15 ธ.ค.63-นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า  เรื่องการกำกับและตรวจสอบรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องที่เราทำกันมานานแล้ว ระหว่างนี้หากใครพบประเด็นอะไรก็ให้เก็บไว้แล้วหาข้อมูล โดยเวลานี้มาสรุปกันรอบหนึ่งแล้วว่ามีหลายเรื่องที่เข้าเกณฑ์สามารถนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ และระหว่างนี้ให้แต่ละพรรคไปหาข้อมูลเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ที่สุด เชื่อว่าหลังปีใหม่น่าจะได้ข้อสรุป โดยอาจจะยื่นญัตติได้ประมาณเดือนม.ค.64  เนื่องจากสมัยประชุมสภานี้จะสิ้นสุดลงในเดือนก.พ.64

เมื่อถามว่าจากการรวบรวมข้อมูลของฝ่ายค้านมีอะไรเป็นหมัดเด็ดและทำให้การอภิปรายมีน้ำหนักมากขึ้น นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ โดยรู้แต่ว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจยังเป็นปัญหาใหญ่ เพราะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลล้มเหลว หากความล้มเหลวเกิดจากเหตุสุดวิสัยนั้นไม่เป็นไร แต่ปรากฎว่าความล้มเหลวเกิดจากการไม่รู้เรื่องและการวิเคราะห์ที่ผิดพลาด และเกิดการทุจริตซ้ำ เป็นเรื่องไม่น่าให้อภัย เพราะทั้งหมดเกิดจากความผิดพลาดของรัฐบาล รวมทั้งยังมีอีกหลายเรื่องที่ได้สร้างความเสียหายในวงกว้างและเป็นการวางพื้นฐานให้เกิดทางตันในระยะยาว เช่นเดียวกับ การแก้ไขปัญหาการชุมนุมทางการเมืองที่เรามีข้อมูลลึกๆว่ามีบางเรื่องที่รัฐบาลไม่ควรทำเพราะไม่ชอบด้วยกฎหมายและยังผิดหลักมนุษยธรรม

ถามอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยืนยันว่าไม่กลัวการอภิปรายแม้ฝ่ายค้านจะมีข้อมูลที่ทำให้ช็อกได้ ประธานวิปฝ่ายค้านบอกว่า  "คิดว่านายกฯเป็นมาขนาดนี้แล้ว ไม่รู้สึกอะไรแล้ว เป็นคนไร้ความรู้สึกของประชาชน ไม่ร้อนไม่หนาวแล้ว ดังนั้น จึงไม่แปลกที่นายกฯจะไม่กลัว"

ถามย้ำว่า ข้อมูลที่จะทำให้รัฐบาลช็อคนั้นฝ่ายค้านมีแน่นอนใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า "ถ้าเป็นคนอื่นคงช็อค แต่ถ้าเป็นนายกฯก็ไม่รู้ เราไม่ได้บอกว่าหนานะ แต่บอกว่าแกมีความรู้สึกเหมือนกับคนตายด้านแล้วสำหรับความเดือดร้อนของประชาชน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่จะอภิปรายนั้นจะเน้นคนในครม. ถ้าเปิดออกมาแล้วนายกฯบอกว่าไม่รู้ คนจะไม่เชื่อ เพราะไปทุจริตในที่ที่ไม่ควรทุจริต

ซักว่า การอภิปรายครั้งนี้จะเกิดเหตุการณ์ที่ฝ่ายค้านมาหักเหลี่ยมกันเองเหมือนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาหรือไม่ ประธานวิปฝ่ายค้าน ตอบว่า ไม่มีแน่นอน เพราะที่ผ่านมาประสบการณ์ในการเป็นฝ่ายค้านยังน้อย และพรรคร่วมฝ่ายค้านต่างเป็นส.ส.มือใหม่หัดขับเท่านั้น ดังนั้น เราอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง คือ ความไม่เจนจัด แต่มาวันนี้เราเชื่อว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคมีประสบการณ์และเล่นเข้าขากันแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งจะมีการติวเข้มกันเป็นปกติ และตรวจสอบข้อมูลกันให้ครบถ้วนต่อไป