น่าแปลกอยู่เหมือนกันสำหรับการแสดงความเห็นต่างในขบวนการที่เรียกตัวเองว่าประชาธิปไตย เมื่อการโพสต์ระบายบนหน้าเฟซบุ๊กของ "การ์ดเสื้อแดงรุ่นใหญ่" อย่าง "สมบัติ ทองย้อย" กลับต้องเจอสภาวะทัวร์ลง พร้อมถูก "บูลลี่" ด้วยการย้อนตรรกะเรื่องผลประโยชน์ ตามด้วยการถูกสวนกลับด้วยการไล่ "ลุงหนุ่ม" กลับบ้าน เลิกยุ่งกับม็อบเด็ก ส่งผลให้คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาในยุคการต่อสู้ของเสื้อแดงอย่างเขา อาจเกิดอาการน้อยใจได้ แต่คงไม่ท้อหนีหายไปจากวงการ ไม่เท่านั้น เหล่าคอมเมนต์ต่างๆ ยังตั้งข้อหาให้ "หัวหน้าการ์ดเสื้อแดง" ว่าไม่ควรใช้ท่วงทำนอง "เขาเล่าว่า" อ้างถึงพวกเดียวกันเอง เพราะจะเป็นการ "ยื่นดาบให้สลิ่ม" ทิ่มแทง "ม็อบราษฎร" ได้ง่ายๆ   สรุปรวมแล้วกลายเป็นข้อหาที่ฉกาจฉกรรจ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับคนที่ปากบอกเสมอว่าต่อสู้กับเผด็จการเหมือนกัน 

            แต่เหนืออื่นใดเมื่อมี "ควัน" ย่อมต้องมี "ไฟ" และคนวงในอย่าง "สมบัติ" เองน่าจะรู้ "หิ้นข่าว" ในเรื่องของการยกเครื่องระบบ รปภ. ในการชุมนุมของ "ม็อบ" Episode ถัดไปที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า เพราะที่ประจักษ์ชัดคือจำนวนผู้เข้าร่วมการชุมนุมน้อยลง โดยเฉพาะที่ห้าแยกลาดพร้าวทั้งสองครั้งถือได้ว่าจำนวนลดฮวบฮาบจนเกินคาด ขณะที่การ์ดอาชีวะเดินกันขวักไขว่ ยิ่งเมื่อ "หน่วยข่าว" เริ่มแทรกซึมจนพบว่าเมื่อการชุมนุมขยับไปไหนการข่าวรั่วตลอด แผนการปรับทัพจึงต้องทำ และอาจไม่จำเป็นต้องใช้การ์ดอาสาจำนวนมาก แต่เลือกใช้มืออาชีพที่มีการตรวจสอบประวัติ เพื่อการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบในรูปของบริษัท จนมีการไปผูกโยงกับ "105UNIT ชมรมการรักษาความปลอดภัยและการใช้อาวุธปืน" ที่ FC ของ "สมบัติ ทองย้อย" มาให้เบาะแสไว้ใต้คอมเมนต์ ด้วยการเปรียบเทียบกับ "แพท" ติดเครื่องแบบ แต่ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเรื่องของข้อมูล "กระซิบ" ที่ไม่มีใครฟันธงจนกว่าการชุมนุมใหญ่ในเวทีครั้งต่อไปจะเกิดขึ้น

            กระนั้น ยังมีความพยายามลากโยงถึงบริษัท รปภ. ที่เมื่อครั้งสมัย "ทักษิณ ชินวัตร" ใช้บริการตอนลงการเมืองใหม่ๆ โดยต้องไปลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งในหลายจังหวัด  ซึ่งพบว่าเป็นเอกชนที่ผูกปิ่นโตกับพรรคการเมืองที่โดนยุบไปแล้ว หรือแม้กระทั่งตอนนี้ "หัวเรือใหญ่" ป.ปลา ก็ยังแว่บๆ อยู่หลังกลุ่มการเมืองที่ไปช่วยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.ในพื้นที่ห่างไกลอยู่หลายครั้ง แถมคนในครอบครัวยังเป็น "แอคทิวิสต์" รุ่นใหญ่ ที่ได้เข้าสู่อำนาจรัฐในฐานะผู้จัดการกองทุนฯ ของรัฐแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นบริษัทนี้จริง คนที่น่าจะคุ้นเคยและรู้ไส้รู้พุงกันดี คงหนีไม่พ้น "ผู้กองมนัส" หรือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เพราะเมื่อครั้งที่ยังเดินใน "วงสีเทา" ธุรกิจในบริษัทการ์ดเฟื่องฟู ก็เคยตีคู่กับบริษัทนี้ ทำงานแบบดูโอ รับอานิสงส์คู่ในการดูแลความปลอดภัยให้กับอดีตนายกฯหนีคดีมาแล้ว ก่อนที่จะเกิดปรากฏการณ์ไม่ลงรอยกัน

            ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข และเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาที่เสียชีวิตลงอย่างสงบ ด้วยวัย 79 ปี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 ธ.ค. หลังมีอาการป่วยด้วยโรคมะเร็ง "หมอมงคล" มีผลงานประจักษ์ชัดมากมาย โดยในช่วงดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุขได้ต่อสู้เรื่องสิทธิบัตรยา หรือซีแอล และการยกเลิกโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรคเปลี่ยนเป็นรักษาฟรีทุกโรค ทั้งนี้มีการจัดพิธีสวดอภิธรรมเพียงหนึ่งคืน ที่วัดปริวาสราชสงคราม ถนนพระราม 3 อย่างไรก็ตาม นพ.มั่นจิตต์ ณ สงขลา บุตรชาย นพ.มงคล ระบุไว้ใน เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า นพ.มงคลได้สั่งเสียให้จัดงานสั้นๆ อย่างเรียบง่าย และจะบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล.

 วายุ เวฬุวัน