ป.ป.ช.รับเรื่อง "เรืองไกร" ร้อง "บิ๊กตู่" อยู่บ้านพักหลวงไว้ก่อน "บิ๊กกุ้ย" ชี้หากตรวจพบเรื่องจบแล้ว กม.ห้ามสอบ กมธ.ปราบโกงจ่อเรียก "บิ๊กแดง-บิ๊กบี้" แจง อ้างคำวินิจฉัยศาล รธน.ไม่กระทบ
    ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีพฤติกรรมเข้าข่ายขัดต่อ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 128 กรณีได้รับสิทธิอยู่บ้านพักรับรอง ซึ่งรับประโยชน์เกิน 3,000 บาท ว่าหากมีคนมายื่นเรื่องข้อกล่าวหา เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องตรวจสอบ และต้องพิจารณาว่าสามารถรับไว้พิจารณาได้หรือไม่ เช่น เป็นเรื่องที่ถูกดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว เป็นเรื่องที่ศาลได้วินิจฉัยเสร็จสิ้น หรือเป็นเรื่องที่ถูกดำเนินการเสร็จสิ้นตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องแล้ว และหากดังกล่าวเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ป.ป.ช.ก็สามารถที่จะไม่รับพิจารณาได้ แต่เมื่อมีคนมายื่นข้อกล่าวหาก็เป็นหน้าที่ ป.ป.ช.ที่จะต้องรับเข้ามาตรวจสอบก่อน  
    ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเรืองไกรยื่นต่อ ป.ป.ช. การอยู่บ้านพักรับรองใช้ค่าน้ำค่าไฟเท่ากับเป็นการรับประโยชน์เกิน 3,000 บาท ซึ่งเป็นคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไปแล้วจะสามารถมายื่นต่อ ป.ป.ช.ได้อีกหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ตรงนี้ต้องดูที่ประเด็น ซึ่งไม่ว่าใครมายื่นข้อกล่าวหาใคร เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่ต้องรับไว้ก่อน แล้วนำประเด็นมาตรวจสอบในเบื้องต้น แต่ถ้าเป็นประเด็นเดิมหรือเป็นประเด็นที่เสร็จสิ้นไปแล้ว กฎหมายระบุห้าม ป.ป.ช.ไม่ให้พิจารณา
         ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ฐานะประธาน กมธ.ป.ป.ช. เตรียมทำหนังสือเชิญ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. เข้าชี้แจงรายละเอียดต่อ กมธ. ตามประเด็นที่ตนเป็นผู้ร้องให้ตรวจสอบกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์เข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 128 ที่ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท
    ทั้งนี้ คณะทำงานของ กมธ.ปรึกษาตนเกี่ยวกับการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว จึงให้ความเห็นว่าควรเรียกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีดังกล่าวที่ตัดสินแล้วเสร็จมาประกอบการพิจารณาด้วย และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งคำร้องของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย, หนังสือของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ, คำชี้แจงของ พล.อ.อภิรัชต์ และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ รวมถึงรายละเอียดว่าด้วยระเบียบของกองทัพบกที่ระบุถึงการให้สิทธิพักบ้านรับรอง ซึ่ง กมธ.ถือว่าสอบได้ แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเป็นที่สิ้นสุด เพราะการตรวจสอบเรื่องนี้เป็นคดีอาญา
         "ระเบียบของกองทัพบกว่าด้วยการพักอาศัยในบ้านพักรับรองที่ผมเห็น เป็นของปี 2548 ลงนามโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขณะที่เป็น ผบ.ทบ.นั้นไม่ได้อ้างอิงกฎหมายใด ดังนั้นจึงเชื่อว่าได้ว่าเป็นระเบียบภายใน และหากศาลรัฐธรรมนูญนำมาพิจารณานั้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ ได้แนะนำให้เชิญนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าจะออกหนังสือเชิญในรอบเดียวกันหรือไม่ แต่เรื่องนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุว่าจะพิจารณาเป็นเรื่องด่วน" นายเรืองไกรกล่าว
    นอกจากนี้ ได้ยื่นต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วย ส่วนกรณีที่อาจเกี่ยวกับพฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ที่รับผลประโยชน์อื่นใดเกิน 3,000 บาทนั้น ยังไม่ได้ยื่นเรื่อง เพราะเชื่อว่า ป.ป.ช.จะเตะถ่วง จึงยื่นต่อ กมธ.ป.ป.ช.ของสภาฯ ซึ่งจะทำได้รวดเร็วกว่า.