'ไทยพาณิชย์'เคาะจีดีพีปี63ติดลบ6.5%ข่าวดีวัคซีนโควิดหนุนท่องเที่ยวฟื้น


เพิ่มเพื่อน    

 

9 ธ.ค.2563 นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ Economic Intelligence Center (EIC) กล่าวว่า คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะหดตัวที่ติดลบ 6.5% ดีขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ ติดลบ 7.8% โดยแนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาส 4/2563 จะฟื้นตัวในอัตราที่ชะลอลง เนื่องจากการกลับมาระบาดของโควิด-19 ในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกในช่วงปลายปี ขณะที่การระบาดในไทยที่เริ่มมีขึ้นอีกครั้ง ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงสั้นได้

ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2564 คาดว่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกเนื่องจากฐานที่ต่ำ ที่ระดับ 3.8% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงเม็ดเงินของภาครัฐทั้งจากงบประมาณปกติและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงการกระจายวัคซีนในช่วงครึ่งหลังชองปี แต่ผลของแผลเป็นทางเศรษฐกิจ (scarring effects) จะยังคงกดดันการฟื้นตัวของอุปสงค์ภาคประชาชน รวมถึงประเมินว่าเม็ดเงินจากภาครัฐคาดว่าจะมีจำนวนมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ดี ประมาณ 9.8% และยังมีวงเงินเหลือจากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินฉุกเฉิน วงเงิน 1 ล้านล้านบาท อีกประมาณ 5 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลสามารถนำมาใช้ได้ในปี 2564
สำหรับภาคส่งออกของไทย ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยคาดว่าจะขยายตัวที่ 4.7% ตามทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลก ส่วนแนวโน้มเงินบาทนั้น ยังประเมินว่ามีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องตามทิศทางการอ่อนค่าลงของเงินดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะเป็นปัจจัยกดดันการส่งออกในปี 2564 ด้วย โดยคาดว่าในปีหน้าเงินบาทจะทรงตัวที่ระดับ 29.50-30.50 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ

“ล่าสุดที่รัฐบาลได้ออกมาตรการคนละครึ่งระยะที่ 2 และให้เงินสนับสนุนเพิ่มเติมกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงขยายเวลามาตรการเราเที่ยวด้วยกัน ถือเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลยังพร้อมใช้มาตรการเพื่อพยุงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการใช้จ่ายของภาคประชาชน ขณะที่ข่าวดีเรื่องการค้นพบวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพสูงนั้น จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าอีกด้วย ซึ่ง EIC คาดว่าประชากรในประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่จะได้รับการฉีดวัคซีนในครึ่งแรกของปี 2564 ขณะที่ไทยเองคาดว่าจะเริ่มต้นได้รับวัคซีนที่จองซื้อไว้ช่วงกลางปีและจะมีการฉีดอย่างแพร่หลายในช่วงครึ่งปีหลัง จึงทำให้คาดว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าแน่นอน ทำให้คาดว่าในปี 2564 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะอยู่ที่ 8 ล้านคน” นายยรรยง กล่าว
ด้านนโยบายการเงิน คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ตลอดปี 2564 รวมทั้งใช้มาตรการเฉพาะจุดร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการส่งผ่านนโยบายการเงินและสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และการจัดการกับหนี้เสีย ภาวะการเงินโดยรวมของไทยยังคงอยู่ในระดับผ่อนคลายจากการที่ ธปท. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและลดค่าใช้จ่ายด้านการชำระหนี้ให้แก่ครัวเรือนและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ

“ในระยะต่อไป EIC คาดว่า ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ตลอดปี 2564 ควบคู่กับการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเมื่อจำเป็น เพื่อดูแลดอกเบี้ยในตลาดการเงินให้อยู่ในระดับต่ำซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายใต้แนวโน้มเงินเฟ้อที่จะยังอยู่ในระดับต่ำ” นายยรรยง กล่าว

อย่างไรก็ดี EIC มองว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2564 ยังมีความเสี่ยงด้านต่ำที่สำคัญ ประกอบด้วย 1. การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 และความล่าช้าในการกระจายวัคซีนในไทยอย่างแพร่หลาย 2. แผลเป็นทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลต่อเสถียรภาพสถาบันการเงินผ่านระดับหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อความสามารถในการเข้าถึงเงินทุนของภาคเอกชน 3. ปัญหาเสถียรภาพการเมืองในประเทศ ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน 4. ภัยแล้ง และ 5. เงินบาทที่แข็งค่าเร็วกว่าคู่ค้าคู่แข่งซึ่งอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ต่างประเทศ

นอกจากนี้ ในระยะปานกลาง ต้องจับตาจำนวน Zombie Firm (ธุรกิจที่ขาดความสามารถในการทำกำไรเพื่อชำระดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเวลานาน) ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากวิกฤตในรอบนี้ จากการปรับตัวของธุรกิจที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค แต่สามารถอยู่รอดได้จากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ ซึ่งจะทำให้การกระจายทรัพยากรไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลิตภาพในการผลิตและศักยภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวมลดลง
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"