ศบค.ยันเที่ยวได้ทุกจว.


เพิ่มเพื่อน    

 

“หมอทวีศิลป์” แถลงไทยมีผู้ป่วยใหม่ 25 ราย อยู่ในสถานกักกันทั้งหมด ชี้หาก 19-20 ธ.ค. ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่นอก State Quarantine ถือว่าผลพวง “วันจีวันท่าขี้เหล็ก” คุมได้โดยสมบูรณ์ โล่ง! ตรวจเชื้อผู้เกี่ยวข้องบุคลากรทางการแพทย์ 745 คนลบทั้งหมด ย้ำเที่ยวได้ทุกจังหวัด แต่ต้องการ์ดไม่ตก โดยเฉพาะเรื่องสวมหน้ากาก
เมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในไทยว่า วันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่ 25 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้ารับการกักกันทั้งหมด ได้แก่ เมียนมา 7 ราย, สวิตเซอร์แลนด์ 6 ราย, เกาหลีใต้ 3 ราย, สหรัฐอเมริกา, ตุรกี และคูเวต ประเทศละ 2 ราย รัสเซีย, สวีเดน และสิงคโปร์ ประเทศละ 1 ราย หายป่วยเพิ่ม 6 ราย ผู้ป่วยสะสมรวม 4,151 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,461 ราย มาจากต่างประเทศ 1,690 ราย เข้าสถานที่กักกันรวม 1,164 ราย หายป่วยรวม 3,880 ราย เสียชีวิต 60 ราย ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 211 ราย
    นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวถึงกรณีผู้ป่วยที่เดินทางมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และเข้ามายัง จ.เชียงราย ว่าข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. สะสมรวม 46 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่ 1 เข้าทางเส้นทางธรรมชาติ เดินทางเข้ามาก่อนเป็นข่าว 17 ราย กระจายอยู่ใน 6 จังหวัดคือ เชียงราย 6 ราย, เชียงใหม่ 5 ราย, กทม. 3 ราย, พะเยา, พิจิตรและราชบุรี จังหวัดละ 1 ราย กลุ่มที่ 2 ผ่านจุดข้ามแดนและเข้าพักในสถานกักกันโรคท้องถิ่นของรัฐ ซึ่งเดินทางเข้ามา 196 ราย แต่ติดเชื้อรวม 27 ราย และกลุ่มที่ 3 ผู้สัมผัสผู้ป่วยในไทย รวม 2 รายคือ ผู้ป่วยใน จ.เชียงรายและสิงห์บุรี
    “ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ โดยเฉพาะเมียนมา เมื่อเข้ามาแล้วในช่วงปลายเดือน พ.ย. แล้วอยู่ที่จังหวัดและอำเภอใดในไทย ขอให้ท่านแสดงตัวและเข้ามาตรวจหาเชื้อได้ทันที เป็นความสำคัญที่เราต้องขอร้องให้ท่านที่ไปในช่วงเวลานั้นเข้ามารายงานตัว เพราะตอนนี้ยังไม่ครบ 14 วันที่เจอรายแรกจากเมียนมา และในพื้นที่ต่างๆ ที่พบผู้ป่วยนั้นก็ขอให้นับเวลาต่อไปอีก 14 วัน ซึ่งก็ประมาณวันที่ 19-20 ธ.ค. หากไม่มีตัวเลขผู้ป่วยขึ้นมาก็มั่นใจได้” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
    เมื่อถามว่ากรณีพบการติดเชื้อในจังหวัดท่องเที่ยวของไทย หากประชาชนจะไปเที่ยวในช่วงปีใหม่ควรปฏิบัติตัวอย่างไร นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ทีมกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงราย กลับมาเล่าให้ฟังว่าเงียบทั้งเมือง ทั้งที่เราพยายามบอกว่าระบบและมาตรการต่างๆ ที่มีสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ยืนยันว่าไปเชียงรายได้ ขณะนี้ทุกคนสามารถเดินทางไปได้ทุกที่หากสวมหน้ากากอนามัย แล้วขอให้ประชาชนได้ติดตามการแถลงข่าวอยู่เป็นประจำ
    นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าววว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้หยิบยกประเด็นลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติแล้วภายหลังตรวจพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อธุรกิจในจังหวัดท่องเที่ยว ที่ประชุม ศบค.จึงได้วางมาตรการ 3 ระดับ โดยระดับที่ 1 ระดับประเทศ ทั้งในส่วนเมียนมา ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย จะให้หน่วยงานงานภาครัฐประสานงานกันระหว่างประเทศใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรคเป็นหลัก, ระดับที่ 2 ระดับชายแดนให้นายอำเภอ, อสม. ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของ รพ.สต. มีบทบาทหลักในการทำหน้าที่เฝ้าระวังผู้แปลกหน้าที่เดินทางเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย และระดับที่ 3 ระดับเมือง ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ประชาชนทุกคนต้องช่วยกันสอดส่องดูแล
    ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการพบผู้ป่วยรายแรกใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเดินทางมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2563 ซึ่งนับจนถึงวันนี้จะเป็นเวลา 12 วัน และผู้ติดเชื้อรวม 46 ราย ซึ่งในภาพรวมสามารถนำกลับไปอยู่ใน State Quarantine ถือว่าสถานการณ์ควบคุมได้ ขอให้มั่นใจ ที่ จ.เชียงใหม่ไม่พบผู้ป่วยมาตั้งแต่ 5 ธ.ค.แล้ว ส่วนเชียงรายที่พบก็เกิดจากระบบการทำงานเชิงรุกที่เรานำตัวคนไทยที่กลับจากเมียนมาเข้าสู่ระบบ พะเยาไม่มีเคสใหม่ตั้งแต่ 1 ธ.ค. กทม.ไม่มีเคสใหม่ตั้งแต่ 6 ธ.ค. พิจิตรตั้งแต่ 1 ธ.ค. ราชบุรีตั้งแต่ 2 ธ.ค. และสิงห์บุรีตั้งแต่ 4 ธ.ค.
    “จังหวัดต่างๆ เหล่านี้ การควบคุมโรคทำได้ดี มีความเข้มแข็งมาก ดังนั้นไม่มีปัญหา ท่านสามารถไปเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ที่กล่าวมานี้และทุกจังหวัดในไทยได้ แต่ขอให้ใส่แมสก์อย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคได้อย่างดี เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ และต้องสแกนไทยชนะ" นพ.โอภาสกล่าว
    นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีการติดเชื้อในประเทศ ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์และทำงานใน Alternative State Quarantine (ASQ) ทั้ง 5 รายว่า ข้อมูลสรุปจากการสอบสวน คือ มีบุคลากรทางการแพทย์ 1 ราย ได้รับเชื้อจากการปฏิบัติงานใน ASQ แล้วมาแพร่เชื้อให้ผู้ร่วมงานนอกเวลางานจากการรับประทานอาหารร่วมกัน จึงทำให้มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อรวม 5 ราย และจากผลการสอบสวนโรคจาก รพ.ต้นสังกัด ซึ่งได้เก็บตัวอย่างจากผู้สัมผัสอื่นๆ อีก 31 ราย ไม่พบการติดเชื้อ ส่วนเพื่อนร่วมห้องพักเดียวกัน 6 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ และห้องสัมภาษณ์งานใน รพ.รัฐ 7 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อ รวมทั้งสมาชิกในครอบครัวอีก 7 ราย ผลตรวจก็ไม่พบเชื้อเช่นกัน
    "กรณีนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 229 ราย แบ่งเป็นผู้อยู่ใน รพ.เอกชน 195 ราย ตรวจไม่พบเชื้อทั้งหมด และที่ทำงานใน ASQ ทั้ง 2 แห่ง รวม 34 คน ตรวจไม่พบเชื้อ สรุปผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 51 คน และเสี่ยงต่ำ 229 คน รวม 280 คน ตรวจไม่พบเชื้อทั้งหมด และตรวจบุคลากรในแผนกอื่นๆ อีก 465 คน รวมทั้งหมดทั้ง รพ. 745 คน ตรวจไม่พบเชื้อทั้งหมด” นพ.โสภณกล่าว และว่า กรณีโซเชียลมีเดียระบุว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 ในผับย่านเซ็นทรัลเวิลด์นั้น ยืนยันว่าจากรายงานพบผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯ มีเพียง 8 ราย คือ 3 รายที่เชื่อมโยงกับ จ.ท่าขี้เหล็ก และบุคลากรทางการแพทย์ 5 รายนี้เท่านั้น ยังไม่พบรายงานในรายอื่นๆ
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สธ.ระบุว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ของไทยอยู่ภายใต้การควบคุม ขอให้ประชาชนอย่ากังวลใจ และยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายหรือเชียงใหม่ได้ ซึ่งนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ยังได้เดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 9 ธ.ค. เพื่อสร้างความมั่นใจด้วย แต่ขอให้ระวังตัวเอง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ส่วนมาตรการลดวันกักตัวผู้ที่เดินทางเข้าไทยนั้น ยังอยู่ในการพิจารณาของ ศบค. แต่สถานการณ์ช่วงนี้คงต้องชะลอการพิจารณาไปก่อน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากการที่ได้พูดคุยกับ สธ. ได้ประเมินแล้วยังมีความมั่นใจว่าสามารถเอาอยู่ เพราะการลักลอบเข้ามา 5-6 คน มีการติดเชื้อ 1-2 คนเท่านั้น เพราะฉะนั้นการแข่งขันกีฬาทุกประเภทยังเดินหน้าตามปกติ โดยหากหลังจากวันที่ 13-14 ธ.ค.ยังไม่มีการระบาดเพิ่มหลังมีการตรวจคัดกรองกับผู้ไปร่วมกิจกรรมที่สิงห์ปาร์ค และผู้ลักลอบเข้ามาทางธรรมชาติ กระทรวงจะไปจัดกิจกรรมโดยนำโมเดลการแข่งขันฟุตบอลที่ จ.ระยอง มาใช้อีกครั้ง
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 และขอประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง เพราะกรณีที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ซูเปอร์สเปรดเดอร์ และสำหรับคนที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยขอให้เข้ามาทางช่องทางปกติที่ถูกต้อง ภาครัฐยินดีที่จะดูแล ที่สำคัญขอให้คนไทยภายในประเทศใช้ชีวิตกันอย่างปกติ ไม่ต้องกังวลกันเกินเหตุ
    นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือและการอำนวยความสะดวกการเดินทางกลับเข้าไทยว่า สถิติข้อมูลการเดินทางกลับเข้าไทยจนถึงวันที่ 6 ธ.ค. มีคนไทยกลับประเทศแล้ว 134,799 คน จาก 141 ประเทศ
    พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงมาตรการของกองทัพบกในการสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งการหน่วยทหารทุกหน่วยที่รับผิดชอบด้านชายแดน ทั้งทหาร ตำรวจ กองกำลังต่างๆ ยกระดับมาตรการดำเนินงาน โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 3 ได้เพิ่มเติมกองกำลังชุดปฏิบัติการเข้าไปอีกจำนวนหนึ่งและเพิ่มเครื่องมือสนับสนุนทั้งลวดหนามหีบเพลงในช่องทางธรรมชาติ รวมถึงเพิ่มการลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง
พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวว่า ทอ.มีโดรนและอากาศยานไร้คนขับ (ยูเอวี) พร้อมสนับสนุนภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนเพื่อสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย หากมีการร้องขอ  
    วันเดียวกัน นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลาง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. โดยสรุปว่า ในพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 จึงขอให้ ศบค.เร่งประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะประเด็นผู้ที่เดินทางเข้า-ออกจาก จ.เชียงใหม่ต้องกักตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดมาก และหากพบว่ามีจังหวัดใดหรือหน่วยงานใดประกาศเรื่องดังกล่าว ขอให้ ศบค.แจ้งขอความร่วมมือให้ยกเลิกมาตรการดังกล่าว เพราะมีการส่งต่อทางโซเชียล?เป็นข้อสงสัย นักท่องเที่ยว?สอบถามทุกวันจนกระทบบรรยากาศ?และความเชื่อมั่น.
    

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"