กทม.ขึ้นอันดับ 4 ของโลกเมืองฝุ่นพิษ พบเกินค่ามาตรฐาน 59 พื้นที่ พีเอ็ม 2.5 สูงสุด 100 ไมโครกรัมที่ริมถนนดินแดง เตือนงดกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากาก ปลัด สธ.สั่งเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง ศกพ.ชี้สาเหตุลมสงบ ทำให้ฝุ่นควันครอบกรุงเหมือนฝาชี ด้านดาราสาว "คิมเบอร์ลี" โพสต์แพ้อากาศหน้าบวม
ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประจำวันที่ 14 ธันวาคม 2563 คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 36-100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เกินค่ามาตรฐานจำนวน 59 พื้นที่ โดยค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานสูงสุดในระดับวิกฤติสีแดง 1 พื้นที่ คือบริเวณริมถนนดินแดง กรุงเทพฯ 100 มคก./ลบ.ม.
นอกจากนั้นมีพื้นที่ใน กทม.ฝุ่นเกินค่ามาตรฐานในระดับสีส้ม เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ได้แก่ บริเวณแขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี, ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน, แขวงบางนา เขตบางนา, แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา, ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน, ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี, ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง, แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม, เขตคลองสามวา, เขตจอมทอง, เขตบางแค ริมถนนพระราม 2 เขตบางขุนเทียน, ริมถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง, ริมถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง, ริมถนนราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ, ริมถนนพระราม 5 เขตดุสิต, ริมถนนกรุงเกษม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, ริมถนนตรีมิตร วงเวียนโอเดียน เขตสัมพันธวงศ์, ริมถนนพระราม 6 เขตพญาไท, ริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง, ริมถนนพระรามที่ 4 หน้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน, ริมถนนนราธิวาส เขตบางรัก, แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร, ริมถนนพระราม 3 เขตยานนาวา, ริมถนนซอยสุขุมวิท 63 เขตวัฒนา
ริมถนนพัฒนาการ เขตสวนหลวง, ริมถนนบางนา-ตราด เขตบางนา, ริมถนนพหลโยธิน แยก ม.เกษตรศาสตร์ เขตจตุจักร, เขตดอนเมือง, ริมถนนสุขาภิบาล 5 เขตสายไหม, ริมถนนนวมินทร์ แยกบางกะปิ เขตบางกะปิ, แยกสวนสยาม-รามอินทรา เขตคันนายาว, ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง, ริมถนนสีหบุรานุกิจ เขตมีนบุรี, ริมถนนเลียบวารี เขตหนองจอก, ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ, ริมถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ เขตธนบุรี, ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน, ริมถนนซอยนิคมบ้านพักรถไฟธนบุรี 5 เขตบางกอกน้อย, ริมถนนพุทธมณฑล 1 เขตตลิ่งชัน, ริมถนนคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา, ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ, ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 8 เขตหนองแขม, ริมถนนเอกชัย เขตบางบอน, ริมถนนประชาอุทิศ เขตทุ่งครุ, ริมถนนสามเสน เขตพระนคร, เขตห้วยขวาง, แขวงคลองเตย เขตคลองเตย, แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ, เขตลาดพร้าว, แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่, ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน, เขตสะพานสูง
ส่วนปริมณฑลที่มีปริมาณฝุ่น พีเอ็ม 2.5 ระดับสีส้มคือ ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ, ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี, ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร, ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
กทม.เมืองฝุ่นอันดับ 4
ทั้งนี้ ในบริเวณพื้นที่สีแดง ขอประชาชนทุกคนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ ส่วนพื้นที่สีส้ม ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ประชาชนกลุ่มเสี่ยงควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ โดยสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com แอปพลิเคชัน Air4ThaiและAirBKK.
ด้าน www.iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองมลพิษโลก รายงานแบบเรียลไทม์วันที่ 14 ธ.ค.63 เวลา 09.15 น. พบว่า กทม.ของไทยอยู่ในลำดับที่ 4 ของโลก คุณภาพอากาศอยู่ที่ 183 US AQI ขณะที่เมืองเชียงใหม่อยู่ในลำดับ 25 ของโลก คุณภาพอากาศอยู่ที่ 88 US AQI
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า 14 ธ.ค. กทม.และปริมณฑล 58 พื้นที่ มีค่าฝุ่นละอองในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ระดับสีส้ม) และมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ระดับสีแดง) แล้ว 1 พื้นที่ บริเวณริมถนนดินแดง เขตดินแดง และพบค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10) เกินมาตรฐานเช่นกันในระดับสีแดงอยู่ที่ 134 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สาเหตุเกิดจากการจราจรหนาแน่น ประกอบกับปัจจัยจากสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น และมวลอากาศเย็นอ่อนตัวลงจนเกิดการปะทะกัน ส่งผลให้อากาศอบอ้าว ขมุกขมัว และลมสงบยิ่งทำให้ฝุ่นละอองไม่กระจายตัวและสะสมในบรรยากาศมากขึ้น คาดว่าประมาณ 1-2 วันจะมีฝนตกลงมาจะช่วยให้สถานการณ์ฝุ่นละอองดีขึ้น
อธิบดี คพ.กล่าวว่า จากการประเมินแบบจำลองช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค.63 พบว่า วันที่15 ธ.ค.มีแนวโน้มฝุ่นละอองขนาดเล็กลดลง โดยรวมคุณภาพอากาศในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลอยู่ในเกณฑ์ดีเช่นเดียวกับวันที่ 16 ธ.ค.
สธ.วาง 7 มาตรการรับมือ
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้มีข้อสั่งการไปก่อนหน้านี้ ขอให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งเตรียมการดูแลผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก 7 ข้อ ดังนี้ 1.เฝ้าระวังแจ้งเตือนสถานการณ์ สื่อสารข้อมูลผลกระทบและการปฏิบัติตนแก่ประชาชน 2.สำรวจและจัดทำทะเบียนกลุ่มเสี่ยงจากฝุ่น PM 2.5 โดยให้ทีมหมอประจำตัว (3 หมอ) ลงพื้นที่ให้ความรู้คำแนะนำการป้องกันตัวและดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ 4 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคหอบหืด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงและเด็กเล็ก ให้โรงพยาบาลเปิดคลินิกมลพิษเพื่อให้คำปรึกษาและรักษา สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นในสถานบริการสาธารณสุข และสนับสนุนให้โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก สถานดูแลผู้สูงอายุ บ้านเรือนประชาชน จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่น
3.เตรียมความพร้อมเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขในทุกระดับ ทั้งจังหวัด เขตสุขภาพ กรม และกระทรวง เพื่อติดตามสถานการณ์และยกระดับการปฏิบัติการหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น 4.เฝ้าระวังการเจ็บป่วยใน 4 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบผิวหนัง และระบบตา โดยรายงานผู้ป่วยที่มารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง หากมีเหตุการณ์ผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเข้ารักษาในห้องฉุกเฉินมากกว่าปกติให้รายงานทันที 5.รายงานสถานการณ์ทุกสัปดาห์ตลอดช่วงเวลาเฝ้าระวัง กรณีสถานการณ์วิกฤติ (สีแดง) ให้รายงานทุกวัน 6.จัดทำหน่วยงานสาธารณสุขต้นแบบองค์กรลดฝุ่นละออง 7.บูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อดูแลสุขภาพประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากที่ได้ประชุม ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ พบว่าในช่วงวันที่ 14-17 ธ.ค. สภาพทางอุตุนิยมวิทยามีข้อจำกัดในเรื่องการหมุนเวียนอากาศ โดยเฉพาะความกดอากาศ ลม การยกตัวของมวลอากาศ ทำให้อากาศในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีความนิ่ง ทำให้มลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิดต่างๆเช่น รถยนต์ รถบรรทุก จะเหมือนกับกรุงเทพฯ มีฝาชีครอบอยู่ จนมีมลพิษทางอากาศในบางจุดที่สูงมาก อนุกรรมการฯ จึงประสานงานแจ้งไปทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ได้แก่ ขอความร่วมมือกรมการขนส่งทางบก กทม. กรมควบคุมมลพิษ ช่วยกันตรวจสอบรถควันดำ โดยเฉพาะรถบรรทุกเล็ก และรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำมันดีเซล นอกจากนี้ยังพบว่าจุดที่มีสภาพ PM 2.5 หรือฝุ่นพิษค่อนข้างสูงหรือสูง ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณการจราจรหน้าแน่น จึงประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กทม. ช่วยพยายามทำให้เกิดการไหลลื่น นอกจากนี้ขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้รถสาธารณะให้มากขึ้น
คิมเบอร์ลีเผยหน้าพัง
วันเดียวกัน นักแสดงสาว “คิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ” ได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมรูปใบหน้าตนเองที่แพ้อากาศพร้อมข้อความว่า “คิดอยู่นานว่าจะเผยรูปให้ดูดีไหม แต่คิดว่าฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ไว้ดีกว่าค่ะ ว่านอกจากโควิด-19 แล้ว ที่เราต้องระวังตัวให้มากๆ ยังต้องระวังเรื่องฝุ่นและ มลพิษของบ้านเราด้วยนะคะ นี่คิมไม่ได้ตาอักเสบนะคะ แต่เกิดจากการแพ้ล้วนๆ เลยค่ะ ตอนนี้ทานยากลุ่มสเตียรอยด์ และแก้แพ้แก้บวมเลยดีขึ้นมาบ้างแล้ว ยังไงก็ฝากให้ทุกคนดูแลสุขภาพตัวเองกันดีๆ นะคะ ใส่แมสก์ตลอด ใส่แว่นได้ก็ใส่นะคะ งดกิจกรรม outdoors ก็ดีนะคะ #คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |