คนกรุงเลื่อนใช้รถเมล์ใหม่


เพิ่มเพื่อน    

         ส่อวุ่นอีกแล้ว สำหรับแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่กระทรวงคมนาคม มีแผนจะดำเนินโครงการนี้ให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยคาดหวังว่าประชาชนจะได้นั่งรถเมล์ใหม่ในเร็วๆ นี้ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อความหวังไม่เป็นไปตามที่ปรารถนา จากที่มีเป้าหมายจะส่งมอบรถเมล์ใหม่ล็อตแรกได้ภายในเดือนมีนาคม 2564 ได้เลื่อนเป็นพฤษภาคม 2564

            โดย ”ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม ได้ออกมาเปิดเผยถึงแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) รวบรวมข้อมูลที่เป็นความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อชี้แจง ก่อนที่จะสรุปเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

            พร้อมทั้งยอมรับว่าขณะนี้แผนฟื้นฟู ขสมก.มีความล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ โดยหาก ครม.มีมติอนุมัติแผนฟื้นฟู ขสมก.ภายในเดือน ธ.ค.63 คาดรถโดยสารปรับอากาศไฟฟ้า (EV) ล็อตแรกจำนวน 400 คันจะเริ่มส่งมอบได้ภายในเดือน พ.ค.2564 ซึ่งเลื่อนจากกำหนดเดิมที่จะส่งมอบในเดือน มี.ค.2564 แต่หาก ครม.อนุมัติหลังจากเดือน ธ.ค. กำหนดส่งมอบรถจะต้องเลื่อนออกตามไปด้วย

            และจากที่สำนักเลขาธิการ ครม.ได้มีการสอบถามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และกระทรวงการคลัง ได้มีความเห็นเพิ่มเติม อย่างเช่น คลังยังมีความเห็นเรื่องการบริหารหนี้กว่า 1.2 แสนล้านบาท จะทำอย่างไร ซึ่งงานนี้เจ้ากระทรวงอย่างศักดิ์สยามตอบอย่างชัดเจนว่า กระทรวงคมนาคมพร้อมชี้แจงในทุกประเด็น เพื่อเร่งนำเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติ เนื่องจากหากยิ่งล่าช้า ขสมก.จะยิ่งขาดทุนสะสมมากขึ้น ขณะที่ประชาชนจะยังต้องใช้บริการรถโดยสารที่มีสภาพเก่า และมีปัญหาด้านมลพิษและก่อให้เกิด PM 2.5

            และยังระบุว่า บางเรื่องอาจจะมีข้อมูลที่ไม่ทันสมัย เพียงแต่อยากให้เร่งรัด เพราะเสนอเรื่องไป ครม.กว่า 1 เดือนแล้ว และผมได้ชี้แจงต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้รับทราบแล้ว ซึ่งนายกฯ ได้เร่งรัดให้ทางเลขาฯ ครม.เร่งดำเนินการ สลค.รีบดำเนินการ

            สำหรับแผนฟื้นฟู ขสมก. กระทรวงคมนาคมมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการ และลดภาระค่าครองชีพของประชาชน รวมถึงต้องการที่จะบริหารจัดการองค์กรให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ไม่เป็นภาระของภาครัฐ โดยจะมีการเช่ารถโดยสารปรับอากาศไฟฟ้า (EV) แบบชานต่ำ จำนวน 2,511 คัน, นำระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ, จัดเก็บค่าโดยสารในอัตรา 30 บาท/คน/วัน ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวและจำนวนเส้นทาง มีการปรับปรุงเส้นทางเดินรถไม่ให้ทับซ้อนกัน  และเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ จำนวน 162 เส้นทาง

            ซึ่งรูปแบบของการเช่าจ้างวิ่งตามระยะทาง จะช่วยให้ ขสมก.ไม่ต้องแบกรับต้นทุนค่าซ่อม ค่าเสื่อมสภาพของรถโดยสาร เมื่อเทียบกับแนวทางจัดซื้อรถโดยสารที่จะกลายเป็นทรัพย์สินของ ขสมก. แต่จะมีค่าซ่อม ค่าเสื่อม อย่างเช่นในปัจจุบันที่ ขสมก.มีรถโดยสารสภาพเก่า และกำลังจะไม่มีอะไหล่ในการซ่อมบำรุง

            ดังนั้น การจัดหารถโดยสารปรับอากาศ เช่ารถ EV 2,511 คัน โดยจ่ายค่าเช่าตามกิโลเมตรบริการ เมื่อบวกกับรถโดยสาร NGV ที่ ขสมก.ดำเนินการจัดซื้อมาก่อนหน้านั้น 489 คัน ก็จะรวมรถโดยสารให้บริการ 3 พันคัน โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุน นอกจากนี้ยังมีแผนจ้างเอกชนเดินรถ 1,500 คัน โดยจ่ายค่าเช่าตามกิโลเมตรบริการ ซึ่งจะจ่ายค่าเช่าจากรายได้ค่าโดยสาร ทรัพย์สินจะไม่ใช่ของ ขสมก. ทำให้ไม่ต้องแบกรับต้นทุนในการดูแลบำรุงรักษา

            เมื่อดูจากแผนฟื้นฟูฉบับเดิมที่ผ่านการเห็นชอบจาก ครม.ในปี 2562 จะเห็นได้ว่า ขสมก.จะหยุดขาดทุน เป็นบวกภายใน 5 ปี แต่แผนปรับปรุงใหม่นี้จะใช้เวลา 7 ปี เนื่องจากรายได้จากการจัดเก็บค่าโดยสารจะน้อยลง เพราะมีการปรับเป็นรูปแบบเหมาจ่าย เพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชน ซึ่งเป็นประโยชน์โดยรวม ก็ต้องมาลุ้นกันต่อว่าเดือน พ.ค.ปี 64 จะมีการส่งมอบรถเมล์ล็อตแรกกันหรือไม่ ก็ได้แต่หวังว่าประชาชนคนใช้บริการรถสาธารณะจะมีโอกาสได้นั่งรถเมล์ใหม่กันเสียที หรือจะเป็นแค่แม่สายบัวแต่งตัวรอ แล้วก็รอมาร่วมทศวรรษกันแล้วนะท่าน.

กัลยา ยืนยง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"