กวิ้นยึดอำนาจการ์ด เลิก‘อาสา’ใช้‘บริษัท’แทน‘สมบัติ’แฉเงินเข้ากระเป๋าเพื่อน


เพิ่มเพื่อน    

 

"เพนกวิน" ติดหนวด! ยึดอำนาจการ์ด 3 นิ้ว สั่งปลดจากหน้าที่ ยุติบทบาท ตั้งทีมมืออาชีพมีทักษะดูแลความปลอดภัยม็อบแทน "สมบัติ ทองย้อย" ประชด ให้การ์ดเสื้อแดงเอาบัตรการ์ดขึ้นหิ้งบูชาตามที่เด็กๆ ต้องการ ส่วนการ์ดภาคีเพื่อประชาชนเฉลยเหตุปิดห้างตาม BTS เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล หวังหุ้นตกให้รัฐบาลขาดงบ จะได้โกงกันน้อยลง เสถียรภาพรัฐบาลก็พัง
    เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำม็อบคณะราษฎร 63 แจ้งข่าวทางเฟซบุ๊ก Parit Chiwarak ว่า ถึงมิตรสหายร่วมรบ อันรวมถึงพี่น้องประชาชนผู้ร่วมเส้นทางสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงทุกท่าน ก่อนอื่นกลุ่ม "ราษฎร" ขอขอบคุณต่อมิตรไมตรีและน้ำใจของทุกท่านที่ร่วมต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมโดยไม่เคยย่อท้อ แม้ในหลายครั้งคราที่เราเผชิญกับอุปสรรคจากน้ำมือของผู้ที่ไม่หวังดี และไม่ต้องการเห็นวันแห่งชัยชนะของประชาชน วันที่ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินอย่างแท้จริง และขอขอบคุณเสียงสะท้อนของพวกท่าน ต่อบรรยากาศการเคลื่อนไหวในด้านต่างๆ ซึ่งน้อมรับฟังและนำไปทบทวนเสมอมา
    ดังนั้น เพื่อบรรยากาศที่ดีในการชุมนุมอย่างสันติ ซึ่งเป็น "อาวุธ" สำคัญในการต่อสู้ของเราตลอดมา ตลอดจนเป็นเกราะคุ้มภัยให้อำนาจรัฐและศักดินายากที่จะเจาะทะลวงเข้ามาทำลายการต่อสู้ของเราได้
    กลุ่ม "ราษฎร" จึงขอประกาศ?ยุติบทบาทของหน่วยงานการ์ดอาสาทั้งหมดในการชุมนุมของเรา โดยทางผู้จัดจะจัดทีมงานที่ได้รับการฝึกฝนและมีทักษะอย่างมืออาชีพมาช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการชุมนุมต่อไป
    ด้วยความเชื่อมั่นว่า ประชาชนผู้มาชุมนุมอย่างสันติร่วมกัน สามารถปกป้องการชุมนุมของเรา และปกป้องกันและกัน โดยไม่ควรต้องยกเป็นภาระของพี่น้องการ์ดแต่เพียงถ่ายเดียวดังที่เป็นมาในหลายหน ทั้งนี้ เรายังคงรู้สึกซาบซึ้งต่อน้ำจิตน้ำใจและแรงกายแรงใจของพี่น้องผู้ทำหน้าที่การ์ดรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มแข็ง และขอขอบคุณการ์ดทุกท่าน ทุกกลุ่มสังกัดไว้อีกครั้งหนึ่ง
    อย่างไรก็ตาม บนเส้นทางการต่อสู้อันยาวไกลนี้และหนักหน่วงนี้ ยังคงมีภารกิจอีกมากที่ต้องขอพึ่งพาน้ำจิตน้ำใจของทุกท่าน รวมถึงประชาชนทุกคน ในการอาสามาร่วมลงแรง ซึ่งเราจะประกาศให้ทุกท่านได้ทราบต่อไป
     จากกรณีดังกล่าวนี้สร้างแรงกระเพื่อมไปยังการ์ดหลายกลุ่ม  อาทิ นายสมบัติ ทองย้อย หัวหน้าการ์ดเสื้อแดง โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ฝากถึงพี่น้องการ์ดเสื้อแดงทุกคน ขอให้ทุกคนที่สามารถมาร่วมชุมนุมได้ งดติดบัตรการ์ด และปลอกแขนหรือสัญลักษณ์ใดๆ ที่แสดงออกหรือบ่งบอกว่าเป็นการ์ดเสื้อแดง เพื่อความสบายใจของผู้มาร่วมชุมนุม หรือทางทีมงานตามที่เด็กๆ ต้องการ
    "ขอให้เอาบัตรการ์ดขึ้นหิ้งบูชาว่าเราเคยร่วมสู้ ร่วมสุข ร่วมทุกข์มาด้วยกัน ถึงแม้ว่าเราอาจจะเคยโดนมองว่ามีปัญหา แต่พวกเราจงเก็บความภาคภูมิใจไว้ข้างใน แต่เมื่อถึงเวลาที่มีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นในที่ชุมนุม ขอให้จิตวิญญาณของความเป็นการ์ดของพวกเราทุกคนจงเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยมิได้เพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า จงจำไว้เราคือการ์ดเสื้อแดง ไม่ว่าจะปรับเปลี่ยนให้ไปอยู่ในสถานะใดๆ ก็ตาม เราก็ยังเป็นการ์ดเสื้อแดง และแม่-คงเป็นยันตายแหละครับ" นายสมบัติระบุ
    ต่อมานายสมบัติโพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้งว่า มันไม่ใช่การ์ดมืออาชีพ แต่เป็นการ์ดที่เจ้าของม็อบบอกให้เพื่อนไปเปิดบริษัทการ์ดรอล่วงหน้าเพื่อรองรับการทำงานที่จะเกิดขึ้น เอออันนี้เข้าท่าดีนะ รักเพื่อน สนับสนุนบริษัทเพื่อน เงินจ้างการ์ดบริษัทเพื่อนก็เข้ากระเป๋าเพื่อน ได้ใจเพื่อน แถมเพื่อนได้เงิน มันเป็นแบบนี้นี่เอง
    "บางอ้ออออ เกลียดคอร์รัปชันเชิงนโยบาย แต่ทำกันเสียเอง #เขาเล่าว่า"
    ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก "ฟันเฟืองปทุมธานี - Gear Of Red Pathumthani" ซึ่งเป็นหนึ่งในการ์ดฟันเฟืองประชาธิปไตย โพสต์ข้อความว่า ตอนนี้แกนนำได้ประกาศยกเลิกการ์ดภาคีทั้งหมดแล้ว มวลชนไม่ต้องตกใจ ฟันเฟือง ไม่ได้เป็นการ์ดภาคีอยู่แล้ว ฟันเฟืองก็เหมือนมวลชน แต่เรามีหน้าที่ เพราะเราเป็นองครักษ์อาชีวะของประชาชน คอยดูแลและคอยเก็บขยะตามสถานที่ชุมนุมเหมือนเดิมครับ ยังเจอพวกเราอยู่จนสงครามการเมืองครั้งนี้จบลงครับ  
ตัดท่อน้ำเลี้ยงรัฐบาล
    ทุกฟันเฟือนเสมือนหนึ่งซึ่งพี่น้อง เหล่ามวลชนอุ่นใจเมื่อได้เห็นทั้งกายทั้งใจฟันเฟืองที่ร่วมเป็นอุทิศตนเสียสละเพื่อบ้านเมือง
    ส่วนนายเกวลัง ธัญญเจริญ หรือเก่ง อาชีวะ แกนนำกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งผู้ก่อตั้ง "การ์ดภาคีเพื่อประชาชน" โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า มีหลายคนถามมานะครับทำไมม็อบทำแล้วเดินไม่สุดไม่เด็ดขาด 1.ถ้าเดินสุดทำแบบเด็ดขาด มีคนเจ็บมีคนตาย คำถามคือนายกออกไหม
    2.ม็อบทุกวันนี้ยังไม่ต้องการมวลชนที่จะออกมามากๆ ม็อบทุกวันนี้ต้องการทำเพื่อส่ง message คำพูดบนเวที ให้คนได้หาข้อมูลตื่นรู้ด้วยตัวเอง แล้ววันนึงเพราะคนที่รู้ด้วยตัวเองตาสว่างแล้วจะออกมาเป็นพวกเราเอง
    3.ม็อบทุกวันนี้ปิดตามห้างตาม BTS เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล หุ้นตกรัฐบาลขาดงบ เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลเป็นพรรคร่วมหลายพรรคมากๆ 1 กระทรวงจะมีทีมงาน 3-4 พรรคประจำกระทรวงนั้นๆ งบที่ได้มาต้องหาร 4 ไม่รู้คนละกี่เปอร์เซ็นต์หารแน่นอน จึงมีเงินกลับเข้าพักไม่มาก หุ้นจากการลงทุนของรัฐบาลตกเงินที่ได้จากการฉ้อราษฎร์บังหลวงน้อย ทำให้เสถียรภาพของการเป็นรัฐบาลลดน้อยลงไปทุกวัน
    4.ม็อบทุกวันนี้ใช้การสันติวิธีเคลื่อนไหวเพื่อให้ชาวต่างชาติได้เห็นและกดดันชนชั้นผู้นำประเทศ ถ้าเราใช้ความรุนแรงเดินสุดเมื่อไหร่จะก่อให้เกิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินและตามมาด้วยการปฏิวัติ (มันก็จะกลับมาเหมือนเดิม) ประเทศไม่ก้าวข้ามทหาร
    เดินสุดแล้วได้อะไร ลองนั่งคิดแล้วถามตัวเองใหม่ อินเดียปฏิวัติประเทศใช้เวลากี่ปี แกนนำไม่อยากให้เกิดความสูญเสียกับใครทั้งสิ้น ทั้งตัวเองและมวลชน พวกเราสูญเสียมามากพอแล้ว
    ด้านนายปิยรัฐ จงเทพ หรือ “โตโต้” อดีตหัวหน้าการ์ดม็อบคณะราษฎร 63 และแกนนำกลุ่ม wevo โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาว่า ไม่ยึดติดสัญลักษณ์ ไม่ยึดติดรูปแบบการเคลื่อนไหว เมื่อวานนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญของไทย และวันสิทธิมนุษยชนสากล แต่สภาพการเมืองไทยเวลานี้ยังห่างไกลมาก กับทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย และเรื่องสิทธิมนุษยชน มันช่างดูเป็นเรื่องให้ต้องขบคิดกันต่อไป
         สำหรับภารกิจเมื่อวานของ wevo ผมลำดับเหตุการณ์ให้สั้นๆ ดังนี้นะครับ เราทราบข่าวตั้งแต่คืนวันที่ 9 ธันวาคม ว่าอันธพาลที่อ้างทำในนามความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ จะมีการมาก่อกวนเวทีต่างๆ ของฝ่ายประชาธิปไตยในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ทาง wevo จึงได้มีการประสานกับการ์ดอิสระกลุ่มต่างๆ ที่เราประสานความร่วมมือกันมาตลอด ให้จัดแจงแบ่งพื้นที่ และกำลังสนับสนุนกันตามแต่ความเหมาะสม
         เช้าวันที่ 10 ธันวาคม wevo และอีกหลายกลุ่ม ทยอยประจำจุดเพื่อป้องกันเหตุ ซึ่งการทำภารกิจครั้งนี้ เราอยู่ห่างจาก อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา มาไกลพอสมควรคือ หน้าวัดมกุฏฯ ถนนกรุงเกษม ซึ่งพอเราประจำที่นั้น เราพบว่าตำรวจเล่นใหญ่เกินไปที่ ทำชาวบ้านเดือดร้อน แล้วโบ้ยม็อบ ผมในฐานะคนที่เห็นปัญหาและไม่ชอบเอามากๆ กับการที่ตำรวจมารังแกประชาชน
         โดยการนำเอาหีบเพลง ลวดหนาม คอนเทนเนอร์ และที่กั้นจราจรมากีดขวางเส้นทางผ่านทั้งเส้นตลอดแนวที่จะข้ามคลองไป ถนนพิษณุโลก ความเดือดร้อนสาหัสกับชาวบ้านร้านตลาด จนมีกลุ่มการ์ดมวลชนที่ไปถึงจุดกั้นลวดหนามบริเวณตลาดเทเวศร์ ได้ขอขยับลวดหนามให้ประชาชนผ่านไปได้ในรอบแรก หลังจากนั้นไม่นาน ตร.ก็ลากลวดหนามมากั้นขวางอีกรอบ และรอบนี้ แน่นขึ้นกว่าเดิม ทำให้ wevo ซึ่งเฝ้าดูอยู่ ต้องเข้าไป ขอขยับย้ายลวดหนามออกไปอีกครั้ง แต่ตำรวจก็ยังดื้อดึงทำตามบัญชาคนบ้า(อำนาจ) อยู่ได้ ก็คือการเพิ่มลวดหนามหีบเพลงอีกเท่าตัว พร้อมกำลังตำรวจอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะ ตชด.
wevo เตรียมรับหมาย
         นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชาชนเริ่มไม่พอใจ และขอให้ wevo เริ่มปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอคืนให้ประชาชน คนในพื้นที่ ได้เดินบ้างก็ยังดี
        ปรากฏว่าเบื้องต้นผลการเจรจา เป็นผลน่าพอใจ คือทาง ตร. จะเปิดช่องให้เดินผ่านได้ประมาณ 1 เมตร ซึ่งเราก็ถือว่าพอจะยอมรับได้ แต่พอเวลาผ่านไป ตำรวจกลับตระบัดสัตย์ ไม่ทำตามคำพูด คือไม่มีทีท่าตามที่ตกลงว่าจะเปิดให้ชาวบ้านได้เดินในตอนแรก
         นั่นจึงเป็นการตามมาด้วยกำลัง คฝ. มาปิดล้อมเราทุกทิศทาง ทั้ง #wevo และการ์ดกลุ่มต่างๆ อีกหลายกลุ่ม ตกอยู่ในสภาพคับขัน ไม่พร้อมที่จะตกในวงล้อมตั้งแต่แรก และเราไม่ต้องการให้เกิดการปะทะในพื้นที่ที่ประชาชนต้องรับผลกระทบเพิ่มเติมไปมากกว่านี้ เราจึงหารือกันว่า เราจะยอมถอย
       แล้วเราก็ถอยออกจากพื้นที่โดยสวัสดิภาพ จากความช่วยเหลือจากพี่น้องประชาชนชาวละแวกตลาดเทเวศร์ที่น่ารัก ผมต้องขอขอบคุณทุกคน ทุกทีม ทุกกำลังใจ ผมเห็นความสามัคคีของพวกเราในวันนั้น ผมรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมากมาย ผมอยากให้ทุกคนมารับรู้และสัมผัสกับมันด้วยตัวเองจริงๆ
        ผมอยากให้มาเห็นการ์ดทุกกลุ่มเดินมาจับมือจับไม้ ประคองผ่องถ่ายวิ่งหนีตำรวจเข้าตรอกวัดอินทร์ (ใกล้แยกเทเวศร์) โดยไม่ต้องดูปลอกแขนและผ้าพันคอ ทุกคนพร้อมช่วยกัน เป็นห่วงเป็นใยกัน จนหลุดรอดออกมาจากแนวตำรวจได้ ไม่มีใครถูกจับหรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แล้วมานั่งพัก แบ่งปันข้าวปลาอาหารให้แก่กัน แล้วถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึกอย่างอบอุ่น ผมไม่รู้จะบรรยายอย่างไรให้เห็นภาพ ผมอยากให้ทุกคนได้เห็นภาพนั้นจริงๆ
    ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า ฝ่ายสืบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้กระทำผิดตามความผิดที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยเหตุการณ์ที่กลุ่มการ์ดอาสา wevo จะเข้ารื้อรั้วลวดหนามที่ตำรวจนำไปทำเป็นแนวกั้นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณแยกเทเวศร์ ซึ่งพื้นที่นี้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ โดยกลุ่มการ์ดพยายามผลักดันฝ่าแนวตำรวจจนทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บเล็กน้อย 4 นาย เป็นแผลฟกช้ำ และมีร่องรอยถูกกระแทกจากของแข็ง ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ส่วนคนที่ปาวัตถุพลุควันสีระหว่างที่มีความวุ่นวาย ต้องรอพิสูจน์ก่อนว่าเข้าข่ายเป็นวัตถุระเบิดหรือไม่ ซึ่งตำรวจได้บันทึกภาพผู้ต้องสงสัยไว้ทั้งหมดแล้ว
        รอง ผบช.น.กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุวุ่นวายดังกล่าว กลุ่มการ์ดวีโว่ได้ไปพ่นสีบนตู้คอนเทนเนอร์หน้ากระทรวงคมนาคม ใกล้แยก จปร.ถนนราชดำเนินนอก พบว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด เนื่องจากกลุ่มการ์ดยังพ่นสีสเปรย์ลงบนพื้นถนน และความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ จากการพ่นสีสเปรย์ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินในความดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้เช่าหรือจัดซื้อไว้ใช้ในภารกิจดูแลความสงบเรียบร้อย ส่วนข้อความต่างๆ ที่เกิดจากการพ่นสีสเปรย์ จะพิจารณาด้วยว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย
    พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมเชิงวิชาการที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ซึ่งช่วงท้ายของกิจกรรมมีผู้ชุมนุมไปทำกิจกรรมกลุ่มย่อยบนถนนราชดำเนิน และที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต้องแยกพิจารณาดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือผู้ขออนุญาตจัดการชุมนุม จะเข้าข่ายฐานกระทำผิดเงื่อนไขการชุมนุมในที่สาธารณะ ที่ไม่สามารถควบคุมผู้ชุมนุมให้ปฏิบัติตามข้อตกลงได้ อีกส่วนคือผู้ที่ทำกิจกรรม ที่จะถูกดำเนินคดีฐานฝ่าฝืนเงื่อนไขการชุมนุมในที่สาธารณะ และเนื้อหาการชุมนุมจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"