ไทยติดเชื้อเพิ่ม 9 ราย กลับจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกัน นายกฯ ขอ ปชช.ร่วมรับผิดชอบสังคมสกัดโควิด เข้มเคาต์ดาวน์ปีใหม่จัดโซนจำกัดจำนวนคน ชม "พัทยาเฟสติวัล" เว้นระยะห่างดีให้ใช้เป็นโมเดลจัดคอนเสิร์ต จับตาถก ศบค.พฤหัสฯ นี้ฟื้นมาตรการคุมเข้ม สภ.แม่สาย-ตม.เรียกแก๊งท่าขี้เหล็กดำเนินคดี 3 ข้อหา
    ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่าประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 9 ราย ทั้งหมดเป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ หายป่วยเพิ่มขึ้น 9 ราย ทำให้ผู้ป่วยยืนยันสะสมรวม 4,246 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 2,463 ราย มาจากต่างประเทศ 1,783 ราย รักษาหายสะสม 3,949 ราย กำลังรักษาในโรงพยาบาล 237 ราย และเสียชีวิตรวม 60 ราย
    ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ เดินทางมาจากสวิตเซอร์แลนด์และสหรัฐอเมริกา ประเทศละ 2 ราย เอธิโอเปีย สหราชอาณาจักร โรมาเนีย เนเธอร์แลนด์ และกาตาร์ ประเทศละ 1 ราย เข้ารับการกักกันในสถานกักกันที่รัฐกำหนด (ASQ) 8 ราย และสถานกักกันในสถานพยาบาลทางเลือก (AHQ) 1 ราย ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการทุกราย ในจำนวนนี้เคยมีประวัติติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน จำนวน 3 ราย
      นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จังหวัดที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากกว่า 10 วันแล้ว ได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา กทม. พิจิตร ราชบุรี และสิงห์บุรี ถือว่ามีความปลอดภัยและใช้ชีวิตได้ตามปกติ เดินทางไปท่องเที่ยวได้ กลับมาไม่ต้องกักตัว ส่วน จ.เชียงราย ล่าสุดพบผู้ติดเชื้ออีก 3 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันอีกครั้ง ทั้ง 3 รายอยู่ในระบบกักกันของรัฐ
        อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวถึงกรณีการปิดสถานที่จัดงานเทศกาลดนตรีบิ๊กเมาน์เทนที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดงานดนตรีอื่นๆ จึงสามารถจัดได้ว่า การจัดกิจกรรม ขอย้ำว่าทำได้ ตัวอย่างดีๆ ก็มี เราสนับสนุนให้ทำด้วย แต่กรณีถูกผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาสั่งปิดนั้น ก็เห็นว่าคนแออัดเยอะมาก สแกนไทยชนะวันนั้นวันเดียวก็ 3 หมื่นคน แล้วเมื่อนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ลงไปกับตรวจสอบ ขอให้แก้ไขก็บอกว่าแก้ไม่ได้ จะเห็นว่าครบถ้วนคือ 1.แก้ปัญหาไม่ได้ 2.คนแออัดอย่างนี้ความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคเป็นไปได้อย่างสูง
         “นึกภาพว่าหากมีการกระจายไป ซึ่งคนร่วมงานมาจากทั่วประเทศ แล้วกลับไปทั่วประเทศ ผมคิดว่าอันนี้ยิ่งกว่าสนามมวยลุมพินีสัก 10 เท่า แล้วสนามมวยลุมพินีคนก็หลักพันถึงต้นๆ หมื่น ส่วนอันนี้คนร่วมงาน 4-5 หมื่น คิดดูว่าจะกระจายกันขนาดไหน หากไม่ป้องกันไว้ก่อน ถ้าเกิดเหตุขึ้นมา ผมคิดว่าป้องกันไม่ทันแน่นอน” นพ.โอภาสระบุ
         ส่วนข้อกังวลเรื่องการจัดงานคอนเสิร์ต งานรื่นเริง จะสามารถทำได้หรือไม่อย่างไร อธิบดีกรมควบคุมโรคยืนยันว่า ตอนนี้ประเทศไทยไม่มีพื้นที่ไหนเป็นพื้นที่ระบาดโควิด-19 แม้แต่พื้นที่เดียว ดังนั้นช่วงเทศกาลปีใหม่ยังสามารถจัดกิจกรรม คอนเสิร์ตได้ตามปกติ แต่ต้องขออนุญาตให้ถูกต้องจากฝ่ายปกครอง ในเรื่องของการใช้เสียง ใช้ลำโพง รวมถึงมีแผนการควบคุมป้องกันโรคที่กำหนดไว้ควบคู่กันไป
เข้มเคาต์ดาวน์ปีใหม่
    ทั้งนี้ ยกตัวอย่างงานที่สามารถจัดได้และทำได้ดีคืองานพัทยามิวสิกเฟสติวัล จ.ชลบุรี วันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา ดังนั้นย้ำว่าการจัดงานเคาต์ดาวน์และเทศกาลอื่นๆ สามารถทำได้ แต่ควรจัดเวทีแสดง จัดการให้คนร่วมงานอยู่เป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณไม่เกิน 10 คน มีแถวห่างกันประมาณ 2 ตารางเมตรต่อ 1 คน ระยะห่างระหว่างแถว 3 เมตร จะเกิดความปลอดภัยและเป็นระเบียบเรียบร้อย และเวลาเกิดปัญหาเกิดขึ้นเราจะได้ดูแลเป็นกลุ่มๆ ได้ง่าย ยกตัวอย่างงานที่สิงห์ปาร์ค ซึ่งพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไปจุดนั้น เมื่อมีการแบ่งกลุ่มทำให้การควบคุมโรค การตรวจทางห้องปฏิบัติการ และการกักตัวคนน้อยลง ไม่ต้องกักทั้งงาน นี่คือตัวอย่างสำหรับประชาชนหรือผู้ที่จะจัดงานต่างๆ
    ที่สถานีกลางบางซื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า วันนี้เข้มงวดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเกิดที่ไหนก็ตาม แม้แต่ชายแดนเราก็ติดตามได้ ตรวจสอบนำมารักษา ฉะนั้นไม่อยากให้ตื่นตระหนกกันมากนะ สิ่งสำคัญที่สุดคือการรวมคนในพื้นที่แคบๆ ไม่มีระยะห่าง ไม่ใส่หน้ากาก สิ่งเหล่านี้อันตราย โดยเฉพาะการรวมคนจำนวนมากในพื้นที่จัดการละเล่นจัดการแสดงต่างๆ หากไม่ใส่หน้ากาก เป็นอันตรายที่สุด โอกาสแพร่เชื้อติดเชื้อมีมาก ตรงนี้ไม่ได้ขู่ใคร แต่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ดังนั้นการจัดแสดงอะไรก็ตามที่มีคนหลายๆ จังหวัด ไปรวมกันเที่ยวตรงนั้น ถ้าไม่ควบคุมให้เข้มงวด จะเกิดปัญหาถ้าเกิดโรคระบาดจากตรงนั้นแพร่ขึ้นมา ผู้ที่เข้าไปชมกี่จังหวัดที่ไป และต้องกลับจังหวัดของตัวเอง ที่เป็นภูมิลำเนาจะนำการแพร่ระบาดกลับมาขยายต่อได้ นั่นแหละจะไปถึงที่เรียกว่าซูเปอร์สเปรดเดอร์ แต่วันนี้ยังไปไม่ถึงตรงนั้น และไม่อยากให้ถึงตรงนั้น ไม่อยากให้ทุกอย่างกลับไปล็อกดาวน์เหมือนเดิม ฉะนั้นอยู่ที่ความร่วมมือระหว่างกัน ถ้าพูดให้ร้ายกันไปมาก็มีปัญหา
    นายกฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่อยากจะเน้นช่วงต่อจากนี้ไป ช่วงต่อไปนี้กำลังจะเดินหน้าเข้าสู่ปีใหม่ของเรา ปีแห่งความสุข เราไม่อยากให้กลับไปสู่ความทุกข์แบบเดิม คือล็อกดาวน์ ฉะนั้นเราต้องช่วยกันรักษาระยะห่าง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ใส่หน้ากาก ต้องเตือนกัน หลายคนกลัว แต่บางคนไม่กลัว เพราะเห็นว่าไม่ติดเลยไม่กลัว แต่มันเกิดขึ้นได้ทุกโอกาสต้องระวังอย่างที่สุด งานปีใหม่กำลังให้พิจารณาอยู่ว่าจะจัดกันอย่างไร จัดในพื้นที่ที่เป็นฟอรัมหรือเป็นโซนได้หรือไม่ ให้คนจำนวนน้อยมาในพื้นที่ ไม่ใช่เข้ามาแออัดกัน 30,000 คนในพื้นที่เดียวกัน ตอนนี้กำลังให้วางแผนทั้งกรุงเทพมหานครและท้องถิ่น
    "จึงอยากกราบเรียนให้ผู้ที่จัดงานได้รับทราบ ว่าจะแบ่งพื้นที่เป็นหลายโซนด้วยกัน จะต้องมีมาตรการที่รัดกุมในการตรวจคนเข้า-ออก รวมถึงปริมาณคนที่เข้าไปได้ จะต้องมีการติดตามได้ทางโทรศัพท์ หากเกิดตรงไหนจะได้ตามตัวถูกและแก้ปัญหาได้ ช่วงที่ผ่านมาทำดีแล้ว ต้องขอบคุณประชาชนโดยทั่วไป และส่วนราชการถ้าไม่ร่วมมือกันมาตั้งแต่ต้นวันนี้ไม่เป็นอย่างนี้ มันจะหนักกว่านี้ นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลต้องเข้มงวด จำเป็นต้องมีพระราชกำหนดออกมาเพื่ออะไรเข้าใจหรือยัง ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เลย แต่เป็นเรื่องสุขภาพของพวกท่านทั้งสิ้น ฉะนั้นขอให้แยกแยะให้ออก" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
    ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งเคยบอกไปแล้วมี 3 รั้วด้วยกัน รั้วแรกคือแนวชายแดนทหารขึงพืดกันอยู่ ทั้งทางบกทางน้ำ และใช้โดรน ส่วนแนวที่ 2 พื้นที่ชั้นในตอนใน จังหวัดต่างๆ ได้มีมาตรการคัดกรองของพื้นที่ ตามหลักสาธารณสุข และแนวที่ 3 คือท้องถิ่น ชุมชน ซึ่งตัวท่านเองรู้ดีจะต้องรับผิดชอบสังคมด้วย สังคมถึงจะปลอดภัย โดยคาดหวังว่าในปีหน้า หากวัคซีนสำเร็จจริงและไม่มีซูเปอร์สเปรดเดอร์ ไทยน่าจะเป็นประเทศที่ฟื้นตัวได้เร็วกว่าเพื่อน
ตั้ง 3 ข้อหาแก๊งท่าขี้เหล็ก
    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากช่อง เจ้าของพื้นที่ดำเนินคดีกับผู้จัดคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เทนที่ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาให้ยุติการแสดงว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้รายงานให้ที่ประชุม ครม.รับทราบว่าจะดำเนินการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งมีโทษหนักกว่าพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ซึ่งกรณีนี้ต้องใช้เป็นบทเรียน ปัญหาเวลานี้คือ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ระมัดระวัง แต่เป็นเรื่องที่ห้ามแล้วยังไม่หยุด ซึ่งเราเป็นห่วงช่วงเวลาต่อจากนี้ไปคือเคาต์ดาวน์ปีใหม่
    อย่างไรก็ตาม วันที่ 17 ธ.ค. จะมีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. จะได้พูดเรื่องนี้กันอีก เพราะเริ่มมีบทเรียนอะไรมา ซึ่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้มีการประกาศอยู่แล้วจนถึงวันที่ 15 ม.ค.64 แต่มาตรการที่ได้กำหนดเอาไว้ตอนนี้เบาลง พอเกิดเหตุขึ้นมา เช่น ที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย และเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา อาจจะฟื้นมาตรการอะไรบางอย่าง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ได้เอ่ยปากชื่นชมการจัดงานเทศกาลดนตรีพัทยา ที่จัดในช่วงเวลาเดียวกับงานที่เขาใหญ่ ว่ามีการจัดเก้าอี้เว้นระยะห่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ดังนั้นหลังจากนี้ถ้าจะมีการจัดคอนเสิร์ต อยากให้ใช้โมเดลดังกล่าว
    ที่ จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.แม่สาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย ให้เรียกตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายมาตามช่องทางธรรมชาติมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ซึ่งล่าสุดผู้ป่วยที่อยู่เชียงใหม่ได้รับการรักษาจนหายปกติ และแพทย์ให้กลับบ้าน 3 ราย โดยพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหารอแล้ว 3 ข้อหา คือ 1.เป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ได้เดินทางเข้ามาตามช่องทาง ด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่า สถานี หรือท้องที่ ตาม มาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 (โทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท) 2.ฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกมาตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) และ 3.ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการจังหวัด (จังหวัดเชียงราย) ตามมาตรา 35 (1) แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 (จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
    พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้หลบหนีข้ามแดนโดนผิดกฎหมายในส่วนของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาตัวหายแล้วในส่วนของ จ.เชียงราย และจังหวัดอื่นๆ ด้วย ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย รวมแล้วกว่า 10 ราย.