'ถาวร'จี้ทย.เร่งเบิกจ่ายงบปี63 เบรกโอนสามสนามบินให้ทอท.


เพิ่มเพื่อน    

 

7 ธ.ค.2563 นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการตรวจราชการและติดตามการดำเนินงานของกรมท่าอากาศยาน(ทย.) ว่าได้มีการติดตามงานของ ทย.ที่เคยมอบนโยบายในเรื่องของการบริหารงานงบประมาณประจำปี 2563 โดยเฉพาะการเร่งรัดเบิกจ่ายฯ เนื่องจากยังมีโครงการที่ยังไม่ได้มีการลงนามผูกพัน ลงนามสัญญา จึงมีการติดตามว่าล่าช้าจากส่วนใดก็ได้ขอให้ทาง ทย.เร่งดำเนินการ และได้มีการตรวจสอบหาสาเหตุข้อเท็จจริงเกี่ยวกับงบประมาณตั้งแต่ปี 2557-2562 จำนวน 12 โครงการ งบประมาณ 228 ล้านบาท โดยได้สั่งการให้ ทย.จัดตั้งคณะทำงานถึงเหตุผลและสาเหตุว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากสาเหตุใด และจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการควบคู่เพื่อร่วมพิจารณากรณีดังกล่าวด้วย 

นายถาวร กล่าวว่าขณะที่ในส่วนของงบประมาณจำปี 64 นั้น จะมีการเน้นปฎิบัติงานตามแผนปฏิบัติงาน (Action Plan) ซึ่งการใช้จ่ายงบประมาณปี 64 จะต้องมีความชัดเจนเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดสอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายกระทรวงฯ และการจัดซื้อตัดจ้างที่ถูกต้องตามสัญญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้องทบทวน ถอดบทเรียน ปัญหาอุปสรรคการจัดซื้อจัดจ้างจากการดำเนินงานในปีที่ผ่านมามีระบบติดตามและประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณแบบเร่งด่วนเพื่อการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์การวิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาลเพื่อเป็นข้อมูลบ่งชี้ความคืบหน้าและระดับความสำเร็จนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้นในอนาคต 

ทั้งนี้ เนื่องจากมีหลายครั้งที่มีการแก้สัญญาเกิดจากแบบที่ไม่สมบูรณ์ การรวมศูนย์ 29 สนามบินมีการติดตามที่ขาดประสิทธิภาพ จึงขอให้ ทย.พิจารณาโครงการของหน่วยงานโดยเพิ่มเรื่องการก่อสร้างการจัดทำร่างเอกสารจัดซื้อจัดจ้าง(TOR) และหารือกรมยัญชีกลางหรือฝ่ายยุทธศาสตร์กระทรวงฯ รวมถึงการจัดงบประมาณ 65 ก็จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และขอให้มีการกระจายงบประมาณในการพัฒนาให้ครอบคลุมทุกสนามบินภายใต้สังกัด ทย.ด้วย 

สำหรับการโอนย้ายท่าอากาศยานในกำกับให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน(ทอท.) ล่าสุดทางคณะทำงานได้พิจารณาเสนอท่าอากาศยานกระบี่ บุรีรัมย์ และชุมพร ซึ่งได้ตั้งข้อสังเกตถึงคณะทำงานว่าน่าจะลงทุนในสนามบินที่ขาดทุนหรือมีรายได้น้อยกว่าเนื่องจากท่าอากาศยานกระบี่เป็นท่าอากาศยานที่สร้างรายได้ให้แก่ ทย.จึงได้ขอให้คณะทำงานพิจารณาอย่างรอบคอบ รวมถึงพิจารณาเรื่องหลักกฎหมายและความเท่าเทียม เพราะสนามบินของ ทย.ที่ผ่านมาจะดูเรื่องความคุ้มทุนทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ได้กังวลเรื่องผลตอบแทนด้านการเงิน พร้อมมั่นใจว่า กรมท่าอากาศยานมีเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถบริหารงานได้เหมือนกัน  

อย่างไรก็ตามในส่วนของท่าอากาศยานเบตงนั้น ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการมาเพื่อพิจาณาแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังมีปัญหาเรื่องการออกใบอนุญาตการนำร่อนเครื่องบินขึ้นลง จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) โดยต้องการให้เปิดให้บริการได้เร็วที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีสาบการบินที่ให้ความสนใจบางกอกแอร์เวย์สและนกแอร์ โดยยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการขอลดหย่อนและสิทธิพิเศษบางประการ แต่คาดว่จะเปิดให้บริการในอีก 1-2 เดือน หรืออย่างช้าในเดือน ก.พ.ปีหน้า 

สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั้งส่วนของผู้ประกอบการสายการบินและคู่สัญญาอาคาร ฯ ก็ได้มีการมอบหมายให้ทาง ทย.พิจารณาเยียวยาให้เหมาะสมสอดคล้องกับการบริหารจัดการงบประมาณการให้ความช่วยเหลือของ ทย.ได้แก่ 1.การปรับลดค่าธรรมเนียมการขึ้นลงของอากาศยาน และที่จอดอากาศยาน (Landing & Parking Fee) สำหรับผู้ประกอบการสายการบิน ลง 50% ในช่วงเดือน เม.ย.- ธ.ค. 2563 2.ลดอัตราค่าเช่าพื้นที่ภายในท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน 50% เฉพาะกิจกรรมที่ได้รับผลกระทบจากผู้โดยสารลดลงโดยตรง ที่มีการปรับอัตราค่าเช่าไปแล้ว เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-31 ส.ค. 2563 

 3.ปรับลดอัตราค่าเช่าสำหรับผู้ประกอบการภายในท่าอากาศยานทุกรายในอัตราค่าเช่าไม่ต่ำกว่าที่กรมธนารักษ์กำหนด เป็นระยะเวลา 9 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 31 ธ.ค.2563 และ4.ขยายระยะเวลาการชำระเงินในการทำสัญญาเช่าของผู้ประกอบการภายในท่าอากาศยานทุกราย ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2563 รวมถึงสั่งการให้มีการเข้มงวดตามมาตรการป้องการและควบคุมโรคตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ทุกสนามบินที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทย. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"