15 ธ.ค.63 - ที่สถานีกลางบางซื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่เยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ พร้อมรับฟังแผนการพัฒนาที่ดินบริเวณรอบสถานีกลางบางซื่อ และทดลองเดินขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดง ระหว่างสถานีกลางบางซื่อ - สถานีรังสิต โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชมโครงการฯ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยินดีที่ได้นำคณะรัฐมนตรีเยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ รวมถึงทดลองรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่จะช่วยลดการแออัดบนท้องถนน เพิ่มความสะดวกและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งกทม. ปริมณฑล และจังหวัดอื่นๆ โดยมีกทม.เป็นศูนย์กลาง รัฐบาลคิดทำอะไรก็ตามเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดตามที่ได้วางยุทธศาสตร์ชาติไว้ในด้านคมนาคม ทั้งถนน น้ำ อากาศ ที่สำคัญรัฐบาลส่งเสริมการเดินทางในระบบรางให้เป็นการเดินทางหลักของประเทศ ทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งในอนุภูมิภาคและภูมิภาค และเพื่อพัฒนาต่อไปในอนาคต และในระยะยาวต่อไปอาจจะขยายไปถึงยุโรปตะวันออก และนอกจากพัฒนาเส้นทางแล้ว ก็ต้องพัฒนารายได้ของประชาชนให้สามารถใช้บริการได้ ก็ต้องไปดูว่าจะทำอย่างไร
จากนั้นนายศักดิ์สยาม ได้มอบนาฬิกาหมายเลข 9 เป็นที่ระลึกให้นายกฯ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นาฬิกาทุกเรือนต้องเดินไปข้างหน้า เหมือนกับรัฐบาลที่ดำเนินนโยบายให้ประเทศเดินไปข้างหน้า
ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ ภายในสถานี ประกอบด้วย อาคารทั้งหมด 3 ชั้น คือ ชั้นที่ 1 เป็นพื้นที่จำหน่ายตั๋วโดยสารและจุดเชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบรางในกรุงเทพฯ ชั้นที่ 2 เป็นชั้นชานชาลา ประกอบด้วย รถไฟทางไกล 8 ชานชาลา และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง 4 ชานชาลา และชั้นที่ 3 เป็นชั้นชานชาลาสำหรับรถไฟเชื่อมท่าอากาศยาน และชานชาลารถไฟความเร็วสูง โดยแบ่งเป็นชานชาลาสำหรับรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน 2 ชานชาลา รถไฟฟ้าความเร็วสูงสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 6 ชานชาลา รถไฟฟ้าความเร็วสูงสายใต้ จำนวน 4 ชานชาลา รวมทั้งสิ้น 12 ชานชาลา นอกจากนี้ ยังมีชั้นใต้ดิน ซึ่งเป็นพื้นที่จอดรถ ที่สามารถจอดรถยนต์ได้ถึง 1,624 คัน มีถนนทางเข้าออกสถานีได้หลายทิศทาง เชื่อมต่อกับทางด่วนพิเศษ มีพื้นที่รองรับรถโดยสารประจำทาง และรถแท็กซี่ และยังมีพื้นที่สวนสาธารณะพร้อมบึงน้ำขนาดใหญ่
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ทดลองเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดง จากสถานีกลางบางซื่อ ไปยังสถานีรังสิต เพื่อดูความคืบหน้าของงานก่อสร้าง ซึ่งรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อถึงดอนเมืองเป็นทางรถไฟยกระดับใช้ความเร็วในการเดินทาง 120 กม./ชม. และช่วงดอนเมืองถึงรังสิต ซึ่งเป็นทางรถไฟระดับผิวดิน มีรั้วกันสองข้างทางและสร้างถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ สามารถใช้ความเร็วในการเดินทางได้ 140 กม./ชม. หลังทดสอบแล้วเสร็จจะสามารถให้บริการแก่ประชาชนในจังหวัดปทุมธานี
ต่อมาเมื่อมาถึงสถานีรังสิต นายกรัฐมนตรีและคณะ ยังร่วมรับฟังแผนต่อขยายสายสีแดง ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ในโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ต้อนรับ สำหรับแผนดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2565 โดยมีสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้นำเสนอแนวทางการเชื่อมต่อสถานีรถไฟรังสิตกับโครงข่ายต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน
อีกทั้งการรถไฟฯ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการเคหะแห่งชาติ ร่วมกันกำหนดแนวทางการพัฒนาโครงการอาคารเช่าสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เป็นอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้นจำนวน 2 อาคาร จำนวน 360 ห้อง โดยอยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในมิถุนายน 2564 เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อเริ่มก่อสร้าง และให้ประชาชนเข้าพักอาศัยใน ตุลาคม 2566 อันเป็นการบูรณการระบบรางควบคู่กับการพัฒนาเมืองตามแนวนโยบายของรัฐบาลต่อไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |