สนช.รื้อกม.จัดมหรสพหาเสียง


เพิ่มเพื่อน    

กกต.เตรียมชี้แจงกลุ่มจัดตั้งพรรคใหม่ 9 ก.พ.นี้ เผยมีแจ้งความประสงค์เข้าร่วมแล้ว 10 กลุ่มการเมือง ระบุพรรคทำไพรมารีโหวตมีเวลาจริงแค่ 19 วัน  กมธ.แก้ร่าง พ.ร.บ.เลือกตั้ง ให้จัดมหรสพได้ ยกเหตุจูงใจให้คนมาฟังการหาเสียง "เพื่อแม้ว" คึกคัก! สมาชิกตบเท้าอวยพรปีใหม่ "พ่อใหญ่จิ๋ว-ป๋าเหนาะ-หญิงหน่อย-วิโรจน์"  ก๊วนอีสานลั่นไม่ทิ้งพรรค เตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง  
     ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วันที่ 10 มกราคม พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการกกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เปิดเผยว่า  กกต.เตรียมที่จะจัดชี้แจงให้กับกลุ่มบุคคลที่สนใจจัดตั้งพรรคการเมือง เพื่อให้ทราบถึงกระบวนการจัดตั้งพรรคการเมืองตามกฎหมายใหม่ โดยจะจัดการประชุมชี้แจงในวันที่ 9 ก.พ.นี้ ซึ่งกลุ่มบุคคลที่สนใจสามารถลงทะเบียนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ โทรศัพท์ 0-2141-8478  โทรสารหมายเลข 0-2143-8584 และส่งผ่านอีเมล [email protected] โดยให้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมรับฟังได้ไม่เกิน 3 คนต่อกลุ่มการจัดตั้งพรรค เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 26 มกราคม 2561  
    "ขณะนี้มีผู้ยื่นความจำนงขอเข้าร่วมรับฟังแล้ว 10 กลุ่ม รวม 26 คน ซึ่งในวันดังกล่าวทาง กกต.จะได้จัดเตรียมในเรื่องของคู่มือ แบบฟอร์มต่างๆ ไว้ให้กับกลุ่มการเมือง เพื่อที่เมื่อถึงวันที่ 1 มี.ค. ที่คำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 กำหนดให้กลุ่มการเมืองที่จะประสงค์จะจัดตั้งพรรคได้ยื่นคำขอจดจัดตั้งพรรคกับ กกต.ได้เลย" 
     พ.ต.อ.จรุงวิทย์ยังกล่าวถึงแนวปฏิบัติของพรรคการเมืองตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 53/2560 ว่า ในส่วนของพรรคการเมืองเก่า สมาชิกพรรคการเมืองต้องยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคต่อหัวหน้าพรรคในวันที่ 1-30 เม.ย. โดยตามคำสั่ง คสช.ดังกล่าว กำหนดให้ยื่นกับหัวหน้าพรรค ไม่ใช่ยื่นกับกรรมการบริหารพรรค ที่ต้องขออนุญาต คสช.เพื่อเรียกประชุม ดังนั้นหัวหน้าพรรคจึงสามารถแจ้งปรับปรุงฐานข้อมูลสมาชิกพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองได้เลยเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ
       ส่วนกลุ่มการเมืองที่จะจัดตั้งพรรคใหม่ แม้จะยื่นเรื่องต่อนายทะเบียนแล้วในวันที่ 1 มี.ค. แต่การจัดประชุมกรรมการบริหารพรรคยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะต้องรอให้มีการปลดล็อกพรรคการเมืองก่อน ทั้งนี้ เห็นว่าการดำเนินการของพรรคการเมืองให้เป็นไปตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง จะสมบูรณ์ได้ต่อเมื่อสามารถจัดประชุมได้ คือต้องปลดล็อกพรรคการเมืองก่อน แต่ก็ขึ้นกับ คสช.ที่ต้องพิจารณาในเรื่องของปัญหาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย กกต.คงไม่สามารถไปก้าวก่ายการพิจารณาของ คสช.ได้
    ด้านนายสมพล พรผล ผู้อำนวยการสำนักกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองมีความเป็นห่วงว่าการปลดล็อกล่าช้าจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องการจัดทำไพรมารีโหวตว่า ตามเนื้อหาในร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่สภานิติบัญญัติแห่ชาติ (สนช.) กำลังพิจารณาอยู่นั้น ได้กำหนดว่า หลัง พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.บังคับใช้ ต้องมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งภายใน 90 วัน จากนั้น กกต.ต้องประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง ประกาศจำนวน ส.ส. ประกาศเขตเลือกตั้งภายใน 5 วัน ที่สำคัญกฎหมายระบุว่าต้องประกาศวันรับสมัครภายใน 20 วัน นับแต่มีพระราชกฤษฎีกา 
    "เท่ากับพรรคการเมืองเหลือเวลาที่จะดำเนินกระบวนการจัดทำไพรมารีโหวตประมาณ 19 วันเท่านั้น แม้ในพื้นที่ขณะนี้พรรคการเมืองจะทราบว่าการแบ่งเขตจะเป็นอย่างไร แต่ก็ต้องรอกฎหมายเลือกตั้งบังคับใช้ และรอการประกาศเขตเลือกตั้งก่อน จึงจะดำเนินการได้ ดังนั้นพรรคการเมืองจะทำไพรมารีโหวตทันหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของพรรคการเมือง" นายสมพลกล่าว 
จัดมหรสพหาเสียงได้
    ที่รัฐสภา นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน โฆษกกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวว่า อยู่ระหว่างการทบทวนเนื้อหารายมาตราประเด็นที่ กมธ.ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม อาทิ มาตรา 35 คือบุคคลใดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะถูกจำกัดสิทธิการไปสมัครรับราชการเป็นเวลา 2 ปี อีกประเด็นที่แก้ไขคือมาตรา 75 เรื่องข้อห้ามการหาเสียง ที่มีการตัดถ้อยความที่ กรธ.เสนอห้ามให้มีการแสดงมหรสพ งานรื่นเริง มาประกอบการหาเสียง ซึ่ง กมธ.ได้แก้ไขหลักการของ กรธ.ให้สามารถมีการแสดงมหรสพและงานรื่นเริงเพื่อใช้ประกอบการหาเสียงได้
    นายเสรี สุวรรณภานนท์ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส กล่าวว่า เหตุผลที่ กมธ.เห็นว่าควรให้มีมหรสพ อาทิ การแสดงดนตรีรื่นเริง ลิเก เพื่อเป็นกลยุทธ์จูงใจให้ประชาชนมารับฟังการหาเสียงมากขึ้น ส่งเสริมให้คนตื่นตัวทางประชาธิปไตย หากเปิดเวทีหาเสียงอย่างเดียว โดยไม่มีการจูงใจเรื่องมหรสพจะมีประชาชนมาฟังนโยบายหาเสียงน้อย ค่าใช้จ่ายในส่วนการแสดงมหรสพจะถูกนำไปคิดรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งด้วย ส่วนข้อกังวลที่เป็นช่องให้ขนคนมาดูมหรสพเพื่อซื้อเสียงนั้น ขณะนี้เทคโนโลยีต่างๆ ก้าวหน้าไปมาก มีโทรศัพท์สามารถถ่ายคลิปการทุจริตซื้อเสียงได้ คงไม่มีใครกล้าเสี่ยงทำผิด  
    ที่พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค อดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส.หลายคน เดินทางเข้ามาอวยพรปีใหม่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าเก็บบรรยากาศและทำข่าว  
    นายภูมิธรรมกล่าวถึงการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ว่า เรื่องนี้เราได้แถลงไปตั้งแต่ก่อนปีใหม่ ยังยืนยันว่าเราจะใช้ทุกช่องทางที่มีโอกาสในการนำเสนอเรื่องนี้ให้กับผู้มีอำนาจ ขณะนี้เรากำลังดูข้อกฎหมายอยู่ หากปล่อยให้คลุมเครือก็จะเป็นปัญหาได้ พรรคการเมืองและประชาชนเองต่างก็อยากให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ดังนั้นหากทำทุกอย่างให้มีความชัดเจนและดำเนินการไปตามครรลอง ก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด คิดว่าเช้าวันจันทร์ 15 ม.ค.นี้จะสามารถดำเนินการได้
     "การที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศตัวชัดเจนว่าพร้อมที่จะเป็นนายกฯ คนนอกที่มาตามรัฐธรรมนูญว่า ถือเป็นเรื่องดี ถ้าผู้มีอำนาจอยากเข้าสู่กระบวนการตัดสินใจของประชาชน แต่ควรที่จะกำจัดข้อได้เปรียบ ความไม่ยุติธรรม หรือความไม่เท่าเทียมกันของทุกฝ่ายให้หมดไป ยิ่งทำได้มาก ยิ่งเป็นเกียรติภูมิของนายกฯ การที่ใช้และสร้างกลไกต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตนก็อาจเข้ามาสู่อำนาจได้ แต่จะไม่มีความสง่างาม" นายภูมิธรรมกล่าว 
     ส่วนกรณีที่ 2 พรรคใหญ่จะจับมือกันเพื่อสกัดนายกฯ คนนอกนั้น รักษาเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า เรื่องนี้ที่สำคัญแต่ละพรรคควรเริ่มต้นจากตัวเอง  สำหรับเราชัดเจนว่าปฏิเสธนายกฯ คนนอก การสืบทอดอำนาจผ่านพรรคทหารหรือพรรคอะไรก็ตาม เว้นแต่เป็นกระบวนการที่เข้ามาสู่กระบวนการเลือกตั้ง เรื่องที่จะจับมือกับใครยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ที่สำคัญคือคุณชัดเจนหรือไม่ที่จะเลือกนายกฯ ที่มาจากการตัดสินใจของประชาชน
พท.คึกพร้อมเลือกตั้ง
    ต่อมา เวลา 13.00 น. อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ภาคอีสาน นำโดยนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ประธานภาคอีสาน, นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายไพจิต ศรีวรขาน อดีต ส.ส.นครพนม,   นายธเนศ เครือรัตน์ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ และอดีต ส.ส.อีสานกว่า 40 คน ได้เข้าอวยพรปีใหม่ต่อ พล.ต.ท.วิโรจน์  โดยในการอวยพรนายประยุทธ์กล่าวยืนยันว่า จะยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่พรรคเพื่อไทย ส.ส.อีสานได้พูดคุยในฐานะเพื่อนฝูง เมื่อเจอตามโอกาสต่างๆ แม้จะถูกสังคมการเมืองจับตามองว่าจะอยู่หรือจะไป เพราะเป็นพื้นที่แข่งขันสูงเป็นพื้นที่แย่งชิงสูง แต่ขอเรียนท่านหัวหน้าแทนเพื่อนสมาชิกว่า ขอยืนหยัดที่จะเคียงบ่าเคียงไหล่กับหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค คือคำยืนยัน ชีวิตนี้ให้ใครไม่ได้แล้ว จะผ่องแผ้วมืดมิดไม่คิดหนี  ขอมอบให้เพื่อไทยทั้งชีวี จะสิ้นลงตรงนี้ก็ยอมตาย นี่คือความในใจ  
    ขณะที่ พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าวตอบว่า พวกเราเป็นที่พึ่งของประชาชน วันนี้เรารอดตายแล้ว รอดอย่างปาฏิหาริย์ ตน เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคจะดูแลรักษาสิ่งนี้ไว้ สถานการณ์ขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร มีข่าวการเลือกตั้ง มีข่าวการสืบทอดอำนาจ พวกเราไม่ต้องสนใจ ขอให้ทุกคนทุกฝ่ายเตรียมการเลือกตั้งไว้ให้พร้อม แม้จะมีข่าวการดึงตัวหรือการแยกพวกเราออกไป อย่าไปหวั่นไหว ขอให้ทุกคนเตรียมพร้อมกับการเลือกตั้ง และพรรคก็ยังยึดมั่นตามอุดมการณ์ของพรรค
    ช่วงเย็นวันเดียวกัน แกนนำพรรคและอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปอวยพรปีใหม่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ และนายเสนาะ เทียนทอง อดีตรมว.มหาดไทย ตามลำดับ สำหรับที่บ้านปิ่นประภาคมพล.อ.ชวลิตเปิดบ้านให้อดีต ส.ส.อีสาน พรรคเพื่อไทย นำโดยนายชวลิต วิชยสุทธิ์, นายไพจิต ศรีวรขาน, นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ เข้าอวยพรปีใหม่ โดย พล.อ.ชวลิต กล่าวยืนยันว่า จะไม่ขอยุ่งกับการเมืองในรูปแบบปัจจุบัน แต่ขอยุ่งกับประชาชน โดยจะจัดตั้งกองกำลังส่วนที่ 3 เป็นกองกำลังที่ปฏิบัติงาน เพื่อประชาชนเป็นหลัก เนื่องจากวันนี้ประชาชนยังมีความยากลำบากอยู่จึงขอนำประชาชนไปทำในสิ่งที่ถูกต้อง 
    "หากผมได้มีโอกาสกลับเข้าไปมีตำแหน่งหน้าที่แบบเมื่อก่อนนี้ จะปรับหลักสูตรโรงเรียนนายร้อยฯ ให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และไม่ว่าในอนาคตประเทศไทยจะใช้ระบอบการปกครองอะไรก็ตาม ทั้งประชาธิปไตย สังคมนิยม หรือคอมมิวนิสต์ แต่ก็ขอให้ทำเพื่อประชาชน และยังขอให้พรรคเพื่อไทยแก้ ปัญหาให้ประชาชนในทางที่ถูกต้อง เพราะประชาชนมุ่งหวังให้พรรคเพื่อไทยเป็นใหญ่ในแผ่นดิน สร้างความมั่นคงให้ประเทศและราชบัลลังก์ และขอให้อดทน เพราะงานการเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย" พล.อ.ชวลิตกล่าว
     นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี คสช.จะใช้อำนาจตาม ม.44 เท่าที่จำเป็นว่า ม.44 ที่มีใช้ก่อนหน้านี้เป็นการใช้ที่ไม่ตรงกับเจตนารมณ์ ทั้งการใช้แก้ปัญหาประชาชนนั่งท้ายรถกระบะ โยกย้ายข้าราชการ ซึ่งไม่เข้าเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนด คงคิดว่าไม่มีใครตรวจสอบได้จึงใช้ไป แต่แสดงถึงความพิการของระบบกฎหมาย 
ออก พรบ.กลางเลิก ม.44
    "เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้ มีองค์การตามรัฐธรรมนูญ มีคนทำหน้าที่ต่างๆ แล้วก็ไม่ควรใช้ ม.44 อีก อย่างกรณีคำสั่ง 53/2560 หากจะมีการแก้ไขกฎหมาย ก็ต้องเป็นหน้าที่ของ สนช. เพราะมีการระบุวิธีแก้ไขไว้ชัดเจน แต่กลับใช้ ม.44 โดยพร่ำเพรื่อ เมื่อมีสภาทำหน้าที่แล้วยังใช้อำนาจเช่นนี้อีก จะมีสภาไว้ทำไม อีกทั้งม.44 ถือเป็นอำนาจของกฎหมายเผด็จการ เรามีรัฐธรรมนูญแล้ว แม้จะมีการเปิดช่องไว้ แต่เพื่อความถูกต้องไม่ควรใช้เลย หากจะใช้ก็ควรใช้เฉพาะกรณีที่ไม่มีเขียนให้อำนาจหน้าที่หน่วยงานใดดำเนินเรื่องนั้นเลย" นายชูศักดิ์กล่าว  
    ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการกำหนดเงื่อนไข 4 ข้อการใช้มาตรา 44 ว่า ตนได้ชี้แจงเรื่องนี้ในที่ประชุม ครม. เนื่องจากมีหน่วยงานต่างๆ  หลายกระทรวงเสนอเพื่อขอให้ใช้คำสั่งมาตรา 44 จำนวนมาก หากไม่วางหลักเกณฑ์ไว้ จะทำให้ออกมาเยอะแยะมากเกินไป ดังนั้น เมื่อเราต้องการเก็บเอาไว้ออกในเรื่องสำคัญจริงๆ จึงต้องมากำหนดและวางหลักเกณฑ์ว่าเรื่องไหนบ้างที่จะใช้มาตรา 44 และจะได้แจ้งให้ทุกกระทรวงได้รับทราบ จุดประสงค์คือเราต้องการตั้งป้อมสกัดใม่ให้ออก ม.44 ถ้าไม่จำเป็น ทั้งนี้ เมื่อ คสช.พ้นไป ต้องยกเลิกโดย พ.ร.บ. และเป็นไปได้ที่จะออก พ.ร.บ.กลางฉบับหนึ่งเพื่อยกเลิกคำสั่ง คสช.ทีเดียวไปเลย
    ส่วนกรณีปรากฏภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคไม่ได้ติดต่อกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นักข่าวเก่งกว่า ก็ฟังจากนักข่าว คิดว่าข่าวก็คลี่คลายมาเป็นลำดับ คงมีเบาะแสอะไรที่ชัดเจนขึ้นเร็วๆ นี้
    นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ปรากฏออกมาทางสื่อในขณะนี้เป็นภาพจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ที่ประเทศอังกฤษ แต่ไม่ทราบว่าได้ยื่นขอลี้ภัยทางการเมืองหรือไม่ 
      นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช.ตรวจสอบการครอบครองนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ว่าจนถึงขณะนี้พบภาพนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร เป็นเรือนที่ 18 แล้ว และมีแนวโน้มว่าอาจพบอย่างต่อเนื่อง ไม่เข้าใจว่าทำไม พล.อ.ประวิตรจึงไม่รีบชี้แจงที่มานาฬิกาหรูดังกล่าว เพราะยิ่งพบนาฬิกาเพิ่ม เวลาแห่งการชี้แจงของ พล.อ.ประวิตรยิ่งลดลง พร้อมๆ กับความเชื่อมั่นทางการเมืองก็จะลดลงตามอย่างต่อเนื่อง แปลกใจว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์จึงไม่ดำเนินการใดๆ กับ พล.อ.ประวิตร เพราะขนาดผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่อาจไปเกี่ยวข้องกับปมทุจริตโครงการอุโมงค์ไฟ 39 ล้านบาท ท่านยังใช้มาตรา 44 ปลดมาแล้ว ทั้งนี้สังคมอยากเห็น ป.ป.ช.ทำงานอย่างเข้มแข็ง ไม่เหยาะแหยะ และไม่อยากให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบแบบสองมาตรฐาน. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"