ฤดูหนาวอันแสนสั้น


เพิ่มเพื่อน    

                                          (1)

                ช่วงที่ผ่านมา...ก็พอได้ หนาวว์ว์ว์ กันมั่ง แม้นี้ดๆ โหน่ยๆ ก็ยังดี คือไม่ถึงกับต้องรื้อเสื้อหนาว เสื้อกั๊ก ออกมาสวมๆ ใส่ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องเปิด แอร์กี่ กันแบบตลอดชั่วนิจนิรันดร์กาล หรือพอทำให้สีสัน บรรยากาศ ความเป็นไปของบ้านเมืองในช่วงนี้ ไม่ถึงกับต้องเคร่งๆ เครียดๆ ตึงไม้-ตึงมือ จนเกินไป...

                                                      (2)

                ส่วนบรรดาผู้ที่ชอบอากาศหนาว ชอบเอาเสื้อโน่น เสื้อนี่ ออกมาสวมทับกันไปเป็นชั้นๆ เผลอๆ บางรายยังชอบเอาอะไรมารัดคอ ผูกผ้าพันคอ แม้ไม่ถึงกับหนาวมากมายซักเท่าไหร่ ถ้าหากมีเรี่ยว มีแรง พอที่จะดิ้นรนกระเสือกกระสนไปตามมุมโน้น มุมนี้ ซอกนั้น ซอกนี้ ของประเทศไทย ก็น่าจะพอได้หนาว ได้สั่นไป-สั่นมา กันไปตามสภาพ เพราะเห็นว่า...แถบที่ค่อนข้างหนาวโดยปกติอย่างเป็นพิเศษ บนที่สูงๆ หรือภูเขาสูงๆ อย่างยอดดอยอินทนนท์ ภูกระดึง ภูชี้ฟ้า ฯลฯ อะไรประมาณนั้น อุณหภูมิอากาศอาจหดลงเหลือแค่เลข 0 พอได้เห็นแม่คะนิ้ง พ่อคะน้า กันไปตามมี-ตามเกิด...

                                                     (3)

                แล้วเห็นว่าพวกเด็กๆ...หรือ ม็อบเด็กๆ เขาทำท่าว่าจะหยุดฮึก หยุดเหิม หยุดม็อบกันไปซักพักใหญ่ๆ หรือกะค่อยไปชุมนุมกันในช่วงปีหน้าโน่นเลย ซึ่งถ้าหากเป็นไปเช่นนั้น ตามนั้น ก็ต้องถือว่าน่าจะช่วยให้สีสัน บรรยากาศต่างๆ น่าจะโล่งๆ โปร่งๆ พอได้มีเวลาหายใจ-หายคอได้มั่ง หรือพอได้เจียดเวลาไปนั่งรับประทาน บุฟเฟต์ มื้อละ 2,000 ได้อย่างสบายอก-สบายใจ ไม่ต้องเหลียวหน้า-เหลียวหลังอะไรมาก หรือไม่ถึงขั้นต้องขนตู้คอนเทนน่ง คอนทอนเนอร์ มาตั้งกลางเมืองหลวงชนิดเป็นแท่งๆ ด้ามๆ อันเป็นอะไรที่ออกจะขัดหู ขัดตา ใครต่อใครอยู่พอสมควร แม้ว่าจะสามารถขัดอก ขัดใจ พวกเด็กๆ ได้มั่งเล็กๆ น้อยๆ...

                                                      (4)

                สรุปเอาเป็นว่า...หนาวนี้ น่าจะพอได้สดใส ชื่นมื่น กันอยู่ตามสมควร อย่างน้อย...ก็น่าจะดีกว่าบรรดาพวกฝรั่ง มังค่า ทั้งหลาย ที่ออกไปทาง งานกร่อย กันไปเป็นรายๆ โอกาสที่จะเฉลิมฉลองคริสต์มาส ไปจนถึงเคาต์ลาว เคาต์ดาวน์ ในช่วงปีใหม่โน่นเลย ออกจะติดๆ ขัดๆ กันไปมิใช่น้อย เนื่องจากอุณหภูมิอากาศในช่วงหน้าหนาวนั้น ค่อนข้างรู้เห็น เป็นใจ ให้กับการแพร่ระบาดของท่านเชื้อไวรัส COVID-19 เอามากๆ ติดเชื้อกันวันละเป็นพันๆ หมื่นๆ เด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ไปแล้วไม่รู้จะกี่แสน กี่ล้าน เลยต้องล็อกดาวน์ ต้องเว้นระยะห่าง หรือต้องทำให้บรรยากาศหน้าหนาว ฤดูหนาว อันเป็นอะไรที่เหมาะกับการเฉลิมฉลอง เอามากๆ เรียกว่า...ตั้งแต่ยุค บูชาไฟ ของคนโบร่ำโบราณ หรือตั้งแต่ก่อนยุคพระเยซูจะทรงถือกำเนิด จึงมีอันต้องกร่อย ต้องกรอบ ไปตามสภาพ...

                                                     (5)

                แต่ก็เอาเป็นว่า...ไม่ว่าจะเฉลิมฉลอง ไม่ว่าจะสนุกสนาน รื่นเริง บันเทิง กันไปในรูปไหน แบบไหน ยังไงๆ...ในช่วงปีหน้า ฟ้าใหม่ ช่วงปีฉลู หรือปีวัว คงต้องหาทางเพิ่มความระมัดระวังเอาไว้ให้จงหนัก เพราะอะไรต่อมิอะไรท่าทางมันจะลงๆ กันในช่วงปีที่ว่านี้ หรือช่วงปีพุทธศักราช 2564 หรือคริสต์ศักราช 2021 กันแบบออกจะหนักหนา สาหัส เอามากๆ ไม่ว่าในแง่การเมือง เศรษฐกิจ ไปจนถึงการทหาร เอาเลยก็ไม่แน่ อันเนื่องมาจาก ผลพวง หรือ ผลกระทบ ที่มันอัดๆ อั้นๆ มาตลอดทั้งปี 2563 หรือ 2020 แบบชนิดไม่ต่างอะไรไปจาก ระเบิดเวลา ทำนองนั้น...

                                                        (6)

                การทุ่มเทเงินทอง...เพื่อรักษา เยียวยา ปัญหาสุขภาพของผู้คนที่ต้องเจอกับ โรคระบาด มาตลอดทั้งปี โดยบรรดารัฐบาลต่างๆ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ ชนิดรวมๆ แล้ว...ไม่น่าจะต่ำกว่า 19 ล้านล้านดอลลาร์เป็นอย่างน้อย ยังไงๆ...ย่อมต้องส่งผลให้รัฐบาลแต่ละรัฐบาล หนีไม่พ้นต้อง กรอบเป็นข้าวเกรียบ ไปเป็นแถบๆ ตัวเลข หนี้สิน ของแต่ละประเทศ ที่เคยสูงๆ มาโดยตลอด เห็นว่า ณ จุดนี้ ณ วินาทีนี้ น่าจะปาเข้าไปไม่น้อยกว่า 200 ล้านล้านดอลลาร์ มากกว่ารายได้จากผลผลิตมวลรวมในแต่ละปี กว่า 200 เปอร์เซ็นต์เข้าไปแล้ว หรือไม่ว่าจะผลิตกันในแบบไหน อย่างไร โอกาสที่จะเหลือเงินเอาไว้ใช้หนี้ ไปตามระบบตามช่วงระยะกำหนดการ แทบจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย...

                                                     (7)

                หรือพูดง่ายๆ ว่า...โอกาสที่จะก่อให้เกิดอาการ หน้ามืด ไปทั่วทั้งประเทศ และในแต่ละประเทศ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ และด้วยความหน้ามืด อันอาจนำไปสู่อาการไร้สติ ไร้ปัญญา ไร้ความอดทน อดกลั้น ไร้ขันติธรรม จนอาจส่งผลให้ สามัคคีธรรม ในแต่ละประเทศ เกิด ปัญหา ขึ้นมาได้ไม่ยาก หรืออาจทำให้ “วัว” ที่กำลังจะมาในปีหน้า กลายเป็น วัวกระทิง ที่ตามไล่ขวิด ไล่ชน ใครต่อใคร ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ ดังนั้น...ระหว่างที่พอได้โล่งๆ โปร่งๆ แม้ในช่วงระยะสั้นๆ ก็เถอะ คงต้องหันมานั่งคิด นอนคิด คิดแล้ว-คิดอีก กันให้หนักๆ เข้าไว้ ด้วยเหตุเพราะ ความประมาท...คือหนทางแห่งความตาย นั่นแล...

                            ---------------------------------------------------------------

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"