ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ชุดใหม่กว่า 700 ภาพ ทรงบันทึกไว้ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในช่วงปี 2561-2562 ปีนี้ได้จัดภายใต้ชื่อนิทรรศการ"ชีวิตยามอยู่บ้าน : Life@Home" ให้ประชาชนได้มีโอกาสชื่นชมพระอัจฉริยะภาพของกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ หอศิลปวัฒนธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร
การจัดนิทรรศการครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 14 ที่ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ให้สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มาจัดแสดง แม้จะทรงงานหนักเพียงใด ก็ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณไม่เคยขาด ประชาชนรอคอยทุกๆ ปี
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์”ยามอยู่บ้าน:Life @Home”
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดงานนิทรรศการและทรงบรรยายภาพถ่ายฝีพระหัตถ์”ชีวิตยามอยู่บ้าน” โดยมีคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), ฐาปน สิริวัฒนะภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟฯ , ดาว วาสิกศิริ นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยฯ , นิติกร กรัยวิเชียร เลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมการถ่ายภาพและภัณฑารักษ์ของงาน เฝ้าฯ รับเสด็จ
ในนิทรรศการภาพถ่ายประกอบไปด้วยภาพแขวนผนัง 145 ภาพ ภาพขนาดเล็กในห้อง 8 เหลี่ยม จำลองบรรยากาศสวนและเสียงนก จำนวน 546 ภาพ และภาพขนาดใหญ่ (Art wall) จำนวน 10 ภาพ แต่ละภาพนอกจากสวยงามทรงคุณค่าทางศิลปะการถ่ายภาพแล้ว ยังสะท้อนถึงมุมมองจากสายพระเนตรที่ทรงประสบพบเห็นสิ่งต่างๆ ที่ทรงสนพระราชหฤทัยถ่ายทอดบอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่าย อีกทั้งให้ข้อคิดเตือนใจแก่ทุกคนที่ได้ชมภาพ
การนี้ ทรงบรรยายภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ประจำปี 2563 ความว่า หนังสือภาพถ่ายเล่มนี้ตั้งชื่อว่า “ชีวิตยามอยู่บ้าน” ปีนี้มีโอกาสไปต่างประเทศ 2 ครั้ง คือ สิงค์โปรและอินเดีย แต่สิงค์โปรไม่มีภาพในนิทรรศการครั้งนี้ เมื่อกลับเมืองไทยโรคโควิดกำลังแพร่ ไม่ได้ออกนอกบ้านประมาณ 2 เดือน หลังจากเดือนพฤษภาคมแล้ว แพทย์บอกว่า พอให้ออกไปข้างนอกหรือพบผู้คนได้ ส่วนที่วางแผนไปต่างประเทศไว้มากมายเป็นอันว่า จบสิ้นกันไป
ทรงบรรยายว่า ปี 2562 ช่วงปลายเดือนกันยายนถึงเดือนมกราคมได้ไปที่สาธารณรัฐประชาชนจีน รับเครื่องอิสริยาภรณ์ รัฐมิตราภรณ์ เป็นเครื่องอิสริยาภรณ์ที่ให้แก่มิตรหรือเพื่อนที่สำคัญ ไปรับเสร็จแล้ว ต้องให้มาร่วมงานวันสถาปนาสาธารณรัฐจีนครบ 70 ปี อยู่จนกระทั่งถึงวันที่ 1 ตุลาคม วันสถาปนา เป็นเกียรติที่ได้รับเชิญไปร่วมงาน แต่ว่าไม่ค่อยจะเห็นอะไร คนที่ดูทีวีอยู่บ้านจะเห็นขั้นตอนและมีคำบรรยาย จะรู้ชัดมากกว่า เอากล้องกดไปเรื่อยๆ ภาพ "ไปดูการสวนสนามวันชาติจีน แต่ถ่ายรูปออกมาไม่รู้เรื่องเลย" รูปอะไรก็ไม่ทราบคล้ายกับแอร์โชว์ที่เขาโฆษณาในทีวี ก่อนหน้านี้ อยากดูมาก เขาจะทำไว้สวยงามมาก แต่พอถ่ายจริงๆ ออกมาเป็นอย่างนี้ เขาพ่นควันและมีเครื่องบินนิดหน่อย บางตอนก็ปล่อยนกออกมา
ภาพ "ไปดูพาเหรดวันชาติ" รูปนี้ข้างหน้าเป็นพวกผู้ใหญ่จีน มาทุกหน่วยงาน มีหน่วยรถถัง และยุทโธปกรณ์ต่างๆ เหมือนการสวนสนามของทหาร ใหญ่และใช้เวลานานมาก ก็ดีในช่วงเวลานั้นได้พบคนหลายคนที่เคยพบ ที่ไม่ได้เจอกว่า 10 ปีก็ได้เจอ ได้ทักทายกัน มีการแสดงของผู้คนของมณฑลต่างๆ ของนักเรียนเด็กๆ เป็นการสวนสนามที่ยิ่งใหญ่มาก อันนี้มีสัญลักษณ์โอลิมปิค
ภาพ”น้องละมุนละไมฉลองฮัลโลวีน” สุนัขทรงเลี้ยง
กลุ่มภาพสุนัขและแมวทรงเลี้ยง รวมถึงสัตว์นานาชนิดในวังสระปทุม ทรงบรรยายว่า จะเห็นตลอดนิทรรศการนี้ เพราะว่าอยู่บ้านก็ถ่ายหมู หมา แมว แมลงไปเรื่อยๆ ต้นหมากรากไม้ แต่ว่าที่จริงตรงนั้นไม่ทำงานก็ไม่ใช่ ก็กังวลด้านการศึกษษ เพราะว่าเวลาทางการปิดทุกสิ่งทุกอย่าง ก็ปิดโรงเรียนไปด้วย เขาบอกห้ามเข้าโรงเรียน ทุกคนให้เรียนจากคอมพิวเตอร์ เรียนจากทีวี แต่ว่านักเรียนที่ดูแลอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ไม่มีคอมพิวเตอร์ ทีวี จะหาให้ ก็สัญญาณไม่มี ลำบาก อาหารการกินก็น่าห่วง ส่วนมากเด็กจะไปรับประทานอาหารที่โรงเรียน แต่ก็มีการเพาะปลูก ทำของเพื่อรับประทานเองที่บ้านก็ดีพอสมควร จะไปส่งเสริมในหมู่บ้านของนักเรียน ก็พยายามช่วยเรื่องเครื่องเขียน สมุดปากกา หนังสือ ก็มีคนบริจาคจัดเป็นชุดและรวมสื่อที่ทำไว้นานแล้ว หนังสือ 60 พรรษา ก็เอามาบางส่วน ให้เรียนสหกรณ์ เรียนภาษา บางคนพออ่านออกเขียนได้ก็ช่วยกันไป เท่าที่ช่วยกันทำได้ มีเมล็ดพันธุ์ให้เพาะปลูก หัดเพาะถั่วงอก ต้องคอยติดต่องานทางมือถือหรือไลน์ แต่ไม่ค่อยได้ จะกดผิดกดถูกตามประสาคนไม่ค่อยได้ใช้
ส่วนภาพ "น้องละมุนฉลองฮัลโลวีน" วันฮาโลวีนที่ถ่ายคุณละมุนละไม ใช่ว่าจะได้รูปอย่างนี้ง่ายๆ จะถ่ายรูปท่านพวกนี้ต้องมีขนม อย่างรูปนี้ก็ต้องถือกล้องและมีขนมปังเสียบไว้ตรงกล้องให้เขาดู เผื่อว่า พอถ่ายแล้วจะมีโอกาสได้ลิ้มรส ต้องมีของสังเวยกันตลอด
ภาพ "น้องฮ้อเซียงโกวดมดอกไม้" มีน้องใหม่ชื่อน้องฮ้อเซียงโกวอายุไม่ถึงขวบ มาตั้งแต่สองเดือน เป็นหมาคอลลี่ ตอนแรกนึกว่า ละมุนจะโกรธที่มีหมาตัวใหม่ แต่ละมุนนี่เอาฮ้อนอนบนขาละมุน ตอนหลังละมุนหน้ายับ น่าแกล้ง กัดละมุนหน้ายืด คอยเดินหากัน เอาหัวจ่อมาปรึกษากัน ฮ้อเซียงโกว เป็นชื่อของหนึ่งในแปดเซียนซึ่งเป็นเซียนผู้หญิงท่านเดียว
ภาพแมวทรงเลี้ยงจัดแสดงในรูปแบบ Art Wall
ภาพ "ป้ายชื่อที่เกาะเกร็ดคู่กับอีกป้ายว่า กูไม่ไหวแล้วโว้ย โปสเตอร์ท่องการกระจายกริยาไวยากรณ์เยอรมัน วังสระปทุม" มีป้ายซื้อมาอยู่นานแล้ว ซื้อมาจากเกาะเกร็ด เขามีป้ายอันนึงเขียนว่า “อะไรๆ ก็กู” ก็เลยซื้อมา แล้วมีอีกแผ่นเขียนว่า “กูไม่ไหวแล้วโว้ย ” อยู่ด้านบน (ทรงพระสรวล) ส่วนข้างล่างเป็นโปสเตอร์ท่องการกระจายกริยาไวยกรณ์เยอรมัน แต่จำไม่ได้เพราะไม่ค่อยได้ดู ติดไว้เฉยๆ
ส่วนภาพ "พระเอกตลอดกาลของเรา" เป็นรูปของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล พระเอกใหญ่ประจำงาน แค่นี้ก็ดีใจที่ท่านมาอีก และได้เตรียมกล้องเพื่อมาถ่ายอีกครั้ง ตอนนี้ไม่แน่ใจว่ามีรูปท่านกับภาพพริกปู่เมธกี่ครั้ง กำลังดูว่าจะให้ยืนตรงไหน เพื่อไม่ให้บังกันเอง
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ร่วมงานนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ที่ จ.อุทัยธานีในงานครั้งนี้ ทรงบรรยายความว่า ภาพ "ฮกแซตึ๊ง บรรพบุรุษของเจ้าของ" ในนิทรรศการนี้ก็แปลก มีรูปมาจากอุทัยธานีหลายรูปอยู่เหมือนกัน รูปนี้อยู่ในร้านขายยาเก่าของอุทัยธานี ชื่อ”ฮกแซตึ๊ง” รู้จักมาแต่เด็กๆ แต่ตอนหลังไม่ได้ขายยาแล้ว ค่อนข้างทรุดโทรมเจ้าของตกลงจะยกให้ คิดว่า ถ้าซ่อมแล้วจะสวยงามและจะเป็นประโยชน์กับคนในจังหวัดอุทัยธานี ก่อนหน้านี้ มีศูนย์วงเดือนมาจากคุณป้าวงเดือน อาคมสุรฑัณฑ์ ถวายที่ดินเปล่ามาให้ ก็มาสร้างอาคารและอบรมกับ กศน.สอนวิชาการต่างๆ ให้กับชาวบ้าน ทำกับข้าว ประดิษฐ์ ดนตรี มีครูจากกรุงเทพฯ อุทัยธานี นครสวรรค์มาสอน ชาวบ้านได้ความรู้ คนมาเยี่ยมเยอะแยะ อยากขยายมาทำที่ฮกแซตึ๊ง นอกจากที่ ก็มีตู้ยาจีนซึ่งสวยงามแบบดั้งเดิม ถ้าซ่อม เราคงไม่ขายยา แต่ขายยาหม่อง ลูกประคบ และหัดทำอะไรให้ชาวบ้าน ข้างหลังเป็นที่ว่างโล่ง เป็นสวนตะพาบน้ำหรือเต่า จะจัดสวนให้ดูดีให้คนมาศึกษา และพักผ่อนหย่อนใจ กำลังสำรวจและขุดดูรากฐานว่ามีความแข็งแรงอยู่หรือเปล่า พบเศษถ้วยชาม ของโบราณ
ภาพ "ฮกแซตึ๊ง บรรพบุรุษของเจ้าของ" ทรงบันทึกที่จ.อุทัยธานี
ส่วนภาพ”ร้านกาลครั้งหนึ่ง ณ อุทัยธานี “ เดินไปเดินมาก็เจอ ร้านกาลครั้งหนึ่ง ณ อุทัยธานี เปิดดูข้อมูลในอินเตอร์เน็ต มีเล่าเรื่องของร้าน มีหนังสือต่างๆ น่าสนใจมาก เจ้าของนอนอยู่ในซอกตู้ ชะโงกดูคนขายอยู่หรือเปล่า เผอิญซื้อหนังสือที่ชอบมากอยู่เล่มหนึ่ง ชื่อ “ยังดีที่มีแมว”รู้สึกว่าตรงกับใจ อย่างน้อยยังมีแมวเก่าแก่ คือ ใบตอง ซึ่งร้ายชอบไล่แมวอื่น เป็นเจ้าถิ่น ใบตองเคยหายไปหนหนึ่ง เอาป้ายติด วันนั้นกลัวมาก ถ้าไม่ได้ใบตองคืนมา จะต้องมีคนหวังดี เอาแมวเทาๆ ลายๆ มาให้สักร้อยตัว ก็จะแย่แน่ แต่ได้ใบตองกลับมาเร็ว
ทรงบรรยายภาพ "ดอกไม้สวนปทุมอก Baobab Adansonia Digitata Flower" เป็นรูปดอก Baobab Adansonia Digitata Flower ซึ่งมี 8 ชนิด ที่สวนปทุมมีครบ 8 ชนิด หายากมาก ไปมาดากัสการ์ได้ต้นไม้หลายชนิดที่ห้ามเอาออก แต่ประธานธิบดีเซ็นออกให้เอง เพราะพูดภาษาฝรั่งเศสได้ มีประโยชน์แบบนี้ ต้นโตนี้เขาว่า อยู่ได้เป็นพันพันปี ,2,000 3,000 ปี ก็อยู่ได้ ต้น Baobab มีประโยชน์ในทุกส่วน
ภาพถ่ายทรงบันทึกไว้ครั้งเสด็จฯ ไปอินเดีย ทรงบรรยาย ความว่า ภาพ "Taj Falaknuma Palace ไฮเดอราบัด" เพื่อนเที่ยวอินเดีย ถ่ายรูปส่งมาโชว์ว่า ไปพักที่โรงแรมนี้ สวยงามมาก Taj Falaknuma Palace อยู่ไฮเดอราบัด เป็นวังเก่าที่เจ้านายมีความรู้และความสามารถ ในนั้นจะมีห้องสมุด ห้องรับประทานข้าว ห้องรับแขก ห้องนอน ยังเก็บไว้ส่วนหนึ่งที่ไม่มีคนอยู่แล้ว เหมือนพิพิธภัณฑ์ อยากไปบ้าง ตั้งใจจะไปที่นี่โดยเฉพาะ เจ้าของใจดี อยากจะหยิบหนังสืออะไรในตู้ดูได้ทั้งนั้น มีหนังสือหลายภาษามาก ถ้ามีเวลาอีกเพลิดเพลิน ไม่ต้องไปท่องเที่ยวที่ไหน ดูแค่โรงแรมนี้ก็สนุกแล้ว
สำหรับภาพ "โรงแรมรูปปลา" ตอนแรกบรรยายภาพเขียนว่า "โฮเต็ลรูปเครื่องบิน" ทีมงานบอกไม่ใช่ มันเป็นรูปปลา ก็ไปดูมาแล้ว ถ่ายรูปมาเหมือนกัน มันเป็นปลา ไม่ใช่เป็นเครื่องบิน ก็แน่ใจ สมัยเด็กจำได้ว่า เคยพรีเซ็นต์งาน ครูให้เลือกประเทศ ค้นคว้า พรีเซ็นต์งาน เลือกออสเตรเลีย ในรูปเห็นไกลๆ เป็นแกะเต็มทุ่งไปหมด ไม่ได้ทันศึกษาให้ดี ก็บรรยายว่า นี่คือ รูป "แรด" ในที่สุดตอนเพื่อนวิจารณ์จะบรรยายหรือจะทำนิทรรศการ ควรจะศึกษาให้ดีเสียก่อน ไม่ใช่เห็นแกะเป็นแรดแบบนี้ นี่ก็กลับเหมือนเดิมเห็นปลาเป็นเครื่องบิน
ทรงบรรยายว่า ที่ไปอินเดียเดินทางด้วยทางรถยนต์ไกลมาก โขยกเขยก อาหารต้องกินในรถ กว่าจะไปถึงหอดูดาว มีกล้องดูดาวที่ใหญ่กว่าของไทย กำลังคิดเรื่องของความสัมพันธ์ทางวิทยาศาสตร์กับอินเดีย และน่าจะได้ผลในเรื่องดาราศาสตร์นี้ ปีหน้ากะจะไปหอดูดาวอีก แต่ว่ายังฟาวล์เสียก่อน เพราะโรคโควิด ซึ่งเปรียบเสมือนควายขวิด ส่วนภาพ "พระอาทิตย์ตกดินที่หอดูดาวเทวาสถล" ไปถึงตอนพระอาทิตย์ตกดินที่หอดูดาวก็สวยงามมาก มีศาลพระศิวะ เขียนคำอ้อนวอนพระศิวะ เป็นภาษาสันสกฤต เชิญถ่ายภาพในนิทรรศการได้ตามสบาย หวังว่าจะสนุกกับการชมภาพ แม้ว่าจะล็อคดาวน์อยู่บ้าน แต่ก็ถ่ายๆ จำไม่ได้ว่า ถ่ายอะไร บรรยายผิดถูกไปบ้างก็คงให้อภัย เพราะเดี๋ยวนี้ความจำไม่ดี
สำหรับนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ หัวข้อ “ชีวิตยามอยู่บ้าน: Life@Home” เปิดให้เข้าชมถึวันที่ 7 ก.พ. (หยุดทุกวันจันทร์) เวลา 10.00-19.00 น. และมีการจำหน่ายหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ชีวิตยามอยู่บ้าน: Life@Home”เล่มละ 900 บาท ณ ห้องนิทรรศการ ชั้น 9 หอศิลป์ กทม. และศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ รายได้ทั้งหมดนำขึ้นทูลเกล้าถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย