"วัฒนา" เผยก๊วนเจ๊หน่อยตั้งพรรคใหม่ ยื่น กกต.ไปแล้ว เผยเหตุทิ้งเพื่อไทยเพราะขัดแย้งแกนนำให้ไปปิดสวิตช์เดินตามก้นพรรคเด็ก ชี้รุกอย่างเดียวไม่มีใครยอม ต้องเปลี่ยนอย่างสันติ ปัดแตกหักทักษิณ-พจมาน แต่ไม่ไปอยู่ใต้ร่มเงาใคร ต้นไม้ใหญ่ไปอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ไม่ได้ ย้ำแก้ รธน.คือเรื่องใหญ่สุด

    เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกกลุ่มสร้างไทย     อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และคนใกล้ชิด ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่าการที่ลาออกจากพรรคไม่ได้มีการทะเลาะ ไม่ได้แตกกัน เพียงแต่ขัดแย้งกันทางความคิด เพราะคิดไม่เหมือนกัน
    "การเมืองเหมือนกับนั่งรถคันเดียวกัน หากผมอยากเลี้ยวซ้าย คนขับอยากเลี้ยวขวา เห็นไม่ตรงกัน เมื่อไม่อยากแย่งพวงมาลัย เลยขอลงจากรถดีกว่า"
    เขากล่าวว่า ประเด็นในเชิงหลักการที่ไปด้วยกันไม่ได้คือ ยุทธศาสตร์ที่พรรคการเมืองต้องมี ก่อนหน้านี้ตนอยู่ร่วมทำงานในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่ขับเคลื่อนทางการเมืองวันต่อวัน แต่ในแง่ของพรรคคิดว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์ไม่จำเป็น เปลี่ยนมาเป็นกรรมการบริหารพรรคมาดูแลแทน แต่กรรมการบริหารพรรคไม่ได้ดูปัญหาวันต่อวัน ตนคิดว่าไม่ทันเลยลาออก ตอนนั้นก็คิดไม่ตรงกัน
    "ขณะนั้นก็มีแนวคิด บอกให้เราต้องไปปิดสวิตช์อะไร ก็ไม่อยากไปพาดพิงพรรคอื่น แต่พรรคเพื่อไทยก็เป็นพรรคใหญ่ เรามีทิศทางของเรา ควรเดินไปเอง ไม่ควรไปเดินตาม ตลาดการเมืองคนละตลาด เราไปเดินด้วย ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้ตลาดนั้นมา ไม่มีประโยชน์ การมองปัญหาระดับเด็ก กลาง ใหญ่ ก็มองไม่เหมือนกัน แล้วแต่ประสบการณ์ ผมมองว่าทางออกที่ดีคือทางนี้ การเปลี่ยนแปลงก็มีแน่ และต้องเปลี่ยนแปลงอย่างสันติ"
    ถามว่าอำนาจใหม่เพื่อไทยเล่นเกมการเมืองเกาะหลังเด็กหรือไม่ นายวัฒนาปฏิเสธว่า ไม่เชิงอย่างนั้น แต่คงไม่มีใครไปเกาะหลังใคร แต่เขาอาจคิดว่าแนวทางอย่างนี้ถูกต้อง เราเห็นว่ารัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดแล้ว คิดว่าต้องเดินไปสู่ตรงนี้ แล้วนำประเทศไปสู่เลือกตั้ง คิดว่าการเปลี่ยนแปลงบางเรื่องทำไม่ได้ทันทีในข้ามคืน การเมืองต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน ทุกคนก็ต้องพร้อมร่วมมือกับเรา การที่จะไปรุกอย่างเดียวคงไม่มีใครเขายอมหรอก การเปลี่ยนแปลงอย่างสันติ ต้องเดินวิธีนี้ เมื่อเราคิดไม่เหมือนกัน ก็มีแค่เราจะแย่งพวงมาลัยหรือลงจากรถ
    ซักว่ายุทธศาสตร์ในอำนาจใหม่เพื่อไทย เขาหวังจะเคลียร์พล.อ.ประยุทธ์ให้ร่วมไปบวกกับพลังประชารัฐตั้งรัฐบาลใหม่หรือไม่ นายวัฒนาปฏิเสธว่า ไม่ทราบ ส่วนโหร คมช.จะทำนายอะไร ก็ไปโหนที่อื่น อย่ามาโหนแถวพวกตน  
    นายวัฒนายังกล่าวถึงทิศทางการเมืองวันข้างหน้าว่า คงจะไปตั้งพรรค เพราะลาออกเป็นหมู่คณะ จะบอกไปร่วมหุ้นทำร้านก๋วยเตี๋ยวคงไม่มีใครเชื่อ เราคงตั้งพรรคการเมือง ไม่ได้ออกมาเพื่อไปรวมกับใคร และไม่ได้ออกมาเพื่อแตกแบงก์ย่อย ไม่ต้องจินตนาการ และไม่ได้เป็นสาขาของใคร เป็นไปไม่ได้ เพราะแบงก์ย่อยจะถูกยกเลิกเมื่อเรามี ส.ส.ร. จะมีการเขียนรัฐธรรมนูญกันใหม่  
    ถามว่า พรรคใหม่ คุณหญิงสุดารัตน์ให้คนไปแจ้งตั้งแล้วใช่หรือไม่ เขาตอบว่า ต้องยอมรับว่ามีการพูดคุยกัน แต่ไม่ได้ตั้งรอก่อนจะออกจากพรรคเพื่อไทย แต่พอออกมาก็บอกว่าคงทำเรื่องนี้แล้ว ไม่อย่างนั้นจะถูกตีความไปต่างๆ นานา
    "เราก็จะตั้งพรรคของเรา ได้ยื่นไปยัง กกต.แล้ว ส่วนจังหวะเปิดตัวพรรคใหม่นั้น การเมืองของประเทศจะไปสู่การเลือกตั้งใหม่แน่นอน แต่ประชาชนควรมองไปยังรัฐธรรมนูญใหม่ที่จะร่างออกมา ส.ส.ร.ที่มาเป็นแบบไหน เพื่อให้มีความเป็นธรรมมากที่สุด นับหนึ่งกันใหม่ ตอนนี้แก้อะไรไม่ได้แล้ว เพราะมาไกลเกินไปแล้ว คิดว่านับจากนี้ประมาณหนึ่งปีครึ่งน่าจะมีการเลือกตั้ง จากนี้ไปเราคงต้องเตรียมตัว"
    เมื่อถามว่าพรรคใหม่ยังคงมีเงานายทักษิณ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร หรือไม่  แกนนำกลุ่มสร้างไทยผู้นี้ตอบว่า เราเป็นตัวของเราเองแน่นอน ออกมาขนาดนี้ จะไปอยู่ใต้ร่มเงาใคร ต้นไม้ใหญ่ไปอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ไม่ได้หรอก คนที่ออกมา คุณหญิงสุดารัตน์เป็นแคนดิเดตนายกฯ นายโภคินก็เป็นอดีตประธานรัฐสภา ส่วนที่มีการตั้งคำถามทำนองตนก็เป็นหนึ่งในคนที่สนิทสนมกับนายทักษิณ ทำไมออกมากับคุณหญิงสุดารัตน์ ต้องบอกว่าเราไม่ได้ทะเลาะ ขัดแย้งกับนายทักษิณ คุณหญิงพจมาน แต่ตนขัดแย้งกับผู้บริหารพรรคเพื่อไทย เมื่อเห็นไม่ตรงกันเลยต้องออกมา
    ถามว่าตอนนี้ยังใช้กลุ่มสร้างไทยไปก่อน นายวัฒนาชี้แจงว่า  ตอนนี้มีคุณหญิงสุดารัตน์ นายโภคิน ที่ออกมา ส่วนนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ยังอยู่พรรคเพื่อไทย แต่หลังจากนี้คงจะมีอีกหลายคน   
    ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีนายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรคณะมนตรีความมั่นแห่งชาติ (คมช.) ออกมาทำนายว่าจะอยู่ยาวจนถึงการเลือกตั้งในสมัยต่อไป และ 3 ป.ยังมีชื่ออยู่ต่อ ว่าเป็นการคาดเดาในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เป็นเรื่องคำทำนาย ก็ว่ากันไป แต่เรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องที่ตนต้องดำเนินการ ซึ่งคงไม่ได้ทำตามคำนายทั้งหมด ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะต้องใช้หลักการในการบริหารราชการแผ่นดินของตน
    ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีโอกาสไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เพื่อที่จะได้ลงสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีในระบบบัญชีรายชื่อต่อ พล.อ.ประยุทธ์หยุดฟังคำถามก่อนที่จะเดินหนีออกจากโพเดียมแถลงข่าวทันทีโดยไม่ตอบอะไร
    ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เรื่องเดียวกันว่า ต้องไปถามโหรดู ตนไม่ได้เป็นโหรจึงไม่รู้   
    ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินสถานการณ์หรือไม่ว่าปีหน้าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งยังไม่รู้เหมือนกัน เพราะไม่มีใครรู้ล่วงหน้า
    ถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์เรื่องการสมัครเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า ยังไม่คุย ทำไมต้องคุยด้วย เรื่องนี้ต้องแล้วแต่ตัวนายกฯ ต้องไปถามนายกฯ
     เมื่อถามว่า ถ้าอยู่ 2 สมัยยังสู้อยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า ใคร ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เพราะนายวารินทร์บอกว่ารัฐบาลอยู่ยาว จนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ต้องไปถามนายวารินทร์ดู ในส่วนของตนนั้นไม่ไหว.