โพลชี้ ประชาชนเห็นด้วยกองสลากจะขายเลขชุด มั่นใจแก้ปัญหาขายสลากเกินราคา ตัดพ่อค้าคนกลาง แต่ร้อยละ 24 ไม่เชื่อน้ำยา ระบุแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เช่นเดียวกับหวยออนไลน์และลอตโต้ ที่คนส่วนใหญ่หนุน 
    เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับหวยออนไลน์-ลอตโต้” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 1-2 พฤษภาคม 2561 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวม 1,250 หน่วยตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 75.20 ระบุว่า เห็นด้วยกับการที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะพิมพ์สลากเลขชุดออกจำหน่ายเอง เพื่อลดปัญหาการขายสลากเกินราคา เพราะจะได้ซื้อได้ในราคาที่กำหนด มีราคาที่แน่นอน สามารถควบคุมราคาได้ ลดปัญหาพ่อค้าคนกลางและการเอาเปรียบผู้บริโภค ร้อยละ 24.16 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะไม่อยากให้มีการขายเลขชุด ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ขณะที่บางส่วนระบุว่า น่าจะมีวิธีการจัดการกับพ่อค้าคนกลางมากกว่าการจัดพิมพ์จำหน่ายเอง และยังทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีรายได้ลดลงอีกด้วย
    ส่วนที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะเพิ่มการขายหวยออนไลน์ พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 67.68 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะสะดวก หาซื้อง่าย ถูกต้องตามกฎหมาย ง่ายต่อการควบคุมราคา และยังช่วยลดปัญหาการขายสลากเกินราคา บางส่วนระบุว่า เพื่อลดการซื้อหวยใต้ดินลง แต่ร้อยละ 30.72 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะมีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน เข้าถึงได้ยาก ไม่สะดวกเท่าซื้อตามแผงขายทั่วไป ทั้งสามารถโกงได้ง่าย บางส่วนระบุว่า อยากให้มีการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเพียงอย่างเดียว เพื่อลดการสร้างหนี้ของประชาชน
    เมื่อถามถึงการที่สำนักงานสลากฯ จะเพิ่มการขายหวยลอตโต้ พบว่า ร้อยละ 53.68 เห็นด้วย เพราะสะดวกในการเลือกซื้อ ง่ายในการควบคุมราคา เพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อ มีโอกาสถูกรางวัลค่อนข้างสูง และได้ซื้อเลขที่ชอบ บางส่วนระบุว่า เพื่อลดการซื้อหวยใต้ดินลง และเป็นการช่วยอุดหนุนรัฐบาล ร้อยละ 38.08 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะค่อนข้างยุ่งยากและวุ่นวาย สำหรับคนที่ใช้ไม่เป็น มีตัวเลือกมากเกินไป ทำให้ประชาชนงมงายมากขึ้น บางส่วนระบุว่า อยากให้มีการขายสลากกินแบ่งฯ อย่างเดียว และให้จบเป็นงวดๆ ไป
    สำหรับการแก้ปัญหาขายสลากเกินราคา โดยเพิ่มโทษจากปรับไม่เกิน 2,000 บาท เป็นจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ร้อยละ 55.36 ระบุว่า แก้ไขไม่ได้ เพราะบทลงโทษยังไม่รุนแรงพอ การบังคับใช้กฎหมายไม่จริงจัง ทำให้ไม่มีความเกรงกลัวกฎหมาย บางส่วนระบุว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ตรงจุด เนื่องจากเป็นปัญหาที่มีมานานและไม่สามารถแก้ไขได้ ร้อยละ 43.60 ระบุว่า แก้ไขได้ เพราะมีการเพิ่มบทลงโทษให้รุนแรงขึ้น ทำให้เกิดความเกรงกลัวต่อกฎหมายและไม่กล้ากระทำผิด บางส่วนระบุว่า อยากให้มีการบังคับใช้บทลงโทษอย่างจริงจัง
    ส่วนกรณีที่กรมสรรพากรแก้กฎหมายที่ใช้มาตั้งแต่ ปี 2525 ในการเรียกเก็บค่าอากรแสตมป์จากผู้ที่ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล จากเดิมร้อยละ 0.5 ของเงินรางวัล เป็นร้อยละ 2 ผลสำรวจ ร้อยละ 66.64 ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูง มีโอกาสที่จะถูกรางวัลน้อยมาก และไม่เป็นธรรมกับประชาชน บางส่วนระบุว่า เก็บในอัตราเดิมเหมาะสมดีแล้ว ร้อยละ 32.24 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะเงินจะได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้น สามารถนำเงินที่เพิ่มขึ้นมาช่วยเหลือประชาชนและพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ต่อไป บางส่วนระบุว่า เป็นอัตราที่เหมาะสมแล้ว ไม่มากหรือน้อยเกินไป.