เมื่อ 3 อดีตผู้นำมะกันประกาศ พร้อมฉีดวัคซีนโควิด!


เพิ่มเพื่อน    

     เห็นภาพของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐสามคนนี้ คนอเมริกันคงมีกำลังใจขึ้นโขทีเดียว

                เพราะเป็นการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แม้ความคิดทางการเมืองอาจจะต่างกัน

                แต่ในยามบ้านเมืองต้องการความสมัครสมานสามัคคี ทุกคนก็พร้อมจะก้าวออกมาแสดงความสมานฉันท์

                ไม่เหมือนโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตผู้นำ แต่ไม่ยอมแม้จะประกาศความพ่ายแพ้และแสดงความยินดีกับคู่แข่งโจ ไบเดน

                บารัค โอบามา, จอร์จ ดับเบิลยู บุช และบิล คลินตัน ออกมาประกาศพร้อมกันว่าจะทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี ขอเป็น “อาสาสมัคร” ยอมทดลองวัคซีนที่กำลังจะผลิตออกมาช่วยชาวอเมริกันให้รอดจากวิกฤติโควิด-19

                ในจังหวะเดียวกับที่ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 บอกว่าจะขอให้คนอเมริกันทั้งประเทศสวมหน้ากากอนามัย 100 วัน หลังจากที่เขาเข้าทำเนียบขาว

                อันว่า 100 วันนั้นมีความหมายทางด้านการเมืองสหรัฐมายาวนาน

                เพราะผู้นำทุกคน ทันทีที่เข้ารับตำแหน่งจะประกาศเป้าหมายระยะสั้นว่าจะทำอะไรให้สำเร็จภายใน 100 วัน เป็นการให้สัญญากับประชาชนว่าจะต้องสร้างผลงานให้ประจักษ์ต่อสาธารณชน

                เมื่อปัญหาใหญ่ที่สุดของสหรัฐวันนี้คือการระบาดของโควิดอย่างรุนแรงและไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนเบาลง เป้าหมายอันดับหนึ่งของโจ ไบเดน ก็หนีไม่พ้นว่าต้องเป็นเรื่องโควิด

                และเพื่อระดมสรรพกำลังของคนทั้งประเทศให้ประสานพลังกันในการสู้กับโควิด ไบเดนจึงเสนอให้คนอเมริกันทั่วประเทศสวมหน้ากากพร้อมกัน 100 วัน

                อย่างน้อยก็เป็นสัญลักษณ์ว่าเมื่อผ่านพ้นช่วงบ้านเมืองแตกแยกหนักหน่วงภายใต้การบริหารของทรัมป์ 4 ปี ผู้นำคนใหม่ก็ควรจะต้องแสดงความพร้อมที่จะเชิญชวนคนทั้งประเทศมารณรงค์สู้กับโรคระบาดร้ายแรงนี้

                ไม่ว่าจะเป็น 80 ล้านคน ที่ลงคะแนนให้ไบเดน หรือ 74 ล้านคนที่หย่อนบัตรให้ทรัมป์

                การที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ 3 คนออกมาแสดงจุดยืนร่วมกันว่าพร้อมจะเป็นผู้อาสาทดลองวัคซีนก็เพื่อให้คนอเมริกันที่ยังลังเล ไม่แน่ใจว่าวัคซีนจะปลอดภัยหรือไม่เลิกกลัว

                โอบามาบอกว่า “ถ้าคุณหมอแอนโทนี ฟาวซี เห็นว่าวัคซีนปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ผมก็พร้อมจะฉีด...”

                ไบเดนได้พูดกับหมอฟาวซีแล้ว และขอให้อยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษาใหญ่ทางการแพทย์ของทำเนียบขาวด้านสู้โควิดต่อไป

                หมอฟาวซีมีเรื่องระหองระแหงกับทรัมป์ เพราะได้แสดงความเห็นตรงไปตรงมา ไม่พูดเอาใจทรัมป์ที่ไม่ต้องการให้คนอเมริกันเอาจริงเอาจังกับการป้องกันการแพร่ของโควิด

                ทรัมป์เคยประกาศว่าเสร็จเลือกตั้งแล้วก็ปลดหมอฟาวซี

                แต่วันนี้ไบเดนบอกว่ามีความเคารพนับถือหมอใหญ่ท่านนี้มาก เพราะเป็นมืออาชีพและพูดจาตรงความเป็นจริง ไม่พูดอะไรเพียงเพื่อเอาใจฝ่ายการเมืองเท่านั้น

                โอบามาบอกว่าตอนที่ฉีดหรือรับวัคซีน เขาจะถ่ายคลิปวิดีโอหรือออกทีวีด้วยเพื่อให้ประชาชนคนอเมริกันทั้งหลายเห็นว่าเขาเชื่อในเรื่องวิทยาศาสตร์ ไม่ทำอะไรเพียงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

                ผมอยากรู้ว่าทรัมป์จะยอมฉีดวัคซีนต้านโควิดหรือเปล่า

                พอเดาได้เลยว่าถ้าโอบามาบอกว่าจะรับวัคซีน ทรัมป์ก็จะปฏิเสธ

                เพราะตลอดชีวิตการเมืองของทรัมป์ เขาต้องการยืนอยู่คนละข้างกับโอบามาโดยสิ้นเชิง

                ยิ่งเมื่ออังกฤษและรัสเซียประกาศว่าจะเริ่มแจกวัคซีนภายในสัปดาห์นี้แล้ว ยิ่งมีแรงกดดันสหรัฐให้ต้องทำอะไรรวดเร็วและชัดเจนขึ้น

                เพราะตัวเลขคนติดเชื้อและเสียชีวิตของอเมริกายังพุ่งอย่างไม่หยุดยั้ง

                ทั้ง Pfizer และ Moderna ได้ออกมายืนยันว่าผลการทดลองวัคซีนได้ผลดีกว่า 90% แล้ว

                แต่คนอเมริกันจำนวนหนึ่ง (รวมถึงในชุมชนคนผิวดำ) ยังไม่เชื่อเรื่องวัคซีน เพราะเคยมีเรื่องราวที่อ้างว่าการฉีดวัคซีนเข้าร่างกายเป็นเรื่องอันตราย

                พ่อแม่จำนวนหนึ่งในอเมริกาไม่ยอมให้ลูกตัวเองฉีดวัคซีน และขู่ว่าจะฟ้องร้องใครก็ตามที่บังคับให้ลูกต้องรับวัคซีนด้วย

                จึงกลายเป็นภาระหนักของไบเดนที่จะต้องระดมผู้คนที่มีชื่อเสียงออกมาเรียกร้องให้ทุกคนร่วมการรณรงค์เรื่องนี้

                เพราะหากไบเดนเข้ามาบริหารประกาศแล้ว ภาวะการระบาดของโควิดยังไม่กระเตื้องขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ก็จะเป็นหายนะทางการเมืองของทั้งไบเดน, พรรคเดโมแครตและวงการแพทย์สหรัฐทั้งสิ้นทั้งปวงแน่นอน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"