 27 ปี รายที่ 4 มาจากฮังการี เป็นชายไทย อายุ 32 ปี รายที่ 5 มาจากฝรั่งเศส เป็นหญิงชาวฝรั่งเศส อายุ 48 ปี รายที่ 6-7 มาจากสหราชอาณาจักร เป็นชายไทย อายุ 28 ปี รายดังกล่าวมีอาการเจ็บคอ และเป็นชายไทยอายุ 20 ปี รายที่ 8-9 มาจากอินเดีย เป็นชายชาวอินเดีย อายุ 31 ปี และชายไทย อายุ 42 ปี รายที่ 10 มาจากบาห์เรน เป็นหญิงไทย อายุ 40 ปี รายที่ 11 มาจากสหรัฐอเมริกา เป็นหญิงไทย อายุ 52 ปี รายที่ 12-14 เป็นหญิงไทย อายุ 24 ปี 33 ปี และ 34 ปี และรายที่ 15 มาจากบราซิล เป็นชายชาวบราซิล อายุ 32 ปี ส่วนสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 73,803,320 ราย และเสียชีวิต 1,641,440 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ที่เดินทางมาจากท่าขี้เหล็ก เมียนมาให้ความร่วมมือดี โดยเข้ามาอยู่ในสถานกักกันตัวของรัฐที่ จ.เชียงราย จำนวน 248 ราย ทั้งนี้ สำหรับ จ.เชียงราย หากพ้นวันที่ 16 ธ.ค.ซึ่งครบ 14 วันหลังจากการพบผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด แล้วไม่พบการติดเชื้อเพิ่มเติมถือว่าปลอดภัย ส่วน จ.พะเยา พิจิตร และ จ.ราชบุรี หากพ้นวันที่ 16 ธ.ค. ซึ่งครบ 14 วันหลังจากการพบผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด แล้วไม่มีการติดเชื้อเพิ่มเติมถือว่าน่าจะปลอดภัยเช่นกัน ส่วน จ.สิงห์บุรี หากพ้นวันที่ 18 ธ.ค. ซึ่งครบ 14 วันหลังจากการพบผู้ติดเชื้อภายในจังหวัดแล้วไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมถือว่าปลอดภัย ขณะที่ กทม. หากพ้นวันที่ 20 ธ.ค. ซึ่งครบ 14 วันหลังจากพบผู้ติดเชื้อภายในจังหวัดแล้วไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมถือว่าปลอดภัย และ จ.เชียงใหม่ หากพ้นวันที่ 19 ธ.ค. ซึ่งครบ 14 วันหลังจากพบผู้ติดเชื้อภายในจังหวัดแล้วไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมถือว่าปลอดภัย ดังนั้น ถ้าภายในวันที่ 20 ธ.ค. กลุ่มก้อนนี้ไม่มีการติดเชื้อเพิ่มในจังหวัดต่างๆ เราก็จะเข้าสู่ช่วงที่จะประกาศได้ว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยครบทุกจังหวัด
โฆษก ศบค.กล่าวว่า ได้รับชุดข้อมูล โดยสิ่งที่ทางกรมควบคุมโรคมีความห่วงใยคือ เรื่องสถานกักกันตัวทางเลือก ซึ่งกรณีพบพยาบาลติดเชื้อจากการดูแลผู้ป่วยในสถานกักตัวทางเลือก ปรากฏว่าจากการไปสวอปมาเชื้อไปอยู่ที่ลูกบิดประตู ดังนั้น ลูกบิดถือว่าสำคัญเพราะมีการสัมผัสกันมาก จึงอยากให้ผู้ดูแลสถานประกอบการดูแลเรื่องลูกบิดประตูด้วย
ด้าน นพ.วิชาญ ปาวัน นายแพทย์เชี่ยวชาญ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ภาพรวมผู้ที่ติดเชื้อจะมีประวัติเดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักกันตัวของรัฐ ยังไม่มีรายงานการติดเชื้อในประเทศเพิ่มเติม และยังไม่มีจังหวัดใดพบกลุ่มก้อนการระบาด สำหรับความคืบหน้ากรณีผู้ติดเชื้อที่มีประวัติเดินทางมาจากท่าขี้เหล็ก พบเพิ่มเติม 3 ราย อยู่ในสถานกักกันตัวของรัฐ ทำให้ผู้ติดเชื้อที่มาจากท่าขี้เหล็กสะสม 67 ราย ซึ่งใน 67 ราย มีเพียง 2 รายเท่านั้นที่ติดเชื้อภายในประเทศ ส่วน 48 รายตรวจพบที่สถานกักกันตัวของรัฐ ขณะที่ในภาพรวม 7 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ กำลังจะครบกำหนด 14 วันที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งกรณีของท่าขี้เหล็กปลอดภัยแล้ว ส่วนผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นพ.วิชาญ กล่าวว่า สำหรับความกังวลในส่วนของ จ.เชียงราย ผู้ที่มีความเสี่ยงคือมาจากต่างประเทศทั้งหมดจะถูกนำเข้าสถานกักกันตัวของรัฐ ขณะนี้มีทั้งสิ้น 248 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 35 ราย รักษาหายแล้ว 20 ราย นอกจากนี้ จ.เชียงรายยังได้ค้นหาเพิ่มเติม ไปทั้งสิ้น 26,000 กว่ารายโดยไม่พบเชื้อ มั่นใจได้ว่า จ.เชียงรายปลอดภัย และขอให้ จ.เชียงราย เชียงใหม่ และจังหวัดอื่นๆ ที่มีรายงานผู้ป่วยเกี่ยวข้องกับกรณีท่าขี้เหล็กสบายใจได้ เพราะปลอดภัยแล้ว ไปเที่ยวและเดินทางได้ แต่ขอให้เคร่งครัดด้านมาตรการป้องกัน
“เน้นย้ำว่าผู้ที่เดินทางกลับมาจาก จ.เชียงราย เชียงใหม่ และจังหวัดอื่นๆ ทุกคนไม่ได้มีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น จึงไม่มีความจำเป็นต้องกักตัว สามารถไปเรียน ทำงานได้ตามปกติ และช่วงนี้ทราบว่ามีบางโรงเรียน บางสถานที่ทำงาน สั่งกักตัวนักเรียน ครู และพนักงาน ที่กลับมาจาก จ.เชียงราย เชียงใหม่ ถือเป็นมาตรการที่เกินความจำเป็น การไปกักตัวผู้ที่เดินทางกลับจากจังหวัดดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการเรียนและจิตใจ กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้มีคำแนะนำให้กักตัวผู้ที่เดินทางกลับมาจากเชียงรายและเชียงใหม่ จึงขอให้โรงเรียนและสถานที่ทำงานได้ทบทวนมาตรการดังกล่าวด้วย”
นพ.วิชาญ กล่าวอีกว่า ส่วนความก้าวหน้าของบุคลากรทางแพทย์ที่ติดเชื้อในสถานกักกันตัวทางเลือกใน กทม ยังไม่พบรายผู้ป่วยเพิ่มเติม ยอดผู้ป่วยสะสมยังอยู่ที่ 7 รายเท่าเดิม ข้อสรุปจากการสอบสอนโรค พบว่า ติดเชื้อจากสถานกักกันตัวทางเลือกไม่ได้ติดจากโรงพยาบาล ข้อสันนิษฐานคือ มีบุคลากรไปติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ป่วยที่อยู่ในสถานกักกันตัวทางเลือก จากนั้นนำไปแพร่กระจายในกลุ่มเพื่อนในนอกเวลางาน ไม่ได้มีการแพร่ไปบุคลกรทางการแพทย์อื่น ยืนยันว่าการระบาดในกลุ่มก้อนนี้อยู่ในวงจำกัด สามารถควบคุมได้ ผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูงได้ถูกกักตัวแล้ว และใกล้จะครบ14 วัน แล้ว อย่างไรก็ตาม บทเรียนการพบเชื้อในบุคลากรในครั้งนี้ ทางกรมสนับสนรุนบริการสุขภาพจะมีการตรวจสุขมาตรฐานการบริหารจัดการของสถานกักกักตัวทางเลือกอย่างเคร่งครัด โรงพยาบาลเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับสถานกักกันตัวทางเลือกจะต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบด้านความปอลดภัยบุคลากรทุกแห่ง ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าทุกพื้นในไทยปลอดภัย สามารถไปเที่ยวคริสมาสต์ ปีใหม่ และทำกิจกรรมได้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |