ไปกันใหญ่! "ปิยบุตร" ปราศรัยเลือกนายกฯ อบจ.ที่บึงกาฬ บอกชาวบ้านใครแจกเงินขอให้รับแต่อย่าเลือก ลั่นไม่ต้องรอ 10 ปี แต่เลือกคนของคณะก้าวหน้าก็เหมือนได้ "ทอน-บุตร" บริหารท้องถิ่นทั่วประเทศ แถมไล่ "บิ๊กตู่" ไปในตัว ไม่ต้องไปชุมนุม "จุตพร" ตอกเพื่อไทยเลือกมาได้ไงผู้สมัครพันคดีบอส กระทิงแดง ลั่นต้องไม่มีที่ยืนในแผ่นดินนี้
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เดินทางไปปราศรัยช่วยผู้สมัครจากคณะก้าวหน้า หาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โดยนายปิยบุตรปราศรัยว่า ความเป็นมาที่พวกเรามาเป็นคณะก้าวหน้า และการมารณรงค์สู้ศึกชิงนายก อบจ.ในวันนี้ ต้องเท้าความย้อนไปตั้งแต่สมัยตั้งพรรคอนาคตใหม่ เชื่อว่าหลายคนที่นี่กาให้พรรคอนาคตใหม่ เราทุกคนทราบดีว่าเราก่อตั้งขึ้นมาเพื่อหยุดการสืบทอดอำนาจของ คสช. และประยุทธ์ จันทร์โอชา วันนั้นเราเสนอตัวนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนายกรัฐมนตรี พี่น้องสนับสนุนเรามา 6.3 ล้านเสียง แต่ธนาธรเข้าไปในสภาได้ไม่ถึง 10 นาที ก็ถูกเตะออกมาด้วยศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนตนยังได้เข้าไปทำงานในสภา พยายามเป็นปากเสียง แต่ก็มีเวลาอยู่แค่ 10 เดือน 28 วัน ศาลรัฐธรรมนูญก็ยุบพรรคอนาคตใหม่ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 10 ปี เตะตนออกมาจากสภาอีกคน แต่แม้พวกตนจะถูกตัดสิทธิ์ออกมาแล้วก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆ ถ้าทำแบบนั้นคนที่อยากให้ยุบพรรคจะได้ใจ เราเลยตั้งคณะก้าวหน้าขึ้นมาสืบสานแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่ หนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยนการเมืองท้องถิ่น ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่น และผลักดันการกระจายอำนาจ เพราะฉะนั้นอย่าเสียดาย นี่ทำให้เราได้เดินทางมาพบกับพี่น้องได้ถึงที่ ได้ทุกที่
“วันนี้ก็มาอีกแล้ว มีพวกนักร้องเรียนไปร้อง กกต. ไปหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาทางสกัดกั้นพวกเราคณะก้าวหน้า ว่าเราทำตัวเสมือนพรรคการเมืองอีก และยังมีการมาปล่อยข่าวอีกว่าอย่าไปเลือกคณะก้าวหน้า เดี๋ยวคะแนนจะหายไปเปล่าๆ เพราะเดี๋ยวก็โดนคดีอีก ขอย้ำตรงนี้ว่า อย่าไปเชื่อ ยิ่งเป็นแบบนั้นพี่น้องยิ่งต้องมากาพวกเราให้มากๆ ให้ถล่มทลาย ยิ่งจะเป็นการช่วยไม่ให้พวกเราถูกคดี คนที่คิดจะทำลายพวกเรายิ่งต้องคิดหนัก ว่าจะยุบอีกกี่ครั้งประชาชนก็ยังสนับสนุนพวกเรา การยุบไปจะคุ้มหรือไม่ ทำให้เขาเห็นว่าเราไม่สยบยอมต่อพวกเขา” เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าว
นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า สิ่งหนึ่งที่เราจะสังเกตได้ คือช่วงนี้รัฐมนตรีต่างขยันมาก เดินทางไปจังหวัดต่างๆ ที่มีผู้สมัครเป็นเครือญาติกันลงสมัครเป็นนายก อบจ.แทบจะทุกสัปดาห์ ซึ่งไม่เป็นไร ต่างคนต่างทำหน้าที่ แต่สิ่งที่พวกเราต้องคิดกัน ว่าการที่คนในบ้านเดียวกันเป็นรัฐมนตรี อีกคนหนึ่งเป็น ส.ส. อีกคนเป็นนายกเทศมนตรี ฯลฯ เหมากวาดทุกตำแหน่งแบบนี้ เราเรียกว่าผูกขาดการเมืองหรือไม่ การที่ตระกูลหนึ่งสามารถยึดได้ทั้งจังหวัดทุกตำแหน่ง สำหรับเรานี่คือเรื่องที่เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย การเมืองไม่ควรถูกผูกขาดไว้ที่บ้านหลังใดหลังหนึ่ง
“หากการซื้อเสียงยังใช้ได้ผล ถ้ามีใครมาซื้อเสียงแล้วเรากาตามเขา ทำให้เขาได้รับเลือกตั้งไป เขาจะได้เข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่บริหารเงินแต่ละปีมีประมาณ 300-400 ล้านบาท ใครก็ตามที่เอาเงินมาแจก ขอให้พี่น้องตระหนักไว้เลยว่าที่เอาเงินมาแจกต้องอย่าไปกา ถ้าเขาได้มาเป็นนายก อบจ.เขาจะเอาคืนไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเท่า เพราะฉะนั้น ถ้าให้มาก็รับไว้ แต่ก็มองหน้าให้แม่นๆ ว่าเบอร์ไหน แล้วก็อย่าไปกา"
"ทอน"มาแน่ไม่ต้องรอ 10 ปี
นายปิยบุตรกล่าวว่า เราต้องการเปลี่ยนการเมืองแบบตระกูลให้เป็นแบบทั่วๆ ไป หลายคนบอกว่าอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าพี่น้องกาแบบเดิมก็จะไม่ได้แบบใหม่ เพราะฉะนั้นถ้าเราต้องการเปลี่ยนแปลงที่บึงกาฬ เราต้องกาหมายเลข 2 ให้เป็นนายก อบจ.บึงกาฬ แล้วจะได้การเปลี่ยนแปลงที่จังหวัดบึงกาฬแน่นอน
เขายังปราศรัยว่า พี่น้องหลายคนที่มีจิตใจรักประชาธิปไตย ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เยาวชนที่ชุมนุมอยู่ที่กรุงเทพฯ ทำเท่าไหร่ประยุทธ์ก็ไม่ออกเสียที พี่น้องอยากช่วยแต่ต้องทำมาหากิน ไม่สามารถเสียค่ารถไปได้ ตนคิดว่ามีวิธีง่ายๆ ที่สามารถใช้ในการแสดงออกได้ทุกคน นั่นคือถ้าพี่น้องอยากให้ประยุทธ์ออกจากตำแหน่ง ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปชุมนุมก็ได้ ขอเพียงในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ เข้าคูหากาเลือกภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น เบอร์ 2 ให้เป็นนายก อบจ. เพราะนี่คือคนที่ธนาธรและตนสนับสนุนให้ลงที่นี่ ถ้าพี่น้องร่วมกันกาให้มากๆ จนถล่มทลาย นั่นก็คือการส่งสัญญาณไปดังๆ แล้วว่าเราไม่เอาประยุทธ์
“เพราะฉะนั้น ถ้ากาให้คณะก้าวหน้า พี่น้องจะได้การเมืองแบบใหม่ๆ ได้เปลี่ยนตัวนายก อบจ.เสียที นอกจากนั้นยังได้ส่งสัญญาณว่าคนบึงกาฬไม่สนับสนุนประยุทธ์ ไม่เอาประยุทธ์ และที่สำคัญ พี่น้องที่เสียดายว่าพวกเราอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ถูกตัดสิทธิ์ อยากให้ไปทำงาน หลายคนบอก 10 ปีก็จะรอ กี่ปีก็จะรอ หากพี่น้องเห็นเราถูกรังแก ได้รับความอยุติธรรมมาตลอดเวลา เสียดาย ผมเสนอว่าถ้ายังรักธนาธร ยังรักผม เสียดายโอกาส ไม่ต้องรออีก 10 ปี วันที่ 20 ธันวาคมนี้ไปกากบาทเลือกผู้สมัครคณะก้าวหน้า นั่นก็คือการแสดงออกว่ายังรักและสนับสนุนพวกเราพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไปอยู่ แสดงออกให้พวกเขาเห็นว่าต่อให้ยุบอีกกี่พรรค พี่น้องประชาชนก็จะเดินหน้าสนับสนุนพวกเราต่อไป เลือกนายก อบจ.คณะก้าวหน้าวันนี้ ได้วิสัยทัศน์ธนาธรลุยงานบริหารท้องถิ่นทันที” นายปิยบุตรกล่าว
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปราศรัยหาเสียงช่วยนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมที่ อ.เชียงดาว
นายจตุพรกล่าวว่า อ.เชียงดาว ตนเคยอาสามาเป็นครูดอยสอนหนังสือให้เด็กชาวเขานานกว่า 3 ปี และได้กลับมาพื้นที่ที่เคยผูกพัน เพื่อบอกกล่าวความจริงทางการเมืองให้รับรู้กันถึงการใส่ร้ายป้ายสีตนและนายบุญเลิศว่าได้ไปอยู่กับเผด็จการ และเป็นคนของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นการกล่าวหาด้วยความเท็จ ไม่มีความเป็นจริงใดๆ ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ เพราะเมื่อ คสช.จับนายบุญเลิศขังคุกทหารตั้งแต่ 26 ก.ค.2559 สิ่งที่ทหารต้องการคือ ให้นายบุญเลิศซัดทอดพรรคเพื่อไทยได้สั่งการอยู่เบื้องหลังการรณรงค์ไม่รับร่าง รธน.2560 แต่นายบุญเลิศไม่ทำ แล้วผลที่เกิดขึ้นกับนายบุญเลิศ กลับถูกทอดทิ้ง ไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ในนามพรรค เพื่อต้องการให้คนอื่นมาลงสมัครแทน
เพื่อไทยป้ายสี
ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่น่าเจ็บใจคือ เมื่อพรรคเพื่อไทยทิ้งนายบุญเลิศแล้ว ยังกล่าวหายัดเยียดกระทืบซ้ำว่านายบุญเลิศแยกตัวไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นฝ่ายหนุนเผด็จการยึดอำนาจ
นอกจากนี้ นายจตุพรกล่าวถึงการไร้มาตรฐานทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยว่า ในจังหวัดนครพนม ผู้สมัครนายก อบจ.ของเพื่อไทย เคยเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐชัดเจน แล้วลาออกได้ 3 วันก็มาลงสมัครนายก อบจ.สังกัดพรรคเพื่อไทย และทีมหาเสียงพรรคเพื่อไทยไปพูดเชิดชูยกย่องว่าเป็นนักประชาธิปไตย
เมื่อทีมหาเสียงของพรรคเพื่อไทยชุดเดียวกันมาพูดที่เชียงใหม่ กลับกระทืบนายบุญเลิศว่า เป็นคนของพรรคพลังประชารัฐ เป็นพวกเผด็จการ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง จึงเป็นความอยุติธรรมของพรรคการเมืองชัดเจน เนื่องจากนายบุญเลิศอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย แต่พรรคเพื่อไทยผลักไสไม่ให้เขาลงสมัครในนามพรรคเอง แล้วกลับมาป้ายสี กล่าวหาเขาอีก
อีกอย่าง เมื่อตนมาช่วยนายบุญเลิศ ก็ถูกพรรคเพื่อไทยกล่าวหาเช่นกันว่าไปอยู่กับพลังประชารัฐ การป้ายสีเช่นนี้ เนื่องจากตนไม่ได้ช่วยหาเสียงให้พรรคเพื่อไทย จึงเท่ากับว่าพรรคได้แบ่งฝ่ายทันทีว่า ถ้าไม่ช่วยเพื่อไทยต้องเป็นฝ่ายเผด็จการ ซึ่งเป็นการกล่าวหาแบบง่ายๆ ไม่มีเหตุผล
"ผมมาช่วยนายบุญเลิศ ส่วนหนึ่งเพราะพรรคเพื่อไทยอยุติธรรมเกินกว่าจะรับได้ ผมยกโทรศัพท์คุยกับนายแก้ว (เสื้อแดงเชียงใหม่) ที่แถลงข่าวกล่าวหาผม โดยบอกว่าจะกล่าวหาเช่นนี้ไม่ได้ คุณจะช่วยพรรคเพื่อไทยก็ช่วยไป แต่การกล่าวหาไม่ช่วยเพื่อไทยเพราะไปอยู่เผด็จการ ซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นการกล่าวหาเป็นเท็จ เพราะผมยังยืนหยัดอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยตามเดิม"
รวมทั้งนายจตุพรได้กล่าวถึงพรรคเพื่อไทยคัดเลือกบุคคลสมัครนายก อบจ.ด้วยความละเอียดรอบคอบว่า แล้วคดีบอส กระทิงแดง ที่สะเทือนใจคนทั้งประเทศนั้น แต่คดีนี้มีพยาน 2 ปากเพื่อพยายามช่วยเหลือให้บอสหลุดคดี และพยานเกี่ยวข้องกับจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
โดยพยาน 2 ปากนั้น คนหนึ่งคือนายจารุชาติ มาดทอง อ้างว่าเห็นเหตุการณ์รถที่ชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ สน.ทองหล่อเสียชีวิตวิ่งมาด้วยความเร็วแค่ 60-70 กม.ต่อชั่วโมง สิ่งที่น่าสนใจคือ นายจารุชาติเป็นคนใกล้ชิดกับอดีต ส.ว.คนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อใหม่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในคณะกรรมการตรวจสอบชุดของนายวิชา มหาคุณ นั้น รายงานสาระสำคัญถึงความตายของนายจารุชาติ พยานปากสำคัญ โดยสงสัยการทำลายมือถือของนายจารุชาติ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้ขอความร่วมมือกับ ปปง.เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินเรียงลำดับจนถึงนายจารุชาติ พยานสำคัญที่ทำให้เปลี่ยนความเร็วจาก 177 กม.ต่อชั่วโมง มาเป็นไม่เกิน 80 กม.ต่อชั่วโมงนั้น มีใครอยู่ร่วมด้วย
ต้องไม่มีที่ยืนบนแผ่นดิน
"ดังนั้นใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการทำลายกระบวนการยุติธรรมในคดีบอส ต้องไม่มีที่ยืนบนผืนแผ่นดินนี้ และสำคัญที่สุดจะต้องไม่ให้โอกาสคนชั่วเหล่านี้ได้เหยียบบันได อบจ.จังหวัดเชียงใหม่เด็ดขาด"
นายจตุพรย้ำการท้าทายว่า หากพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าใครสุจริตจริงแล้ว ให้ตัวแทนพรรคหรือผู้สมัครนายก อบจ.ก็ได้ไปพบนายวิชากับตน ซึ่งจะได้รู้ถึงขบวนการซื้อทำลายกระบวนการยุติธรรมเพื่อช่วยเหลือลูกเศรษฐีคนหนึ่งให้พ้นจากความผิดได้อย่างไร โดยคนเชียงใหม่จะได้ตาสว่างกัน
อีกทั้งย้ำถึงความศรัทธาต่อพระครูบาศรีวิชัย พระนักต่อสู้เป็นพระในตำนานของคนเหนือเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้นจึงขอบอกว่า ตนและนายบุญเลิศไม่มีวันเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐโดยเด็ดขาด ดังนั้นการกล่าวหาไม่ส่งลงสมัครในพรรคเพื่อไทยเพราะเป็นคนพลังประชารัฐ จึงเป็นข้อมูลเท็จสิ้นเชิง
ส่วนมีเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งโดยการนำของนายแก้ว เสื้อแดงฝาง ได้เรียกร้องให้ลาออกจากประธาน นปช.นั้น นายจตุพรย้ำว่า พวกนี้กล่าวหาว่าตนไปอยู่พลังประชารัฐ ซึ่งไม่เป็นความจริง และตนเป็นนักประชาธิปไตย ถ้าจะออกจาก นปช.แล้วต้องไปด้วยแนวทางประชาธิปไตย ไม่ใช่จากไปด้วยการกล่าวหาเท็จว่าเป็นคนพลังประชารัฐเช่นนั้น
นายจตุพรกล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. มีพี่น้องเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งแถลงข่าวปกป้องตน จึงขอขอบคุณ แต่การทำงานทางการเมืองทุกวันนี้ ควรร่วมกันสร้างแบบอย่าง ถ้าอยู่บนพื้นฐานการสร้างความเท็จแล้ว ย่อมอยู่ยากอยู่ไม่นาน ดังนั้น จึงควรสนับสนุนนายบุญเลิศ คนที่ชาวเชียงใหม่รัก ให้ได้ทำหน้าที่เป็นแบบอย่างทางการเมืองของชาวเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เปิดให้บริการสายด่วน 1444 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการติดต่อสอบถามข้อมูลการเลือกตั้งและข่าวสารต่างๆ เพื่อรองรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา และขณะนี้ใกล้เข้าสู่การเลือกตั้งสมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค.นี้ ทางสำนักงานจึงได้ขยายเวลาการให้บริการสายด่วน จากเดิมเวลา 08.30-16.30 น. เว้นวันหยุดราชการ มาเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.30-20.30 น. โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ ไปจนถึงวันที่ 25 ธ.ค.นี้ และหลังจากวันที่ 25 ธ.ค. จะเป็นการให้บริการในวันและเวลาราชการตามปกติ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของผู้ใช้บริการสายด่วน 1444 พบว่ามีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาสอบถามเฉลี่ย 200-300 สายต่อวัน โดยคำถามส่วนใหญ่จะเป็นการสอบถามว่ามีการเลือกตั้งนายกฯ อบจ.และสมาชิก อบจ. มีวันเลือกตั้งล่วงหน้าหรือไม่, การไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องดำเนินแก้ไขอย่างไร แจ้งได้ที่ใด รวมทั้งหากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.ในวันดังกล่าว ต้องแจ้งเหตุที่ไหน อย่างไร และดาวน์โหลดเอกสารเพื่อกรอกแบบฟอร์มได้ที่ใด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |