บางวันก็ท้อ-เสียใจ ในหลวงพระราชทานสัมภาษณ์เยาวชนอย่าลืมประวัติศาสตร์


เพิ่มเพื่อน    

ในหลวง-พระราชินี ทอดพระเนตรการฝึกปฏิบัติและดูงานศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 โครงการค่ายผู้นำเยาวชนจิตอาสา "LOVE CAMP" Leadership - Oneness - Volunteer - Expert ครั้งแรก พระราชทานสัมภาษณ์อย่างเป็นกันเองแก่คณะเยาวชน ไม่ลืมประวัติศาสตร์ ระลึก 70 ปีครองราชย์ ร.9 ทำเพื่อบ้านเมือง ทรงย้ำก็เหมือนมนุษย์ทั่วไป บางวันก็ท้อ บางวันก็เสียใจ บางวันก็แทบจะไม่อยากต่อสู้กับความไม่ดี แต่เวลาท้อก็ต้องเอาเหตุผลขึ้นมาพิจารณา เอาอุดมการณ์ขึ้นมาพิจารณา แล้วก็ทำต่อไป ไม่มีใครมีความท้อ
    เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม เวลา 20.11 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ไปยังศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 บางเขน กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์  เขตบางเขน ทอดพระเนตรการฝึกปฏิบัติและดูงานศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 บางเขน โครงการค่ายผู้นำเยาวชนจิตอาสา "LOVE CAMP" Leadership - Oneness - Volunteer - Expert หลักสูตรการฝึกปฏิบัติและดูงานเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย รุ่นที่ 1 ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะกรรมการอำนวยการ และคณะอนุกรรมการคัดเลือกนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาทั่วประเทศ เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 271 คน เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 200 คน และผู้ดูแลนักเรียน จำนวน 71 คน เข้าร่วมกิจกรรมเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 11 ถึง 13 ธันวาคม 2563 เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจผ่านการปฏิบัติจริงในพื้นที่แปลงสาธิต ศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 ซึ่งเป็นพื้นที่พัฒนาตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามพระราชปณิธาน "ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน  ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง"
    กิจกรรมการฝึกปฏิบัติและดูงานแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วยแปลงที่ 1 การแก้ปัญหาตามภูมิสังคม, แปลงที่ 2 การจัดการและการเอาตัวรอดในภาวะวิกฤติ และแปลงที่ 3 การพึ่งพาตนเอง ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้เข้าใจทั้งทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการจัดการเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริ รวมถึงสร้างความภูมิใจในวัฒนธรรมและภูมิปัญญาวิถีชาวไทย เพื่อสืบทอดต่อกันมาตามบริบทของภูมิสังคมที่ต่างกัน เข้าใจเป้าหมายของจิตอาสา สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และขยายผลสู่สังคม สามารถพัฒนาตนเองเป็นเมืองที่ดี รับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม สามารถทำงานกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเรียนรู้พึ่งพาตนเองได้ในสถานการณ์วิกฤติ โดยเน้นการลงมือปฏิบัติ และการเผชิญสถานการณ์วิกฤติ
    การเสด็จพระราชดำเนินมาในครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำรัสแก่เยาวชนโครงการค่ายผู้นำเยาวชนจิตอาสา “LOVE CAMP” Leadership-Oneness-Volunteer-Expert หลักสูตรการฝึกปฏิบัติและดูงานเศรษฐกิจพอเพียง ความว่า
    “ในค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนแห่งความสุขความสบายใจ และก็เป็นที่น่ายินดีที่ได้มาพบกับพวกเรา และทุกคนได้มารวมกันในบรรยากาศที่สบายๆ น่าอบอุ่นที่นี้ ในการที่ได้มาเข้าหลักสูตรจิตอาสา หรือได้เกิดได้มีประสบการณ์ ตลอดจนได้พบปะสังสรรค์กัน เป็นเรื่องที่ดี เพราะว่ามีสิ่งที่สำคัญก็คือทุกคนอยู่ในวัยอยู่ในห้วงที่หนุ่มสาว แข็งแรง สดใส และที่สำคัญมีชีวิตอีกยืนยาวไปข้างหน้า  นั้นก็คือมีโอกาสที่จะมีชีวิตที่มีความสุขความสบายใจ ความสดใสแข็งแรงไปอีกนานแสนนาน พูดถึงทุกคน ทุกคนต้องการบ้านที่ปลอดภัย ที่อบอุ่น ทุกคนต้องการเพื่อนและญาติมิตรที่รักใคร่และหวังดี ตลอดจนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
อนาคตอยู่ที่พวกเรา
    ประเทศชาติก็คือบ้าน แบ่งเป็นพื้นที่ต่างๆ สังคมต่างๆ ก็ลงไปอยู่ที่พื้นฐานคือครอบครัว และลงอยู่ที่ตนเอง บ้านเมืองของเราประเทศของเรา หรือบ้านครอบครัวของเราจะมีความสุข ปลอดภัยน่าอยู่สบายมันก็ขึ้นกับคนรุ่นเราในอนาคต ก็เหมือนกับที่ผ่านๆ มา ผู้ใหญ่รุ่นก่อนเขาก็พูด อย่างข้าพเจ้าก็เคยเป็นเด็กมาก่อน เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน เคยเรียนรู้ลองถูกลองผิดต่างๆ มามาก แต่ผู้ใหญ่เขาก็แนะนำ เขาก็ชี้แนะ และเขาก็พูดแบบนี้ว่า อีกหน่อยอนาคตของชาติบ้านเมืองหรือของครอบครัว เอาแค่ครอบครัวก่อน ครอบครัวอีกหน่อยเราก็จะเป็นหัวหน้าครอบครัว อีกหน่อยเราก็จะแยกครอบครัวไปสร้างครอบครัว อนาคตอยู่ที่พวกเรา ประเทศชาติบ้านเมืองมีความสุขมีความมั่นคงก็อยู่ที่พวกเรา เพราะฉะนั้นประสบการณ์ที่ดี ประสบการณ์ที่ถูกสำคัญถ้าเผื่อรู้ อยากรู้ว่าอะไรที่มันถูกมันผิดมันก็มีตัวอย่าง ซึ่งสมัยนี้คนไม่ค่อยชอบเรียนประวัติศาสตร์กัน คนไม่ค่อยคิดอะไรย้อนหลัง ไม่ได้สอนให้เป็นคนสมัยเก่าไดโนเสาร์อะไร แต่ความเป็นมาความต่อเนื่อง
    อย่างที่มาก็นั่งรถมา ลงจากรถมานั่งที่นี่ มีรายการต่างๆ ก็เป็นความต่อเนื่องความเป็นมา ชีวิตของเราก็มีความต่อเนื่องความเป็นมา ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์หรือความเป็นมาของชาติบ้านเมือง ทั้งที่ดีทั้งที่ไม่ดี เราก็จะรู้ว่าอะไรมันดี อะไรเป็นประโยชน์ อะไรมันไม่ดี เพราะว่ามันมีของดีมันก็มีของไม่ดี มันมีของถูกมันก็มีของผิดก็สำคัญ ที่ว่าจะเปิดใจศึกษาว่าอะไรมันถูกอะไรมันผิด อะไรมันเป็นประโยชน์ อะไรมันไร้ประโยชน์ แต่อย่างที่บอกว่าประวัติศาสตร์มีทั้งของมันเลวชั่วร้าย และก็มีทั้งของที่ดี แต่ที่สำคัญคือเราต้องเอาบทเรียนมาใช้ และเราเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เพราะเราคืออนาคต ประวัติศาสตร์มาปัจจุบัน ปัจจุบันก็คืออนาคต ปัจจุบันถือไมโครโฟนพูดกับเราอยู่ เอาวางก็ไม่ได้ยินแล้ว แต่ปัจจุบันนี้ถืออยู่ อนาคตจะกลับขึ้นมาอีกก็เป็นปัจจุบัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือปัจจุบัน ณ กรรม คือสิ่งที่เราทำอยู่นี้  เพราะว่าที่ทำอยู่นี้ก็จะได้ผล อย่างเช่นตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ตั้งใจหาความรู้ ตั้งใจหาเหตุผลว่าอะไรมันถูกอะไรจะดีกับส่วนรวม มันก็จะมีผลดีกับอนาคต
    ถ้าเราไม่เรียน เราเที่ยวอย่างเดียว หรือเราไปฟังอะไรที่มันไม่ถูกต้องโดยไม่คิดพิจารณาว่าอะไรถูกหรือไม่ถูก เราก็ออกนอกลู่นอกทาง พอเราจะกลับเข้าลู่เข้าทางมันก็เสียเวลาไป เพราะฉะนั้นปัจจุบันก็คือเป็นสิ่งที่ทำให้อนาคตดี อนาคตดีของพวกเราเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน ว่าสุขภาพร่างกายแข็งแรง รักหมู่คณะ รักครอบครัว รักหมู่คณะหาความรู้ประสบการณ์ ทั้งวิชาการ ทั้งทักษะความสามารถต่างๆ งานอดิเรก ดนตรี ภาษา หรือสิ่งที่น่าจะทำมีอีกตั้งเยอะแยะ รักเพื่อนรักบ้านรักชุมชน และก็เน้นอีกทีหนึ่งคือเรียนประวัติศาสตร์ ไม่ได้เรียน อ่านประวัติศาสตร์กันบ้าง เพื่อให้รู้ความเป็นมาว่ามันเป็นอย่างไร หรือทุกวันนี้เราก็เห็นได้ว่าอะไรมันดีอะไรมันไม่ดี
    อย่างนึกถึงนิดหนึ่งตลอด 70 ปีของรัชกาลที่ 9 ที่ผ่านมา ระลึกถึงท่านหน่อยว่าท่านเริ่มอย่างไร ท่านทำอะไรมาบ้าง และท่านทำอะไรมา เพราะอะไร และมีผลอะไรดีต่อชาติบ้านเมืองบ้าง เรานึกถึงพระองค์ท่าน รัชกาลที่จบไปนี้ เราอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะรัชกาลของพระองค์ท่านด้วยใช่หรือไม่ นี้เรื่องจริง เราเป็นลูกท่าน เราก็ได้รับการสั่งสอนมาตั้งแต่เป็นเด็กตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาท่านก็ดึงกลับเข้ามาเข้าทาง การเรียนท่านก็จัดให้ ก็มาคิดสำนึกที่ท่านสั่งสอนมา ไม่งั้นก็อาจจะตกท่อตกคูไปแล้วก็ได้ เพราะฉะนั้น เรามีโอกาสที่จะตั้งใจเล่าเรียนหางานที่ดี ทำประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อส่วนรวม ทำประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่จำเป็นต้องเป็นทหารไม่จำเป็นต้องเป็นข้าราชการ ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมให้เพื่อนร่วมชาติของเราหรือร่วมสังคมของเรามีความสุข อะไรที่มันไม่ค่อยดีหรือคิดว่าไม่ค่อยดีก็ดูพิจารณา ถ้าเห็นว่ามันไม่ค่อยดีก็ละเว้น อะไรที่เห็นว่าดีเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมก็ปฏิบัติ เพราะความไม่ดีนี้นะ ความไม่ดีความบิดเบี้ยวไปจากความจริง หรือความที่ทำให้ชาติบ้านเมืองเดือดร้อนมันไม่จีรังถาวร มันก็มาแล้วคนก็ตื่นเต้นไป แล้วพิจารณาเหตุผลดีหรือไม่ดี ถ้าไม่ดีมันก็ไป นี้พูดความจริง
ยิ่งกว่าถูกไม่ถูกคืออะไรมันจริง
    เรามีโอกาสอีกเยอะที่จะสร้างความดีให้แก่ชาติบ้านเมือง ให้แก่สังคม เป็นอะไรก็ได้ ทำอาชีพอะไรก็ได้ เรียนอะไรก็ได้ แต่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเราหรือเปล่า ประเทศชาติเราหรือเปล่า เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวเราหรือเปล่า และที่สำคัญเป็นประโยชน์กับตัวเองหรือเปล่า เพราะว่าชีวิตนี้บางทีมันผ่านมาผ่านไปเร็วมาก อย่างข้าพเจ้าแป๊บเดียว เผลอแป๊บเดียวก็จะ 70 แล้ว ก็ยังมีหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำ หลายอย่างเสียใจว่าไม่ได้ทำ เสียใจแปลว่าน่าจะทำ แต่ก็ไม่เป็นไรก็ไม่ต้องเสียใจ ก็ทำเดี๋ยวนี้ก็ได้ แต่อายุเวลามันผ่านไปเร็ว วันนี้ก็ยังอยากจะกลับไปอายุเท่าพวกเรา แต่ก็ไม่สามารถ พวกเรายังมีเวลา เพราะฉะนั้นถ้าเผื่ออยากได้ประสบการณ์ เรียนลัดก็คือศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมามากๆ แล้วเราก็จะได้เรียนลัด สมัยก่อนอันนี้มันเป็นอย่างนี้ ทำอย่างนี้มันเป็นอย่างนั้น แล้วปัจจุบันเราจะทำอย่างไงให้เรามีความรู้ มีร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่จะรักษาประเทศชาติบ้านเมือง
    ก็ลองไปคิดถึง 70 ปีของรัชกาลที่ 9 ดู ไปดูไปอ่านมา ไปคิดมาว่าท่านทำอะไรบ้างทั้ง 2 พระองค์ ว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีทำอะไรบ้าง และเรามีอะไรบ้างที่สืบเนื่องมาจากท่าน เราไปคิดดู ไม่ได้บังคับให้คิดนะ ลองไปคิดดู เราเป็นกำลังของชาติ ก็เขาก็พูดสอนไปมากแล้วเราเป็นกำลังของชาติก็ไม่อยากเอาทฤษฎีมาพูด เราเป็นกำลังของชาติ เราเป็นกำลังของตัวเอง เราทำดีมันก็อยู่ที่ตัวเอง เราทำดีมันก็สะท้อนไปถึงส่วนรวมด้วย ถ้าเราเลอะเทอะ เละเทะ ทำร้ายประเทศชาติหรืออะไรต่างๆ ก็ทำร้ายตัวเอง ที่เขาสอนมันเริ่มที่ตัวเอง และผลจากตัวเองมันก็มาจบที่ตัวเอง จำคำนี้ไว้ เริ่มที่ตัวเองจบที่ตัวเองไม่ว่าดีหรือไม่ดี  คือพูดให้ฟัง แล้วก็ไม่ได้ขอให้เชื่อด้วย เป็นความคิดเฉยๆ ที่พูดมาทั้งหมดกับพวกเรา สร้างตัวเอง หาวิชาความรู้ที่จะเป็นประโยชน์กับตัวเองทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ก็ไม่ได้ให้เบื่อให้น่าเบื่อ  สมัยก่อนผู้ใหญ่บอกให้เรียน ขอให้ตั้งใจเรียน ก็คิดเหมือนกันว่าน่าเบื่อ ทำไมเขาถึงพูดอย่างนี้ ไม่อยากเรียน ให้เป็นอย่างนู้นเป็นอย่างนี้ก็ไม่อยากเป็น แล้วมาคิดดูว่าที่เขาพูดมานี้ถ้าเราลองทำดูนี้เราอาจจะเป็นประโยชน์กับเราก็ได้
    สมัยก่อนเป็นนักเรียน ผู้ใหญ่บอกอย่างนี้บางทีก็ทำไมมาพูดอย่างนี้ ไม่อยากทำ ยิ่งไม่ทำตัวเองก็เดือดร้อนตัวเอง อย่างน้อยก็ต้องมาซ่อม สอบซ่อม หรือโตขึ้นมาอยากจะเล่น อย่างเช่นอยากเล่นดนตรีได้ดี ก็เสียใจว่าผู้ใหญ่เป็นนักดนตรีชั้นยอดมาสอนด้วยพระองค์เองตัวเอง แล้วเราไม่ตั้งใจเรียน ไม่อยากเรียน ก็ปัจจุบันนี้ก็ยังเล่นดนตรีไม่ได้ดีหรือเล่นไม่ได้อะไรทำนองนี้ รู้สึกอยาก ท่านเคยบอกว่าเราควรจะมีงานอดิเรก ควรจะมีความสามารถพิเศษบ้าง ก็ไม่เอา ก็เสียใจทีหลังว่าเราไม่มีทักษะในงานอดิเรกอะไรต่างๆ พวกนี้ก็ลองไปคิดเอาเอง จิตอาสานี้ก็เป็นสถานการณ์สมมุติที่เขาเอาเรื่องต่างๆ มาให้เรา ทำให้เราฟังให้เราปฏิบัติ ก็เหมือนการเรียนทั้งหลาย เป็นการสมมุติสถานการณ์ มันอยู่ที่ตัวเองที่จะต้องออกไปติดตาม ไปศึกษา ก็มันอยู่ที่ตัวองที่จะต้องศึกษาว่าอะไรคือถูก อะไรคือไม่ถูก
    ยิ่งกว่าถูกไม่ถูกคืออะไรมันจริงอะไรมันไม่จริง ถ้าคนแน่จริงเขาเชื่อความจริงเขาทำตามความจริง เขาไม่ได้เชื่อข่าวลือข่าวลวง ใครพูดว่าอย่างไรแน่จริงความจริงชนะเสมอ เราจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อสังคมของเรา ก็อยู่ที่ความหนักแน่นของเรา แล้วก็ฝากไว้นิดหนึ่ง นึกถึงแผ่นดินรัชกาลที่ 9 เอาไว้ ถ้าเราคิดเรื่องนี้ได้หลายๆ อย่างจะตอบปัญหาว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวงท่านทำอะไรมาบ้าง เราไปศึกษาดูสิ เราจะได้คำตอบเวลาที่เราอาจจะยังไม่ได้มาก่อนก็ได้ ที่อยู่มาได้เดี๋ยวนี้ก็เพราะแผ่นดินที่แล้วนี้ล่ะ และก็แผ่นดินก่อนๆ อาจจะหาว่าเต่าล้านปี ไดโนเสาร์ ลองไปศึกษาดูคำตอบ จะอยู่ในนั้นน่ะ ก็เราก็พูดแค่นี้แหละ คนก็พูดใส่เรามามากแล้ว ต้องเป็นอย่างนี้ต้องเป็นอย่างนั้นต่างๆ ก็ขอให้มีความสุขความเจริญ แล้วก็อยู่ในความจริงอยู่ในเหตุผล อยู่ในความจริงอยู่ในเหตุผล ทุกคนรักบ้าน ทุกคนไม่อยากเห็นบ้านแตก ทุกคนไม่อยากเห็นขโมยขึ้น  ทุกคนไม่อยากให้โจรปล้นบ้าน เพราะฉะนั้นเราต้องรักษาบ้านเมืองของเราให้ดี รักษาบ้านของเราให้ดี ขอให้มีความสุขความเจริญ รักพวกเราทุกคนนะ”
บางวันก็ท้อบางวันก็เสียใจ
    ภายหลังจากที่ได้พระราชทานพระราชดำริเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เยาวชนโครงการค่ายผู้นำเยาวชนจิตอาสา “LOVE CAMP” Leadership-Oneness-Volunteer-Expert หลักสูตรการฝึกปฏิบัติและดูงานเศรษฐกิจพอเพียงในการนำไปเป็นหลักยึดในการดำเนินชีวิต เพื่อร่วมกันสร้างครอบครัว สังคม และประเทศชาติให้น่าอยู่เกิดความร่มเย็นแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ตัวแทนคณะผู้นำเยาวชนจิตอาสาร่วมพูดคุยซักถามในเรื่องต่างๆ  พร้อมพระราชทานสัมภาษณ์แก่ตัวแทนเยาวชนอย่างเป็นกันเอง ถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่กำลังทรงเผชิญ รวมถึงขอพระราชทานแนวทางในการบริหารจัดการกับความเหน็ดเหนื่อยพระวรกายจากการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ นำมาซึ่งความปลาบปลื้มใจเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้
    นางสาวพรรณนิษา : หนูและเพื่อนรู้สึกดีใจมากๆ นะคะที่ได้พบหน้าของพระองค์ทั้งสอง และก็ขอขอบคุณโอกาสที่ให้กับพวกเราทุกคนในวันนี้ ที่พวกเราได้มาเรียนรู้การฝึกปฏิบัติ ได้ศึกษาดูงานเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้เราได้รับความรู้ในเรื่องของทฤษฎีในเรื่องของการบริหารจัดการเรื่องของน้ำท่วมน้ำแล้ง การช่วยเหลือผู้ป่วยทั้งทางดิ่งและอะไรต่างๆ และอีกเรื่องหนึ่งในส่วนของการอบรมจิตอาสาพระราชทาน พวกหนูและเพื่อนๆ ขอสัญญาว่าจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับนำกลับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วก็นำไปถ่ายทอดให้กับคุณครู เพื่อนๆ และก็พี่ๆ น้องๆ ผู้ปกครองคนอื่นที่รออยู่ที่บ้านของพวกเราด้วยค่ะ
    ในหลวง : ก็ดี เอาไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เอาไปต่อยอดจากสภาพจริง เอาความรู้ไปประยุกต์แก้ไขดี และเราก็เอาของที่เรียนรู้ไปใช้ ขอบใจมาก
    น้องโบอี้ : อยากทราบว่าในหลวงทรงงานเพื่อประชาชนตั้งมากมาย ในบางวันหรือบางเวลาในหลวงมีความท้อมีความเหนื่อยไหม
    ในหลวง : ก็เหมือนมนุษย์ทั่วไป บางวันก็ท้อ บางวันก็เสียใจ บางวันก็แทบจะไม่อยากต่อสู้กับความไม่ดี แต่ก็เป็นของธรรมดา  เราก็ต้องรู้ว่ากำลังใจไม่ได้มาจากเวลาที่เราแข็งแรงที่สุด กำลังใจ ความมั่นใจมาจากสิ่งที่ได้รับการอบรมโดยความเชื่อที่ถูกต้อง เวลาท้อก็ต้องเอาเหตุผลขึ้นมาพิจารณา เอาอุดมการณ์ขึ้นมาพิจารณา แล้วก็ทำต่อไป ไม่มีใครมีความท้อ แต่อย่าให้ความท้อนั้นเป็นมารดึงเราลงไปได้ มันต้องท้อ มันต้องเบื่อ มันต้องเครียด มันต้องเสียใจเป็นของธรรมดา แต่เมื่อมีอุดมการณ์ มีความรู้ในสิ่งที่ถูกต้อง มีความรู้แจ่มแจ้งในความจริง ความรู้เรื่องสำนึกในหน้าที่เราก็ไปได้ ไม่มีใครบอกว่าแฮปปี้มีความสุขตลอด มันก็ต้องมีความท้อ ก็ไม่ต้องให้ความท้อมาเป็นนายบั่นทอนเราได้ โอเคไหม (ทรงสรุปด้วยพระสุรเสียงที่เป็นกันเอง)
    น้องยุ้ย : หนูอยากขอบคุณสำหรับการจัดอบรมกิจกรรมในครั้งนี้ พวกเราทุกคนจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มานำไปประยุกต์ใช้ต่อไป และอยากจะให้มีการจัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้นอีก ข้าพเจ้าอยากจะให้พระองค์ให้คำสั่งสอนหรือให้แนวทางกับเยาวชนจิตอาสา 904 เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญพระเจ้าค่ะ
    ในหลวง : นี้ล่ะก็ได้โอกาสมาชมมาดูของตัวอย่าง จิตอาสาก็เป็นของตัวอย่างที่เราได้รับเชื้อไป เราก็ไปศึกษา ไปปฏิบัติต่อ คือไปเป็นพลเมืองที่ดี ที่จะต้องนึกถึงส่วนรวมเพื่อส่วนรวม และก็ทางเราก็พร้อมที่จะสนับสนุน พวกเราแยกย้ายกันกลับไปบ้านก็ต้องไปเป็นกำลังให้กับพี่น้องในครอบครัว ไปเป็นเชื้อที่ดีของประเทศชาติ ก็อย่างที่บอกไงว่าพวกเราอยากได้บ้านที่ดี บ้านที่อบอุ่น บ้านที่สวย ไม่อยากได้บ้านที่รั่ว ไม่อยากได้บ้านที่มันพุพัง เราก็คือบ้าน สมาชิกในครอบครัวคือบ้าน คือประเทศ บ้านเราจะดีไม่ดีก็อยู่ที่พวกเรานี้ล่ะ อะไรที่ไม่ดีไปคิดกันเอาเอง อะไรที่ทำให้บ้านพัง อะไรที่มันชั่วร้ายก็ไม่ต้องไปทำ ทำแต่สิ่งที่ดี ความชั่วร้ายมันก็จะหายไปเอง
คนไทยจำเป็นต้องมีวินัย
    น้องวิทย์ : ผมอยากจะขอบคุณในหลวงที่ดูแลพวกเรามาตลอด  ดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่โรงเรียนดูแลที่นอน มีที่พักฟรีให้ รวมทั้งดูแลพวกเราเป็นอย่างดี ผมเป็นคนกะเหรี่ยงที่ได้รับโอกาสที่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่ดีที่สุดสำหรับผมครับ อยากจะขอบคุณในหลวง สัญญาว่าจะเป็นเด็กดีของโรงเรียน และต่อไปจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคมครับ ขอบคุณครับ
    ในหลวง : ขอบคุณในความคิดที่ดี ทุกคนมีความคิดที่ดี เรามีความคิดที่ดีบ้านเมืองปลอดภัยแล้ว
    ใจเพชร : กระผมขอพูดความในใจ (พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เพราะความตื่นเต้น)
    ในหลวง : พูดดังๆ หน่อย (พระสุรเสียงที่เต็มไปด้วยความเมตตา)
    ใจเพชร : รู้สึกดีใจและมีความสุขมากในวันนี้ที่ได้เจอในหลวงและพระราชินี กระผมได้เรียนรู้ ได้ศึกษาเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงก็เพราะพระองค์ท่านที่ให้โอกาสกับพวกผม พวกผมอยากจะขอบคุณพระองค์ท่านด้วยการตั้งใจเรียน เป็นเด็กดีของพ่อแม่ และเป็นคนที่ดีของสังคมตลอดไปครับ
    ในหลวง : ขอบคุณมาก ขอบคุณมาก ลูกที่มีความตั้งใจ ขอให้ความตั้งใจที่ดีเป็นพลังเพื่อผลักดันให้เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเราจะเจริญรุ่งเรืองด้วยการทำสิ่งที่ดี เพราะสิ่งที่ดีเป็นสิ่งถาวร สิ่งที่มันชั่วร้ายไม่ถาวร ความจริงถาวร
    น้องแหม่ม : หนูเป็นนักเรียนทุน ม.ท.ศ.รุ่นที่ 11 ค่ะ ก่อนอื่นหนูอยากจะพูดความในใจก่อน หนูเป็นเด็กต่างจังหวัด เป็นเด็กจังหวัดสิงห์บุรีนะคะ บ้านก็อยู่ชานเมือง พ่อแม่ก็แก่แล้ว ก็ทำนานี้ละค่ะ ก็คือหนูได้รับโอกาสจากพระองค์ท่าน พระองค์ท่านพระราชทานโอกาสให้หนูหลายครั้งมาก หลังที่พี่สาวเข้าโรงพยาบาลครอบครัวหนูก็ตกอยู่ในความทุกข์ พ่อแม่ไม่ยิ้มกับหนูเลย พอพ่อแม่รู้ว่าหนูได้รับทุน หนูดีใจมาก พ่อแม่ยิ้มกับหนู เป็นรอยยิ้มครั้งแรกที่แม่มอบให้หนู และทำให้หนูมีความสุขมากๆ (น้ำเสียงสั่นเครือ) ทำให้หนูต้องการสู้ต่อไป หลังจากที่ได้รับมอบโอกาสจากพระองค์ ก็อยากจะขอขอบพระคุณมากๆ ค่ะ หลังจากที่หนูได้รับโอกาสหนูรู้สึกว่าโอกาสต่างๆ มันเข้ามาในชีวิต ทำให้ชีวิตหนูเปลี่ยนแปลงไปมากเลยค่ะ โอกาสที่ได้เจอกับเพื่อนๆ ทั่วประเทศ โอกาสที่ได้รู้จักคนมากมาย ทั้งครูฝึกต่างๆ และหนูรู้สึกดีใจมากๆ ค่ะ โดยเฉพาะโครงการจิตอาสาพระราชทานนี้ทำให้หนูอยากสู้ต่อไป อยากเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศให้เจริญยิ่งขึ้นค่ะ
    ในหลวง : ทุกคนเป็นกำลังใจให้หนู (ทรงปรบพระหัตถ์เพื่อพระราชทานกำลังใจ) และก็เป็นกำลังใจให้ทุกคน อย่างน้อยพระเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จฯ ก็เป็นกำลังใจให้ทำความดี ทุกคนต้องมีความเดือดร้อน ทุกคนต้องมีปัญหา แต่ในประเทศไทยนี้นะมีมานานแล้วซึ่งประเทศอื่นไม่มี คือคนไทยเป็นประเทศที่ใจดีที่สุด คนไทยเป็นคนที่มีน้ำใจ คนไทยรักพี่น้อง และก็ช่วยกัน แต่คนไทยจำเป็นต้องมีวินัย คนไทยเราจะต้องนึกถึงส่วนรวม จะต้องนึกถึงกฎเกณฑ์ที่มันถูกต้อง กฎเกณฑ์อะไร กฎเกณฑ์ที่จะทำให้เรามีความสุขและปลอดภัย ทำหน้าที่พลเมืองที่ดี ก็ทุกคนรักหนูทุกคน พร้อมที่จะให้โอกาสจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น
    กำปั้น : ในวันนี้พวกเราทุกคนได้รับโอกาสได้รับความรู้ตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ในอนาคตพวกเราจะต้องนำความรู้นี้ไปใช้ไปพัฒนาประเทศให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้า พวกเราทุกคนจึงอยากจะขอหลักในการดำเนินชีวิตจากพระองค์ครับ
ทำไมคนไทยเราไม่กลายพันธุ์
    ในหลวง : นี้บอกไปตั้งเยอะแล้ว เราก็ได้รับการสอนแล้ว ก็คือ คิดถึงส่วนรวม คิดถึงคนรอบตัวเรา แล้วก็คิดถึงว่าบรรพบุรุษหรือผู้ที่ไปก่อนเราแล้วได้ทำอะไรมาให้เราหลายๆ อย่างที่เรามีอยู่ทุกวันนี้เป็นเพราะบรรพบุรุษ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือท่านต่างๆ ได้ทำให้เรา ทำให้ไว้มาก แนวทางไปศึกษาว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทำอะไรไว้บ้าง และท่านได้สั่งสอนเราไว้อย่างไรบ้าง ศึกษาด้วยปัญญา แล้วก็ดูว่ามันจริงหรือไม่ที่ท่านรับสั่ง บ้านเมืองเรานี้พัง ผ่านเรื่องร้ายกาจต่างๆ มาก็เยอะแล้ว ก็รอดมา ทำไมเพื่อนบ้านรอบเราไม่รอด หรือมันกลายพันธุ์ ทำไมคนไทยเราไม่กลายพันธุ์ เพราะถ้าคนไทยเราจะกลายพันธุ์ คำว่ากลายพันธุ์คงเข้าใจ คนไทยเราเป็นเผ่าวิเศษ มีความเป็นไทย เรารอดมาเพราะความเป็นไทย ไปศึกษาคุณภาพของความเป็นไทยว่ามันคืออะไร ความมีน้ำใจของคนไทย ประเพณีวัฒนธรรมของคนไทยมีอะไร เพราะถ้าเราไม่กลายพันธุ์ เราก็จะไปได้ดี ความรู้ที่ดีได้วิชาศาสตร์ต่างๆ เอาไปใช้ให้ดี มันก็จะเป็นแนวทางที่ดี ไปศึกษาว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านว่าอย่างไรบ้าง เราเน้นเท่านี้
    น้องวิ : ข้าพระพุทธเจ้ามาจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ฯ 57 จังหวัดเพชรบูรณ์ค่ะ วันนี้หนูก็ดีใจมากค่ะที่ได้มาเข้าร่วมโครงการอบรมจิตอาสานี้ค่ะ และก็หนูก็เป็นชาวเขากลุ่มเล็กๆ ที่ได้รับโอกาสจากพระองค์ ได้รับการศึกษาที่ดีค่ะ เพราะว่าแต่ก่อนเขาจะชอบพูดว่า ถ้าในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคตแล้วรัชกาลที่ 10 ไม่ชอบคนม้ง แล้วก็จะประหารชีวิตคนม้ง ไล่พวกหนูออกจากประเทศ หนูกลัวมากเลยค่ะ กลัวจะไม่มีประเทศอยู่ ไม่มีที่เรียนหนังสือ แต่เวลาผ่านไปพวกหนูก็ยังอยู่ดีมีสุข และก็ยังมีแผ่นดินให้อยู่ค่ะ และก็หนูขอสัญญาค่ะว่าหนูจะเป็นเด็กดี หนูจะตั้งใจเรียน จะนำความรู้และโอกาสดีๆ ที่หนูได้รับไปส่งต่อให้กับพี่น้องในหมู่บ้าน หนูอยากจะเป็นครูค่ะ เพราะว่าหนูอยากไปพัฒนาหมู่บ้านตัวเอง หนูอยากให้เด็กๆ ในหมู่บ้านมีโอกาสแบบหนูทุกคนค่ะ แล้วก็อยากให้ทุกคนในหมู่บ้านมีชีวิตที่ดีขึ้นค่ะ เพราะว่าหมู่บ้านหนูอยู่ห่างไกล และก็เป็นถิ่นทุรกันดาร ไฟฟ้าเพิ่งมาถึงได้ไม่กี่ปี สัญญาณโทรศัพท์ก็เพิ่งมีได้ไม่กี่ปีเหมือนกันค่ะ และก็น้องๆ ที่หมู่บ้านขาดแคลนการเรียนรู้ ไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใช้ หนูอยากเรียนครูเพื่อกลับไปพัฒนาน้องๆ ที่อยู่ที่หมู่บ้าน
    ในหลวง : ทุกคนเป็นคนไทย มีสิทธิ์มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ในแผ่นดินนี้ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด เราทุกคนคือคนไทย อย่าไปคิดว่าหนูเป็นคนอื่น หนูเป็นคนไทย เป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย หนูต้องนำความรู้ที่ได้รับไป ไปใช้ให้เกิดประโยชน์
    เยาวชนที่เคยพระราชทานขอถ่ายเซลฟีเมื่อวันที่ 1 พ.ย. :กระหม่อมศึกษาอยู่โรงเรียนวัดราชบพิธ ก็มีโอกาสเจอพระองค์ท่านบ่อยครั้ง เหตุการณ์ตอนนั้นอาจยังไม่สามารถขอถ่ายรูปกับพระองค์ได้ เมื่อก่อนสมัยที่เรียนอยู่วัดราชบพิธ สมเด็จพระสังฆราชก็อบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี แต่พอเราโตมาในยุคโซเชียลฯ ก็มีข่าวใส่ร้ายพระองค์มากเหลือเกิน มันก็มีข่าวลือข่าวใส่ร้ายให้พระองค์เยอะแยะ กระหม่อมก็เคยคิดลบกับพระองค์ จนในชีวิตกระหม่อมมีโอกาสได้พิสูจน์ที่สนามหลวง จึงมีโอกาสได้รับรู้พระเมตตาของพระองค์ที่ทรงมีต่อเยาวชนไทย
    ในหลวง : ข่าวดีก็มีได้ ข่าวไม่ดีก็มีได้ และก็พวกเราต้องไปแยกแยะกันเองว่าอะไรเป็นข่าวดีหรือข่าวไม่ดี ไอ้เราก็ไม่ได้เคยโฆษณาตัวเองว่าดีหรือไม่ดี มันก็อยู่ที่พวกเราทุกคนตัดสินเอาเอง แต่สิ่งที่ขอก็คือ ขอให้เราชั่งใจให้ดีเป็นใช้ได้ ได้รับข่าวดีก็ต้องถามว่าอะไรมันดี ข่าวลบมันไม่ดีก็ต้องดูว่ามันจริงหรือไม่ ก็เป็นของธรรมดาตั้งแต่สมัยเป็นสมเด็จพระบรมฯ มา ก็มีข่าวไม่ดี แม้แต่เป็นใครก็ต้องพูดดีบ้างไม่ดีบ้างเป็นของธรรมดา เราไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองในเรื่องใดๆ ทั้งนั้น ก็คนที่อยู่ก็เป็นคนตัดสิน พิสูจน์เอาเองว่าเราดีหรือไม่ดี เด็กรุ่นใหม่ๆ ก็ดูเอาเอง แต่ขอให้เราเป็นเด็กดี เป็นคนดีเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติก็สบายใจแล้ว
    เยาวชนที่เคยพระราชทานขอถ่ายเซลฟีเมื่อวันที่ 1 พ.ย. : ก่อนหน้านี้อาจมีภาพกระหม่อมที่เคยถ่ายกับท่านนายกรัฐมนตรี และนักการเมืองอีกหลายคน อาจจะทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขุ่นเคืองพระราชหฤทัย กระหม่อมอยากจะขอพระราชทานอภัยโทษด้วยพระเจ้าค่ะ
    ในหลวง : ถ่ายกับใครเล่า เราเป็นวัยรุ่นอยากจะไปถ่ายกับใครมันก็เป็นเรื่องของเรา เราก็อยากถ่ายกับนักแสดงดาราเหมือนกันตอนเด็กๆ เราก็อยากจะถ่ายเหมือนกัน ถ่ายกับคนดีบ้าง คนไม่ดีบ้างมันก็เป็นของธรรมดา ไม่เห็นน่าเดือดร้อนอะไรเลย สบายใจได้ เปิดใจให้กว้าง แต่นึกถึงประเทศชาติ นึกถึงว่าสถาบัน สถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนมันแยกจากกันไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นถึงบอกว่าไปดูรัชกาลที่ 9 ท่านอุตส่าห์ทำไว้ให้ตั้ง 70 กว่าปี พวกน้องๆ บางทีก็ลืมท่านไป เพราะว่าแม้แต่รุ่นสมเด็จพระราชินีนี้ก็เกิดไม่ทันที่เห็นท่านเยี่ยมราษฎร มันขาดช่วงไป น้องๆ จะต้องไปช่วยต่อช่วงไม่ให้มันขาด ช่วยกันไปศึกษาไปหาเหตุผล ไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่าเบื่อ
    ขวัญ : หนูขอสัญญาว่าจะไม่เนรคุณต่อแผ่นดิน จะบอกรักในหลวงด้วยการทำความดีตลอดชีวิต
    ในหลวง : ขอบคุณที่ให้กำลังใจมาตลอด ขอให้หนูตั้งใจทำความดีและรักประเทศชาติบ้านเมือง.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"