8 ธ.ค.63 - จากกรณีที่มีนักศึกษาสาว อายุ 19 ปี เรียนอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ได้ไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กเป็นคลิปวิดีโอ ขณะที่ตัวเองถูกนายก้อง (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นอดีตแฟนที่เลิกรากันไปแล้ว และเป็นลูกชายของตำรวจสังกัด สภ.แห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ใช้กำลังทุบตีทำร้ายร่างกาย ทั้งตะโกนต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยระหว่างที่ฝ่ายชายตะโกนต่อว่าฝ่ายหญิง ก็ใช้กำลังตบตีฝ่ายหญิงเป็นระยะ โดยไม่สนว่าฝ่ายหญิงจะขอร้องให้หยุด ทั้งนี้บางช่วงก็มีการบังคับให้ฝ่ายหญิงก้มกราบเท้าด้วย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกลางดึก คืนวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในห้องเช่าแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเพื่อนของนายก้องเช่าอยู่ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด พ่อแม่ และพี่ชาย ได้พาน้องปิ่น(นามสมมุติ)​ ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.มานพ อักษรณรงค์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายก้องอดีตแฟนที่ทำร้ายร่างกายและกังขังหน่วงเหนี่ยว โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนก็ได้ทำการสอบปากคำน้องปิ่นผู้เสียหาย ก่อนจะเรียกนายก้องผู้ที่ถูกกล่าวหามาสอบปากคำและแจ้งข้อหากล่าวหา แต่หากนายก้องไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็จะต้องออกหมายเรียกและหมายจับตามขั้นตอน จากนั้นก็จะรวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องตามกระบวนการ

จากการสอบถามนายปรีชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี พ่อของน้องปิ่น บอกว่า ตอนแรกที่มีคนโทรศัพท์มาบอกว่าลูกสาวไลฟ์สดถูกทำร้ายร่างกายก็ตกใจมาก แต่ก็ไม่กล้าจะถูกคลิปเพราะสะเทือนใจ และสงสารลูกสาวไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ที่ผ่านมาลูกสาวก็ไม่ได้ปิดบังว่าคบหากับนายก้อง ก็เล่าให้พ่อแม่ฟังว่าคบหากัน ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ห้ามแค่ตักเตือนตามประสาคนเป็นพ่อที่เป็นห่วงลูกสาว แต่ลูกก็ไม่เคยเล่าให้ฟังถึงพฤติกรรมของฝ่ายชาย จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น​ก็เสียใจและรับไม่ได้ เพราะเป็นการกระทำที่รุนแรงมาก สำหรับหัวอกคนเป็นพ่อก็ยืนยันว่าจะดำเนินการคดีตามกฎหมาย

ด้านนายเปีย​ (นามสมมุติ)​ พี่ชายของน้องปิ่น บอกว่าส่วนตัวจะสนิทกับน้องคุยกันได้ทุกเรื่อง ที่ผ่านมาน้องก็จะเล่าให้ฟังว่าเคยถูกฝ่ายชาย ทำร้ายร่างกายหลายครั้งเวลาที่ไม่พอใจเพราะฝ่ายชายเป็นคนอารมณ์ร้อน ซึ่งตนก็เตือนน้องว่าควรจะดูกันดีๆ ก่อนค่อยคบหากัน ซึ่งน้องสาวก็บอกว่าอยากจะเปลี่ยนพฤติกรรมของฝ่ายชายจึงให้โอกาส แต่พอมาเจอเหตุการณ์นี้หดหู่ใจมากไม่คิดว่าจะทำรุนแรงกับน้องได้ขนาดนี้  ก็อยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด