"วรชัย" แจงยิบเหตุผลเพื่อไทยหนุน สว.ก๊อง เพราะไม่เคยย้ายข้าง-เป็นทนายช่วยดูแลคดี ปัดโต้กลับ "จตุพร" ขอให้ประชาชนตัดสินเอง ชี้ถูกใส่ร้ายเอี่ยวคดีบอส เป็นแค่เจ้านาย "จารุชาติ" พยานปากเอกถูกรถชนเสียชีวิต เผย "วิชา" ไม่เคยเรียกสอบสวน 

12 ธ.ค.63 - นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งในการหาเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ. เชียงใหม่ ระหว่างพรรคเพื่อไทยที่สนับสนุนนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ ส.ว.ก๊อง กับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่สนับสนุนนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ซึ่งผู้สื่อข่าวสอบถามถึงสาเหตุที่แท้จริงเกี่ยวกับการออกจากพรรคเพื่อไทยของนายบุญเลิศ ถูกทอดทิ้งให้ออกจริงหรือไม่

นายวรชัย กล่าวว่า ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาเราจะเห็นคนที่ออกจากพรรคเพื่อไทยไปเยอะ ไม่ว่าจะเป็นคนที่โดนคดี หรือออกไปเพื่อตั้งพรรคการเมืองเอง มีอยู่หลายพรรค จากจำนวน ส.ส. ที่ได้มา พรรคพลังประชารัฐได้บัญชีรายชื่อเยอะ เขตได้น้อยมาก รัฐธรรมนูญกำหนดอย่างนี้ทำให้คนย้ายออกจากพรรคเพื่อไทยไปเยอะ เรื่องการเลือกตั้งเชียงใหม่ เกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา ที่เชียงใหม่ภาพที่ออกมาว่าใครไปช่วยใครมันเห็นชัด วันนั้นเราจะเห็นว่าคนที่เคยอยู่ในพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะลงเลือกตั้งท้องถิ่นหรือระดับชาติก็ไปร่วมช่วยเหลือพรรคที่ตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทยหลายคนด้วยกัน ภาพที่ออกมาเห็นชัด ความรู้สึกของประชาชนที่เห็นถามทำไมคนนั้นไปช่วยพลังประชารัฐ

นายวรชัย กล่าวต่อไปว่า พรรคเพื่อไทยมีมติให้นายพิชัย เบอร์ 1 เป็นผู้สมัครของพรรค มีการคัดเลือกยึดหลัก 1.เป็นคนที่ยึดหลักไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ไปร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐ พรรคการเมืองที่ตรงกันข้ามกับประชาธิปไตย สืบทอดอำนาจ เราเห็นชัดเจนกันอยู่ แล้วนายกท้องถิ่นไหนไปช่วยพรรคพลังประชารัฐ เราเห็นว่าเชียงใหม่ คนที่เคยสมัคร เคยได้ตำแหน่งจากการลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย รูปออกไปทั่ว ความรู้สึกประชาชนและพรรคเพื่อไทยก็เห็นอย่างนั้น และไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ฉะนั้นพรรคเพื่อไทยก็เลือกคนที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย ยึดมั่นอยู่กับพรรคเพื่อไทยตลอดเวลาไม่ยอมเปลี่ยนแปลง นายพิชัยก็อยู่มาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน ถึงเพื่อไทยไม่เปลี่ยนแปลง

2.ส.ว.ก๊อง ยังเป็นทนายให้พี่น้องพวกเราที่ถูกดำเนินคดีหลายคน เป็นทนายคนจนดูแลช่วยเหลือคดีต่างๆ อย่างตนถูกดำเนินคดี ติดคุก ก็ยังไม่ไปไหนเลย ก่อนเลือกตั้งที่ผ่านมาก็มีการเจรจาซื้อตัวคนของพรรคเพื่อไทยหรือพรรคอื่น 30-40 ล้าน แต่คนที่ไม่ยอมไปร่วมก็ติดคุก อย่างตนก็ติดคุกมาแล้ว ตนถือว่าการต่อสู้ต้องยึดหลัก ไม่ทรยศขายศักดิ์ศรีของตัวเอง ไม่ยอมขายอุดมการณ์ พรรคเพื่อไทยก็เลือกอุดมการณ์ คนที่ยึดมั่นต่อพรรค

ถามถึงเหตุที่นายบุญเลิศไม่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย นายวรชัย กล่าวว่า นายบุญเลิศออกจากพรรคไปนานแล้ว ไม่ทราบว่าสาเหตุอะไร แต่ตอนเลือกตั้งที่ผ่านมา ภาพอย่างที่คนเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น คนก็เห็นภาพเป็นอย่างนั้น ในการพิจารณามีองค์ประกอบส่วนนี้ด้วย การช่วยเหลือพรรคที่ตรงกันข้ามต่อท่ออำนาจ บางทีไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ แต่ไปช่วยเหลือเกื้อกูลให้การสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ อย่างเที่ยวที่แล้วพรรคพลังประชารัฐได้รับการสนับสนุนจากนักการเมืองท้องถิ่นที่ จ.เชียงใหม่ ได้เสียงถึง 2 แสน ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 4 คน ใครเป็นผู้สนับสนุนตามภาพที่เห็น ตนไม่อาจฟันธง แต่ภาพที่เห็นมันฟ้องเด่นชัด จนพี่น้องเสื้อแดงออกมาพูดแถลงข่าว

"สำหรับคุณจตุพรไปช่วยเหลือคุณบุญเลิศก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณจตุพรกับบุญเลิศ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวกัน แต่ว่าพรรคเพื่อไทยเขาสนับสนุนใครต้องดูจุดยืน ยึดมั่นในจุดยืนอุดมการณ์ประชาธิปไตยหรือไม่ ถ้ามีอุดมการณ์นี้ยังอยู่กับพรรค ไม่ไปไหนไม่ทอดทิ้งพรรคเวลาพรรคถูกกระทำ พวกเราถูกกระทำด้วยความยากลำบากมา ยุบพรรคมาหลายรอบหลายครั้ง ติดคุกกันมาหลายคน เพราะฉะนั้นเราก็ยืนอยู่จุดนี้ ผมก็ไม่ไปไหน แล้ว ส.ว.ก๊อง อยู่กับพรรคมาตลอดเวลา ไม่เคยย้ายข้างย้ายพรรค แล้วก็ไม่เคยไปสนับสนุนฝ่ายเผด็จการที่ต่อท่ออำนาจจนมาถึงวันนี้" นายวรชัย กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่นายจตุพรยกความเกี่ยวข้องกับคดีบอส วรยุทธ มาโจมตีด้วย นายวรชัย กล่าวว่า คดีบอสเกิดขึ้นเมื่อปี 2555 มาพูดถึง ส.ว.ก๊อง ปี 2563 เพราะนายจารุชาติ มาดทอง (พยาน) มาสมัครทำงานกับ ส.ว.ก๊อง เมื่อปีสองปีที่ผ่านมานี้เอง รับนายจารุชาติมาทำงานขับรถรับส่งนักฟุตบอล เผอิญเหตุการณ์อัยการสั่งไม่ฟ้องบอส ประจวบกับเหตุนายจารุชาติขับรถชนตาย มีการพิสูจน์ของตำรวจหลายคนสอบสวนผ่าศพ ศพนายจารุชาติไม่ได้เผาต้องเอามาผ่าอีก เพื่อที่จะเอาความผิดให้ ส.ว.ก๊อง ให้ได้ เพราะอยู่เพื่อไทยจะสมัครนายก อบจ. ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่ให้เผา ต้องเอามาผ่าพิสูจน์ที่ รพ.เชียงใหม่ ผ่าแล้วยังยืนยันชัดเจนเป็นเรื่องอุบัติเหตุ ตำรวจทำคดีตามความเป็นจริง เรื่องนี้ถ้า ส.ว.ก๊อง ผิด ทำไมไม่ถูกแจ้งข้อหา เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นี่คือความอยุติธรรม เขาไม่ได้ทำผิดในประเด็นนี้ เป็นการเชื่อมโยงใส่ร้ายป้ายสี

ถามถึงความเกี่ยวข้องของ ส.ว.ก๊อง ในสำนวน ตามการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบคดีบอสชุดนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน นายวรชัย กล่าวว่า นายวิชาพาดพิงถึงหรือเปล่าว่าต้องมีการสอบสวน ส.ว.ก๊อง ไม่เคยมีการเรียกไปสอบสวนเลย ถ้านายวิชาพาดพิงถึงใคร เห็นใครน่าสงสัยเขาจะสอบทันที แต่ ส.ว.ก๊อง ไม่เคยถูกเรียกไปสอบแม้แต่ครั้งเดียว เพราะฉะนั้นจะอ้างนายวิชาไม่ได้ สำนวนอาจจะพาดพิงเป็นนายจ้างของนายจารุชาติแค่นี้ แล้วเอาไปพูดขยายใหญ่โต ก่อนหน้าสมัครนายก อบจ. ทำไมไม่พูดแต่แรก ทำไมเอามาพูดตอนนี้ นี่คือการใส่ร้ายป้ายสีที่สกปรกที่สุด

สุดท้ายถามถึงในฐานะเป็น นปช. เหมือนกัน ได้พูดคุยส่วนตัวกับนายจตุพรบ้างหรือไม่ นายวรชัย กล่าวว่า ตนไม่มีอะไรส่วนตัวกับนายจตุพร ตนยังยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชนที่ออกมาต่อสู้ ยังยึดมั่นในหลักประชาธิปไตย ไม่มีวันทรยศต่ออุดมการณ์และตัวเอง แต่สำหรับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่เคยต่อสู้มาด้วยกัน ใครจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของคนๆ นั้น ประชาชนเป็นคนตัดสินว่าใครยึดมั่นในหลัก ใครไม่ทรยศ ประชาชนตัดสินเอง ตนจะไม่ฟันธงชี้ใครทั้งนั้น

• 'พ่อบ้านม็อบ' ประกาศขอพักเที่ยวปีใหม่ก่อน
• 'ผู้พันสู้' ลั่นจุดยืนสู้ในสภา ไม่เอาม็อบข้างถนน
• ส่อผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ! 'จตุพร' ปลุกชาวเชียงใหม่ตาสว่างลุกขึ้นสั่งสอน 'เจ๊'
• ทันควัน 'ก่อแก้ว' แผล็บๆ โวย 'จตุพร' ฟาดงวงฟาดงาใส่ตระกูลนายใหญ่
• 'แม้ว' โผล่ถี่! 
• ไม่เกรงใจแล้วนะ 'การ์ดแดง' ตอบแบบตรงๆ
• 'พี่คนดี' ร่ายกวีแขวะ 'กวิ้น' อยากเป็นเจ๊ เหรอหนู พี่ดูออก
• เป็นเอามาก! 'โตโต้' จะเลียนแบบ 'เวียดกง'