ในระบบนิเวศน์ ป่าไม้ นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสิ่งแวดล้อม เพราะป่าถือว่าเป็นเกราะป้องกันปัญหาน้ำท่วม ชะลอการชะล้างล้างพังทะลายของหน้าดิน เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า อีกทั้งยังสร้างอากาศบริสุทธิ์ และอีกด้านมีผลประโยชน์ต่อราะบบเศรษฐกิจ สำหรับในประเทศไทยทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ต่างหันมาให้ความสนใจกับปัญหาผืนป่ามากขึ้น มีการรณรงค์การปลูกป่า เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวให้ประเทศเพิ่มขึ้น
เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ขอนแก่น) ด้พาคณะสื่อมวลชน และพนักงานบริษัท พร้อมชาวบ้าน มาร่วมทำกิจกรรม ปลูกต้นไม้ สร้างจิตสำนึกเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ CPRAM GREEN LIFE #ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน ที่ วัดแสงศรีนิยม บ้านหนองนิยม ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเมื่อก่อนยังไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ จึงได้เล็งเห็นความสำคัญการปลูกป่า อีกทั้งพื้นที่วัดก็อยู่ในบริเวณพื้นที่บริษัท ที่จะช่วยสร้างพื้นที่เขียว ด้วยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน
สำหรับพื้นที่ป่าไม้ในเขตจังหวัดขอนแก่นมีทั้งหมดกว่า 2.2 ล้านไร่ สภาพป่าส่วนใหญ่เป็น ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง แน่นอนว่าก็ยังพบปัญหาป่าเสื่อมโทรม ทั้งไฟป่า หรือการบุกรุกตัดไม้เพื่อตัดไม้แปรรูป หรือประชาชนบางส่วนที่ตัดไม้ ถางป่าเป็นพื้นที่ทำกิน ปัจจุบันภาครัฐ ได้ให้ความสำคัญในการจัดการทำให้สภาพป่าดีขึ้น
สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า โครงการปลูกเพื่อโลกยั่งยืน เป็นส่วนหนึ่งที่ได้เข้ามาช่วยแลูกต้นไม้ในชุมชน โดยทั้งพนักงานบริษัท ภาครัฐ เอกชน และประชาชนในพื้นที่ได้เข้ามามีส่วนร่วม ได้ตระหนักถึงประโยชน์ของต้นไม้ และปัญหาของโลกร้อนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของจังหวัดที่มุ่งมั่นดำเนินการปลูกต้นไม้ 2 ล้านต้น ภายใน 3 ปี ซึ่งได้ดำเนินการมาแล้วกว่า 5 แสนต้น เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพิ่มพื้นที่สีเขียว ชะลอน้ำท่วม เพราะปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้ของจังหวัดเหลือเพียง 12% ต่อพื้นที่ทั้งจังหวัดประมาณ 10,000 ตร.กม. ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการช่วยกันในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต และอนาคตของลูกหลานที่ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์
อาภาภรณ์ พรหมเชยธีระ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ขอนแก่น) กล่าวว่า การขับเคลื่อนโครงการด้านความยั่งยืนขององค์กรนับส่วนหนึ่งในนโยบายที่ให้ความสำคัญ โดยโครงการ CPRAM GREEN LIFE #ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของการดำเนินการด้านความยั่งยืน เพื่อมุ่งหวังเพิ่มพื้นที่สีเขียวในประเทศไทย เสริมสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ และยังสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สาเหตุสำคัญที่ส่งผลต่อปัญหาก๊าซเรือนกระจกของโลก อีกทั้งยังช่วยผลิตก๊าซออกซิเจนบริสุทธิ์ให้มนุษย์ และสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสมดุล
“อีกหนึ่งเป้าหมาย คือ การบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2573 ซึ่งในพื้นที่ภาคอีสาน จังหวัดขอนแก่นเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เราให้ความสำคัญ เพราะเป็นหนึ่งในที่ตั้งของบริษัท จึงได้เลือกปลูกต้นไม้ ที่วัดแสงศรีนิยม จำนวน 11 ไร่ โดยเราได้ดำเนินการปลูกต้นไม้มาอย่างต่อเนื่อง และปีนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 จำนวน 400 ต้น รวมแล้วกว่า 700 ต้น อาทิ ต้นพะยุง ต้นสัก ต้นประดู่ ต้นยางนา และต้นแค เป็นต้น โดยทางเจ้าอาวาส และคนในชุมชนก็ช่วยกันดูแลอย่างดี ต้นไม้ที่ปลูกไปตั้งแต่ปีแรกก็ค่อยๆเจริญเติบโต และคาดว่าจะขยายผลครอบคลุมในพื้นที่ที่บริษัทตั้งอยู่ ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ” อาภาภรณ์ ทิ้งท้าย