เวทีถกแก้หนี้ครู สหกรณ์ออมทรัพย์ ลุกขึ้นโวย ไม่ควรให้สกสค.เป็นเจ้าภาพ แต่ควรให้สหกรณ์เจ้าหนี้จัดการ


เพิ่มเพื่อน    


8ธ.ค.63-ที่หอประชุมคุรุสภา คณะอนุกรรมาธิการพิจรณาหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ได้เชิญประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกว่า 108 แห่งทั่วประเทศ ร่วมประชุม เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยั่งยืน

นายปรีดา บุญเพลิง ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครู สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หลังจากคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้ศึกษา สำรวจและออกรับฟังความคิดเห็นจากผู้แทนครู ผู้นำองค์กรวิชชีพครู เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิตครู ชมรมข้าราชการครูบำนาญ ตัวแทนสถาบันการเงินและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั่วประเทศมาระยะหนึ่ง ทั้งนี้สามารถสรุปเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา ได้ 2 แนวทาง คือ ระยะเร่งด่วน และระยะยั่งยืน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องนำมาพูดคุยและหารือกับกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศซึ่งถือว่าเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของครู อีกทั้งจะต้องหาแหล่งเงินทุนตั้งเป็นกองทุนพัฒนาครูไทย เพื่อเปิดช่องให้ครูได้กู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูก เพื่อนำไปล้างหนี้เดิม ตนเชื่อว่าวิธีดังกล่าวจะสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สิ้นให้ครูได้

นายปรีดา กล่าวต่อว่า สำหรับการหารือกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศ ทำให้ได้รับความคิดเห็น ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข ความเป็นไปได้และที่มีประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างเป็นระบบจากประธานและผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทุกแห่ง โดยประเด็นที่น่าสนใจ คือ รัฐต้องมีความจริงใจที่จะแก้ไข จัดหาแหล่งทุนที่มีดอกเบี้ยต่ำ อีกทั้งต้องมีการรวมหนี้สินครูไว้ที่เดียว มีสวัสดิการที่ดีในการดูแลช่วยเหลือครู มีการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขหนี้สินครู และมีมาตรการควบคุมวินัยการใช้จ่ายเงินของสมาชิกที่เข้าโครงการอย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต้องมีการกำกับ ติดตาม ประเมินผลการดำรงชีวิตที่ดี อย่างต่อเนื่อง และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศเห็นด้วย พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการฯ จะได้นำผลการประชุมสัมมนาวันนี้ไปสรุปและเสนอที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ พิจารณา เพื่อสรุปเป็นแนวทางแก้ไขหนี้สินครูอย่างเป็นระบบ ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นต่อไปโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศในครั้งนี้ มีตัวแทนจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูต่าง ๆ ได้ลุกขึ้นอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูมีมายาวนานแต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ เพราะขาดความจริงใจจากรัฐบาล และไม่ควรใช้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เป็นหน่วยงานในการแก้ไขปัญหานี้ เนื่องจาก สกสค.ไม่มีเม็ดเงินที่จะเข้ามาดำเนินการได้โดยตรง แต่ควรให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของครูเป็นผู้ดำเนินการ ดังนั้นการที่คณะอนุกรรมาธิการฯเข้ามาพูดคุยและดึงสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเข้ามาร่วมระดมความคิดในการแก้ไขปัญหาจึงเป็นเรื่องที่ดี และถือว่ามาถูกทางที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"