นักข่าวอิรักที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลกจากเหตุขว้างรองเท้าใส่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช เมื่อปี 2551 ลงสมัคร ส.ส. ประกาศจะตามราวีนักการเมืองโกงกิน

    มุนตาเซอร์ อัลไซดี วัย 39 ปี เผยกับเอเอฟพีเมื่อวันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม ถึงสาเหตุที่เขาตัดสินใจสมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.ในการเลือกตั้งทั่วไปของอิรักที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 พฤษภาคมว่า ความปรารถนาของเขาคือจับนักการเมืองที่โกงกินเข้าคุกให้หมด และให้นักการเมืองเหล่านั้นสำนึกเสียใจรวมถึงยึดทรัพย์นักการเมืองฉ้อฉล เขาต้องการเป็น ส.ส.เพื่อนำเงินหลวงที่ถูกขโมยไปกลับคืนมา

    เมื่อเดือนธันวาคมปี 2551 ระหว่างที่จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ประธานาธิบดีสหรัฐในขณะนั้น เดินทางมาเยือนอิรักและแถลงข่าวอำลาก่อนพ้นจากตำแหน่งที่กรุงแบกแดด ไซดีได้ขว้างรองเท้าทั้งสองข้างเข้าใส่บุชพร้อมกับตะโกนด่า บุชหลบได้ แต่ไซดีถูกจับดำเนินคดีในข้อหาประทุษร้ายผู้นำประเทศ และต้องโทษในเรือนจำ 9 เดือน หลังได้รับการปล่อยตัว เขาลี้ภัยไปอยู่เลบานอนและมีลูกสาวหนึ่งคน

    ไซดีกล่าวว่า เขาไม่รู้สึกเสียใจที่ปารองเท้าใส่อดีตประธานาธิบดีบุช แต่เสียใจที่ในเวลานั้นน่าจะมีรองเท้าอีกคู่ ไซดีลงเลือกตั้ง ส.ส.ในนามกลุ่ม "เดินขบวนสู่การปฏิรูป" ซึ่งเป็นพันธมิตรระหว่างอิหม่ามชีอะห์ มุกตาดา อัลชาตร์ กับพรรคคอมมิวนิสต์ บอกว่าที่เลือกกลุ่มอิสระเพราะต้องการสลายการแตกแยกของประชาชนจากความแตกต่างทางนิกาย

    เมื่อถามถึงความคิดเห็นเรื่องที่สหรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องกับอิรัก ไซดีบอกว่าเขายังคงยืนกรานคัดค้านในเรื่องนี้และต้องการให้กองทัพสหรัฐออกจากอิรัก และเขาไม่เชื่อว่าการที่กองทัพสหรัฐอยู่ในอิรักจะช่วยปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) แต่สหรัฐกลับชื่นชอบไอเอสและไม่ได้ช่วยกำจัดแต่อย่างใด.