ชักจะออกแขก ออกโรง ถี่ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...สำหรับ นายใหญ่ ในช่วงหลังๆ นี้ จะด้วยสาเหตุ ต้นเหตุ เหตุปัจจัยในแบบไหน อย่างไร ก็ยากที่จะสรุปได้แน่ชัด อีกทั้งจะเกี่ยวพันไปถึงปฏิบัติการ กราบงามๆ หรือไม่ เพียงใด ก็ยังมิอาจแปลความ ตีความ ออกมาได้อย่างกระจ่างแจ้ง แดงแจ๋ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...โอกาสที่จะกลับมายิ่งใหญ่ เกรียงไกร ในแบบเดิมๆ นั้น น่าจะยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ...

                                ---------------------------------------------------------

                คือเท่าที่ฟังจากน้ำเสียง หางเสียง ของบรรดาผู้ที่เดินตามเจ๊ หรือเดินตามหลังคุณหญิง สุดาหน่อย ออกมาจากพรรค เผาไทย อย่างเป็นระบบและกิจการ ไม่ว่าจะเป็นคุณพี่ ไก่-วัฒนา หรือ อาจารย์โภคิน การแยกค่าย แยกวง ในคราวนี้ คงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความพยายาม แตกแบงก์พันให้เป็นแบงก์ร้อย อยู่แล้วแน่ๆ แต่เป็นการแยกขาด ทิ้งขาด โดยยังมีสิทธิ์หันไปต่อกันในภายหลังหรือไม่ อย่างไร คงต้องไปว่ากันอีกที หรือคงต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอนาคตข้างหน้า ที่สามารถพลิกผันไปเป็นแบบไหนก็ย่อมได้...

                                    -------------------------------------------------

                แต่ไม่ว่าจะพลิกกันในรูปไหน แบบไหน โอกาสที่จะพลิกกันไปถึงขั้น สามารถส่งผลให้ นายใหญ่ และ น้องสาว หวนกลับมาปักหลัก บงการ อะไรต่อมิอะไรภายในประเทศไทย ได้แบบ สุดซอย หรือสุดลิ่ม ทิ่มกระดานนั้น น่าจะ เป็ง-ปาย-ม่าย-ล่าย อยู่แล้วแน่ๆ คือคงต้องอาศัย นอมินี รายโน้น รายนี้ ต่อไปอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ และด้วยการบัญชาการ การควบคุม บงการ ในลักษณะที่ว่า โอกาสที่จะขยับซ้าย-ขยับขวา ให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่ตัวเองปรารถนาและต้องการ มันจึงมีแต่ต้องอาศัยผู้ที่ไว้เนื้อ เชื่อใจ แบบชนิดร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือพันเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป และนั่นเองที่ทำให้พรรค เผาไทย จึงต้องกลายสภาพไปเป็น ระบบครอบครัว หรือเป็นกิจการในครัวเรือน อย่างมิอาจปฏิเสธ...

                                      -------------------------------------------------

                ดังนั้น...ใครก็ตาม ที่ยังคิดปักหลัก ปักฐาน อยู่ในพรรค เผาไทย ย่อมหนีไม่พ้นต้องยอมศิโรราบ ให้กับเจ๊โน่น เจ๊นี่ หรือให้กับ นายใหญ่ และ นายหญิง ไปตามสภาพ แต่ในเมื่อ นายใหญ่ รวมไปถึง น้องสาว ดันกลายเป็นวิญญาณพเนจร เป็นสัมภเวสีอย่างชนิดต่อเนื่อง ยาวนาน มองไม่เห็นหนทางที่จะไปผุด ไปเกิด กัน ณ ที่ไหน และในลักษณะไหน อีกทั้งตัวของ เจ๊ ที่เป็นคนละเจ๊กับ เจ๊สุดาหน่อย หรือเจ๊รายเดียวกันกับที่คุณน้อง จตุพร ตุ๊ดตู่ ท่านกำลังบดขยี้ ใส่ครกเอาสากตำ อยู่ ณ สนามเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่นั่นแหละ ก็ออกจะเป็น เจ๊ ที่ค่อนข้าง เบบี้ทางการเมือง เอามากๆ โอกาสที่จะนำเอาความยิ่งใหญ่ เกรียงไกร หวนกลับคืนมาสู่พรรค เผาไทย ในแบบเดิมๆ นั้น จึงแทบมองไม่เห็นหนทางเอาเลยก็ว่าได้...

                                     ----------------------------------------------------

                ด้วยเหตุนี้...โอกาสที่พรรคการเมืองซึ่งได้รับเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ อย่างพรรค เผาไทย อาจต้องออกอาการ เลือดไหลไม่หยุด นับจากนี้ต่อไป จึงมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ เพราะแม้แต่บรรดาผู้ที่ยังไม่มีทางออก ทางไป หรือไม่ได้คิดจะเดินตาม เจ๊สุดาหน่อย มาตั้งพรรคอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ก็น่าจะพอมองเห็นถึงอนาคตของพรรค และของตัวกูเอง ว่าน่าจะมีแต่ต้อง เหี่ยวปลาย ลงไปเรื่อยๆ ยิ่งถ้าหากถูกควบคุมและบงการ ให้ต้องมาเดินตามหลังเด็กๆ หรือหันมา เลียตูดเด็ก อย่างเป็นระบบและเป็นกิจการ ก็น่าจะยิ่งลำบาก...กับ...ลำบาก ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...

                                  -------------------------------------------------------

                ยิ่งถ้าหากท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านเกิดยืนระยะได้อย่างต่อเนื่อง ยาวนาน ไปจนระดับใกล้จะ ครบเทอม อะไรทำนองนั้น โอกาสที่พรรคการเมืองอันดับหนึ่ง อย่างพรรค เผาไทย จะกลายสภาพเป็นพรรคการเมืองระดับ เอสเอ็มอี หรือกลายเป็นพรรคต่ำสิบก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย บรรดานักการเมืองที่ประกอบไปด้วยคุณลักษณะแห่งความมีเกล็ด มีเขี้ยว มีหาง ทั้งหลาย ย่อมหนีไม่พ้นต้องเร่งแปรสภาพตัวเอง ให้กลายเป็นหมัด หรือเป็นเห็บ ต้องพร้อมที่จะกระโดดจากสุนัขที่ตายแล้ว หรือกำลังจะตาย ไปสู่สุนัขตัวอื่น อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ หรือถ้าหากยังคิดจะอยู่ ก็คงหนีไม่พ้นต้องเพิ่มราคาค่าตัว ชนิดสูงเอามากๆ...

                                 ------------------------------------------------------

                และดูเหมือนว่า สัญญาณเตือนภัย ในลักษณะที่ว่า...น่าจะแสดงให้เห็นอย่างเป็นที่ชัดเจน จากสนามเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ ในคราวนี้นี่แหละ คือถ้าหากกระทั่ง นายใหญ่มาเอง แต่ยังดันแพ้ขาด ทิ้งขาด หลุดร่วงถล่มทลายอย่างไม่เป็นท่า หรืออย่างไม่มีราคา รับรองได้ว่า...ไม่ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยารายใด ก็คง ห้ามเลือด ในพรรค เผาไทย ไม่อยู่ โอกาสที่จะเลือดไหล เลือดนอง ออกมาเป็นลิ่มๆ เกิดอาการโลหิตจางกันไปทั่วทั้งพรรค ย่อมมีความเป็นไปได้มิใช่น้อย และอาจด้วยเหตุนี้นี่เองที่เลยทำให้ นายใหญ่ ท่านจำเป็นต้องออกแขก หรือออกโรง แบบถี่ขึ้นๆ จนแทบไม่ต่างอะไรไปจากหัวหน้าพรรคตัวจริง เสียงจริงยิ่งเข้าไปทุกที...

                                    ---------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก P.J. O’Rourke... “Politicians are interest in people. Not that this always a virtue. Fleas are interest in dogs. - การที่นักการเมืองสนใจประชาชน ใช่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณธรรมเสมอไป เพราะหมัดยังให้ความสนใจต่อหมาเลย...”

                                  -----------------------------------------------------