15 ธ.ค.63 - ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ เอ้ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โพสต์เฟซบุ๊กวิเคราะห์ปัญหาฝุ่นพิษพร้อมเสนอแนวทางแก้ปัญหาว่า ระดับฝุ่นพิษ PM 2.5 ในกทม. ทะลุสู่อันดับโลก เคียงคู่ประเทศโลกที่สาม ทั้งปากีสถาน และบังคลาเทศ เรามาถึงจุดนี้ได้ไง? และเราจะต้องทำอะไร เดี๋ยวนี้? แน่ชัด การแพทย์ยืนยัน ฝุ่นพิษ PM 2.5 อันตรายสุดๆ โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก ทำให้เป็นภูมิแพ้เรื้อรัง ทั้งส่งผลกระทบต่อสมอง และการพัฒนา การเจริญเติบโต ทำร้ายทุนมนุษย์ไทย ทำลายอนาคตไทย! ผู้สูงอายุ ก็สาหัส สูดฝุ่นพิษไป เจอทั้งโรคปอด โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ ป่วย ตาย ใครรับผิดชอบ? ทำไม เรามาถึงจุดตาย จุดนี้?
ทุกคนรู้ชัด จุดกำเนิดฝุ่นพิษ PM 2.5 ในกทม. 70-80% มาจากรถยนต์ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล ที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ปล่อยควันดำ ปล่อยฝุ่นพิษ มาตลอดเวลา ทุกวินาที ทั้งรถบรรทุก รถเมล์สาธารณะ ที่เข้ามาในกรุงเทพ นับแสน นับล้านเที่ยวต่อวัน และเครื่องจักรกลก่อสร้าง ที่ใช้ในทุกพื้นที่ทั่วกรุง หรือแมัแต่รถไฟดีเซล รถเหล่านี้ยิ่งเครื่องใหญ่ แรงม้าเยอะ ยิ่งร้ายกาจ ปล่อยพิษสู่พลเมือง แม้แต่รถยนต์เก่าๆ ที่ขาดการดูแลรักษา ขาดการปรับปรุงเครื่องยนต์ ก็ร้ายเช่นกัน
เมื่อเราปล่อยรถพวกนี้ ปล่อยฝุ่นพิษ สะสมไปทุกวันๆ เพราะไม่มีวันไหนเลย ที่เราไม่เห็น ไม่ได้ขับรถตามรถปล่อยควันดำ แค้นใจไหม เราจึงมาถึงจุดนี้ แล้วจะไปโทษลม โทษดินฟ้า คงไม่ใช่ ก็เพราะฝุ่นพิษ มันปล่อยมาทำร้ายคนกรุงเทพตลอดเวลา ไม่เคยถูกหยุดยั้ง?
ผมแม้มีหน้าที่ทั้ง นายกสภาวิศวกร อธิการบดี เป็นวิศวกร เป็นนักวิชาการ นักวิจัย แต่ที่สำคัญที่สุด ขอแสดงในฐานะพลเมืองกรุงเทพ ในฐานะลูกที่มีพ่อแม่สูงอายุ ที่ต้องเดินทางไปรพ. แทบทุกวัน และในฐานะพ่อ ที่มีลูกเล็ก ต้องไปเรียนหนังสือ ต้องสูดพิษ ทำร้ายลูกๆทุกวัน! พี่เอ้จึงอยากเห็น การเปลี่ยนแปลงทุกปัญหา ต้องแก้ที่เหตุ จะมาปลายทาง คงไม่ทางแก้ได้จริงๆ ดังนั้น ต้องจัดการกับรถเจ้าปัญหาก่อนเลย
1. เมื่อรู้ว่า ฝุ่นพิษมาจากรถยนต์จำพวกไหน ก็ต้องจัดการกับรถจำพวกนั้นก่อน เช่น รถบรรทุกปล่อยควันดำ ควันพิษ ต้องไม่ปล่อยเข้ากรุงเทพเด็ดขาด ให้รู้กันไป คุณจะมาทำร้ายลูกเรา พ่อแม่เรา ไม่ได้
2. รถเมล์ รถร่วม รถสองแถว จะอ้างการบริการ อ้างส่งคน มาเป็นตัวประกัน แล้วมาปล่อยพิษร้าย มันไม่แฟร์ เจ้าของรถ ต้องรับผิดชอบ หากคุณยังจะวิ่งรถ คุณต้องเจอค่าปรับหนัก! คุณก็เข็ด รีบปรับปรุง เพราะเครื่องยนต์มันถูกปรับปรุงให้ดีกว่าเดิมได้
3. หน่วยงานรัฐ ที่มีรถราชการ ใช้กันอยู่จำนวนมหาศาลนับหมื่น นับแสนคันในกรุงเทพ มักเป็นรถเก่าๆ จะต้องถูกกำหนดให้ดูแล ตรวจสภาพรถของทุกหน่วย ไม่ปล่อยฝุ่นพิษ
4. อาจเป็นจังหวะที่ รถราชการ ได้ประเดิมใช้รถไฟฟ้า ก่อนประชาชน เพราะรัฐสนับสนุน ซื้อเอง ใช้เอง เกิด Economy of Scale หรือ จำนวนที่มากพอ ทำให้ราคารถถูกลง จูงใจประชาชน หันมากล้าใช้รถไฟฟ้า
5. มาตราการทางภาษี รัฐต้องกัดฟัน บังคับใช้ เพื่อดูแลลูกหลานไทย ใครอยากใช้รถเก่า ไร้มาตราฐาน จะบังคับไปให้ซื้อรถใหม่ แบบประเทศที่พัฒนาแล้ว คงลำบาก แต่อย่างน้อยต้องรับผิดชอบ จ่ายภาษีปรับ เอาเงินมารักษาคนป่วยจากฝุ่นพิษ แฟร์ไหม
นอกจากนั้น โครงการก่อสร้าง ทั้งของรัฐ และเอกชน ตัวดีเลย อย่าอ้างว่า ฝุ่นจากการก่อสร้าง เป็นฝุ่น PM 10 ใหญ่กว่า แต่มันก็อันตรายสุดๆ เช่นกัน คนกรุงเทพเดินผ่านพื้นที่ก่อสร้าง ไม่เคยเห็น จะปิด จะคลุม ปล่อยฝุ่นคลุ้ง ไม่แคร์? ยิ่งไปกว่านั้น โครงการก่อสร้าง ต้องอาศัยรถบรรทุก ขนปูน ขนเหล็ก อุปกรณ์ก่อสร้าง โครงการใหญ่ๆ ใช้เวลา 3-5 ปี ไม่อยากคิด มีรถฝุ่นพิษ เข้ามากี่หมื่นเที่ยว!
หากตำรวจ เจ้าพนักงาน ผู้มีอำนาจ ปล่อยรถพิษ เข้ามาถึงพื้นที่ ก็แย่แล้ว ทั้งสำนักงานเขตเจ้าของพื้นที่ ก็ยังมีอำนาจทางกฏหมายสิ่งแวดล้อม และกฏหมายความปลอดภัย ยังจัดการดอกสองกับเจ้าของโครงการได้เลย #จะทำก็ทำได้ คำถาม เราคนเดินถนน ทำไมยังไม่กลัว? ตอบ ธรรมดา คนไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา!
พี่เอ้ แนะนำ ทุกสี่แยกรถติด ที่มีป้ายโฆษณาเต็มไปหมด ไม่ว่ากัน แต่ขอสักนิด ช่วยแสดงปริมาณ ฝุ่นพิษ PM 2.5 และ PM 10 ถือเป็นการ CSR ตอบแทนสังคม ให้ชาวบ้านได้รู้ เมื่อรู้ก็กลัว ก็ได้ป้องกัน ใส่หน้ากาก ย้ำ เพราะฝุ่นพิษ อยู่ที่นี่ อยู่กับเราทุกวัน โดยเฉพาะบริเวณป้ายรถเมล์ ทางแยกรถติด และยังจะได้สะท้อน ไปยังเจ้าของพื้นที่ แบบนี้ไม่มีใครกล้านิ่งเฉย เพราะความจริง มันฟ้อง #จะทำก็ทำไดั ยังมีเรื่องเทคโนโลยี และนวัตกรรม ป้องกันฝุ่นพิษ อีกมากมาย ทั้งที่พระจอมเกล้าลาดกระบัง ก็สร้างป้ายรถเมล์ที่มีระบบเตือน และระบบพัดลม เป่าลดความเข้มข้นฝุ่นพิษ และสวทช. ก็มีเครื่องวัดฝุ่นขนาดเล็กติดตามตัว แม้เป็นปลายเหตุ แต่ดีกว่าไม่มีอะไรช่วยคนกรุงเทพเลย
พี่เอ้ เล่ายาว เพราะมันช้ำใจ ไม่ใช่เพราะปัญหาฝุ่นพิษมันแก้ไม่ได้ แต่เพราะมันแก้ได้ เมืองอื่นก็แก้ไขกันได้มาแล้ว ขึ้นอยู่กับ #จะทำก็ทำได้ หรือไม่ทำ ก็เท่านั้นเอง?
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |