ยังต้องลุ้นกัน 50-50 ว่าพรรคคนเสื้อแดงจะได้เกิดหรือไม่ นาทีนี้แกนนำเสื้อแดงส่วนกลาง สหายปูน-ธิดา ถาวรเศรษฐ, นิสิต สินธุไพร, บักเต้น-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, สหายเข้ม-เหวง โตจิราการ ที่เป็นแกนนำหลัก ขับเคลื่อนเสื้อแดง ต่างเทน้ำหนักไปในทางไม่อยากให้มีพรรคการเมืองเกิดขึ้น โดยหวั่นว่าจะเป็นการตัดคะแนนหลักของ "พรรคเพื่อไทย" ที่เป็นพันธมิตรการเมืองแนวร่วมกันอยู่

      ทว่าแนวร่วมส่วนกลางบางคนไม่ได้คิดเช่นนั้น มองว่าสมควรที่จะมีพรรค เพราะจะยิ่งเป็นการ กระจายความเสี่ยงหากเพื่อไทยเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง มีเรื่องไม่คาดฝัน ก็ยังมีพรรคสำรองรองรับ  และไม่ได้มองว่าเป็นการตัดคะแนนเสียงแย่งฐานกันเอง

      ว่ากันอีกว่าระดับนายทุนใหญ่เสื้อแดงอย่าง สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่แท็กทีมกับ ยงยุทธ ติยะไพรัช อีกหนึ่งแบ็กอัพคนสำคัญคนเสื้อแดง มีแนวคิดโน้มเอียงจัดตั้งพรรคเช่นกัน

      กลายเป็นทางสองแพร่งทางความคิดที่ต่างก็มีเหตุผลรองรับ

      ในส่วนกลางยังไม่เคาะจะผลักดันพรรคในนามกลุ่มมวลชนดีหรือไม่ แต่แนวคิดพื้นที่วางโครงสร้าง จุดประกายไอเดียออกมาก่อนแล้ว โดย สิระ พิมพ์กลาง แกนนำแดงสกลนครที่เคยโดนร่างแหมีคดีติดตัวมาด้วย จากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2552 ออกมาจุดประกายขายไอเดียเรื่องพรรคอย่างน่าสนใจ

       “....จุดประสงค์เพื่อทำให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชนเป็นใหญ่จริงๆ ไม่ใช่ของกลุ่มทุน มีเศรษฐีคอยชี้นิ้วสั่งการ มีอำมาตย์ มีพวกอนุรักษนิยมแทรกเข้ามาในระบอบประชาธิปไตยในพรรคการเมือง ประชาธิปัตย์หรือแม้แต่พรรคเพื่อไทยต่างมีกลุ่มของตัวเอง ไม่ได้มองประชาชนเป็นหลัก ไม่เห็นหัว  ถามว่าสมาชิกพรรคก่อนหน้านี้มีใครเคยได้รับเชิญไปร่วมแสดงความเห็น มีส่วนร่วมเสนอนโยบายบ้าง

…..ในส่วนของแนวร่วมนั้นพร้อมแล้ว ได้พูดคุยกับคนเสื้อแดงหลายพื้นที่ นครพนม มหาสารคาม  ร้อยเอ็ด ที่ต่างยืนยันหากทำให้การเมืองเกิดความรักสามัคคี โดยยึดหลักระบอบประชาธิปไตยเป็นหลัก ได้จริง ทำให้ไม่มีการปฏิวัติได้อีก ต่างยินดีร่วมด้วย จะไม่เอาแนวคิดเสื้อแดงแบบหลุดโลกมาใช้ อยากทำให้เกษตรกรมั่งคง ราคาพืชผลการเกษตรดีขึ้น อยากให้ทั้งฝ่ายแดง เหลือง ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ จับมือกันเปลี่ยนแปลงประเทศ ทำให้เกิดความรัก สามัคคี ปรองดองในชาติ”

      โฟกัสที่ความปรองดองเป็นประเด็นหลัก แม้ชื่อชั้นออกจะโนเนม แต่แนวคิดไม่ธรรมดา เพียงแต่นาทีนี้แนวคิดทำพรรคยังติดที่ กระสุนดินดำ และ แบ็กอัพมือโปร

         แต่สำหรับไอเดียที่จุดประกายออกมาพอขายได้ ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ฝ่ายสีเขียวเรื่องปรองดอง  ความสามัคคี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในลึกๆ แล้ว สีเขียวอยากทำให้สีแดงแตกตัวมาทำการเมือง ดึงเสียงดึงคะแนนออกไปทั้งเพื่อไทย พรรคแนวร่วมพันธมิตรที่กำลังมาแรง ให้มา ตัดฐานกันเอง

      น้ำหนักความโน้มเอียงนาทีนี้ แดงอำมาตย์จากส่วนกลางไม่อยากให้เกิดพรรคเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็น พรรคที่แนวร่วมจากต่างจังหวัดจัดตั้งเอง หรือแนวร่วมจากส่วนกลางเข้าไปมีส่วนรวม แกนนำแดงในระดับนักยุทธศาสตร์เห็นไปในทิศทางเดียวกัน พรรคเพื่อไทยเป็นแกนหลัก เป็นพรรคที่พึ่งพิงได้ ด้วยประสบการณ์ กองกำลัง ยุทธศาสตร์ที่เพียบพร้อม ยากที่จะไปต่อกรหากต้องมาวัดในสนามการเมืองเพื่อขอแบ่งฐานเสียงกันจริงๆ

      ในยุคที่ถูกแบ่งเพียง ประชาธิปไตย กับ เผด็จการ จึงต้องมีตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวในการร่วมต่อสู้  และทุกคนต้องร่วมต่อสู้กันเพื่อพรรคเดียว ไม่ควรเกิดการแบ่งขั้ว แยกค่ายกันทำ พร้อมกับความหวาดหวั่นลึกๆ กลัวไปไม่รอด เหมือนสมัยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคยแตกตัวออกมาทำพรรคการเมือง แต่ต่อมาก็ไม่ตอบโจทย์การเมืองในภาพรวม ฐานคะแนนเสียงไม่ได้ถูกแบ่งออกมา คนยังเทไปที่ประชาธิปัตย์อยู่ดี

        กลัวพรรคเสื้อแดงจะตกอยู่ในสภาพเดียวกัน

      ไม่ว่าอย่างไร แม้เวลานี้พรรคเสื้อแดงยังไม่อาจฟันธงได้ว่าจะเกิดอย่าง 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่  ระดับแกนนำ นักยุทธศาสตร์เคลื่อนไหวในอดีตกำลังดีดลูกคิด หากทำไปแล้วจะเสียมากกว่าได้ หรือ ได้มากกว่าเสียกันแน่ ขอดูยุทธศาสตร์ไพ่ใบสุดท้ายของ คสช.อีกครั้ง ก่อนกางตำราตั้งรับผ่านการสู้รบด้วยพรรคการเมือง

      แต่ยังมีเวลาให้นักยุทธศาสตร์และคนแดนไกลได้คิดจนถึงก่อนปลายเดือนนี้ ก่อนที่จะมีการปลดล็อกการเมืองอย่างเต็มตัวในเดือนหน้า

      ว่าสุดท้ายแล้วจะรวมศูนย์อำนาจไว้เพียงแห่งเดียว หรือจะแตกหน่อแยกกันเดิน..ร่วมกันตี